จับเครือข่ายยาบ้าที่ขอนแก่น รวบตัว 4 ผู้ต้องหายึดของกลางเกือบ 6 พันเม็ด เงินสด 3 แสน

 

 เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 พ.ค. ที่สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต. จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.สุดพิเศษ เอกศิริ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น  พ.ต.ท.อนุศักดิ์ ศักดาวัรานนท์ รอง ผกก.ป. พ.ท. พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ กกล.รส.ขอนแก่น นายณชพัฒน์ ไกรศรีวรรธนะ จนท.การข่าว กอ.รมน.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้ารายสำคัญ พร้อมจับผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1.นายสมเกียรติ หรือหนุ่ม ขำกล่อม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.9 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมยาบ้า จำนวน 5,700 เม็ด กล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”


  2.นายภานุวัฒน์ หรือเอ้ ทำโคตร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.9 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษ” 3.นายอดิศักดิ์ หรืออ้น ดีภัย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 358 ม.18 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ของกลางยาบ้า จำนวน 4 เม็ด กล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” 4.นายพีรพล หรือเอ้ สีสะอาด อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.5 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.ขอนแก่น ของกลางยาบ้า จำนวน 2 เม็ด กล่าวหาว่า “มียาสเพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลาง โทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 1 เล่ม และเงินสดจำนวน 348,500 บาท

  พล.ต.ต.จิตรจรูญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง สืบทราบว่าจะมีเครือข่ายนักค้ายาเสพติด นำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จึงได้ติดตามสืบสวนจนทราบว่า นักค้ายาบ้ามาพักอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง จึงได้ไปตรวจสอบและสามารถจับกุมตัวนายสมเกียรติ พร้อมยาบ้า จำนวน 5,700 เม็ด นำมาสอบสวนขยายผล จนจับกุมผู้ต้องหารายอื่นได้อีก 3 คน

  นายสมเกียรติ ยอมรับสารภาพว่า เคยมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า แอร์ รับจ้างติดตั้งทั่วไป รับยาบ้ามาจากคนชื่อนายบัญชา ไม่ทราบนามสกุล ที่อยู่อุดรธานี ครั้งละ 1 มัด แล้วนำมาจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าในตัวเมืองขอนแก่นจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ยอมรับว่าทำมา 4 ครั้งแล้ว

  หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่จึงมอบตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา ข่าวสด