คดีพลิกสุดช็อก พ่อแท้ๆสารภาพขืนใจลูก 8 ขวบ อ้างเมายาบ้า ผูกคอในห้องขัง-หนีผิด
จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนในช่วงดึกขณะที่พ่อแม่ออกไปกรีดยางแล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง จนทำให้เด็กเกิดอาการคลุ้มคลั่ง มีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลตรังนั้น
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ท.วีระพงศ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.วรภัทร์ วัฒนวิศาล รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ธนชาติ บุญโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.อรุณ กุลสิรวิชย์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.ปรีชา ชูแก้ว รอง ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.เอกพงษ์ ทั่งจันทร์แดง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.ท.สมยศ สมบัติมาก หน.สภ.หนองตรุด ร่วมกันแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม นายเอ (นามสมติ) อายุ 33 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง ตามหมายจับของศาลที่ จ.229/2559 ลงวันที่ 23 พ.ค.2559 ในคดีข่มขืนฆ่าบุตรสาวของตนเอง ตามข้อกล่าวหาว่า" ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน โดยเด็กไม่ยินยอม โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต" ซึ่งในชั้นจับกุมผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ แต่ต่อมาให้การรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า ตนได้กระทำชำเราบุตรสาวของตนเอง โดยมีพยานหลักฐานจากการสืบสวนสอบสวน และทางนิติวิทยาศาสตร์ มัดตัวชัดเจน
สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหามาแล้ว 1 คน และกำลังอยู่ในความควบคุมของพนักงานสอบสวน คือนายศรัณย์รัชต์ อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้านเด็กหญิงเคราะห์ร้าย ที่อ.เมืองตรัง ตามหมายจับของศาลที่ จ.209/2559 ลงวันที่ 12 พ.ค.2559 แต่ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน นายศรัณย์รัชต์ยังคงให้ปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า ก่อนที่น้องเก๋จะเสียชีวิต ได้บอกกับผู้เป็นแม่ว่านายศรัณย์รัชต์ เป็นผู้ที่ลงมือกระทำชำเรา
ประกอบกับในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบข้อพิรุธหลายอย่าง และผลจากการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาในเบื้องต้น พบบาดแผลจากรอยขีดข่วน ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากเล็บมือของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย รวมทั้งยังมีพยานบุคคล และพยานแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่พัวพันกับยาเสพติด ซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกใกล้บ้านที่เกิดเหตุ จึงเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติต่อศาล จ.ตรัง เพื่อออกหมายจับและจับกุมตัวนายศรัณย์รัชต์ในเวลาต่อมา พร้อมนำตัวไปตรวจดีเอ็นเอ และตรวจร่างกายที่ รพ.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา
อย่างไรก็ตาม จากการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ตรัง เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม โดยพิจารณาจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งอาศัยอยู่ในละแวกใกล้บ้านที่เกิดเหตุ และจากหลักฐานใหม่ที่ได้จากพยานบุคคล พยานแวดล้อม และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงไปสู่การขออนุมัติต่อศาล จ.ตรัง เพื่อออกหมายจับและจับกุมตัวนายเอ ผู้เป็นพ่อ ก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามผูกคอตนเองในห้องขัง สภ.เมืองตรัง อันเนื่องมาจากความเครียดหลังตกเป็นผู้ต้องหารายที่ 2
ทั้งนี้ ตอนแรก นายเอให้การปฎิเสธ แต่ยอมรับสารภาพในเวลาต่อมา และอ้างเพียงว่าในคืนเกิดเหตุเสพยาบ้าเข้าไปจนมึนเมา จากนั้นลงมือกระทำชำเราบุตรสาวของตนเองโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ยอมให้การว่าได้ลงมือเพียงคนเดียว หรือมีผู้ใดร่วมลงมือด้วยอีกหรือไม่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เหลืออีก 6 คน ซึ่งเป็นคนละแวกบ้านที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปตรวจดีเอ็นเอ และตรวจร่างกายที่ รพ.สงขลานครินทร์ แล้วนั้นยังคงต้องรอผลการตรวจ ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ผลในสัปดาห์นี้ เพื่อนำมาสรุปปิดคดีนี้โดยเร็วที่สุด
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากแพทย์เป็นบางส่วน เช่น การตรวจร่างกายของผู้ต้องหา การตรวจหลักฐานในที่เกิดเหตุ เช่น เส้นผม ขน เสื้อผ้า จึงได้มีการเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องพูดถึงเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผลจากการสืบสวนสอบสวนอาจจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคมจำนวนมาก ผลปรากฏว่า พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์สามารถระบุโดยชัดเจนว่า นายกิตติศักดิ์ มีส่วนในการก่อคดีนี้
ดังนั้น จึงได้ขออนุมัติหมายศาลและเข้าควบคุมตัวมาสอบสวน ในเบื้องต้นตัว นายเอ รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการเสพยาบ้า ก่อนจะเข้าไปนอนกับลูกสาว ซึ่งเป็นห้องนอนรวมที่ใช้นอนกันตามปกติ และรับว่าด้วยฤทธิ์ของยาบ้า ทำให้ได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวไปควบคุมต่อ โดยกำชับให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ต้องหามีความเครียดสูงมาก มีอาการเกร็ง และร้องไห้ แต่ก็ได้ใช้เชือกจากกางเกงกีฬาที่สวมใส่อยู่มาผูกคอตัวเองกับก๊อกน้ำในห้องขัง แต่โชคดีที่เข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลา
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment