Wednesday, February 3, 2016

ตามรวบ 2โจ๋ ลวงหนุ่มใหญ่มาทุบหัวชิงทรัพย์คาโรงแรมที่นครปฐม

 

ตร.นครปฐม ตามรวบตัว 2 หนุ่ม ลวงคู่ขาหนุ่มใหญ่ชาวสุพรรณบุรี มาเปิดโรงแรมย่านตัวเมือง ก่อนนัดเพื่อนมาทุบหัวเพื่อชิงทรัพย์ โดย 1 ในผู้ต้องหายังเป็นทหารเกณฑ์ที่หนีออกจากหน่วย จนมาก่อเหตุดังกล่าว...


เมื่อวันที่ 2 ก.พ. พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จ.นครปฐม สั่งการให้ พ.ต.อ.พศวีย์ เรืองภู่ ผกก.สภ.ดอนตูม พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนภาค 7 จับกุมตัวนายสุริยา บริกุล อายุ 31 ปี และนายวัชระ หรือ เจ ชูทอง อายุ 23 ปี ที่ริมถนนพลดำริห์ ม.3 ต.ลำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงนครปฐม พร้อมวัตถุคล้ายทองรูปพรรณ สร้อยคอ 2 เส้น เลสข้อมือ 1 เส้น นาฬิกาทอง 1 เรือน เงินสดจำนวน 28,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีดำ ทะเบียน 694 กทม.

พ.ต.อ.พศวีย์ เผยว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่า นายสมศักดิ์ พรรณพฤกษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มาเข้าพักที่ห้อง 101 โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนพลดำริห์ ม.3 ต.ลำลูกบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม โดยนายวัชระ ได้โทรนัดออกมาเข้าพักภายในห้องดังกล่าว โดยมี นายสุริยา ขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่ห้องพัก หลังจากนั้น 10 นาที นายสุริยา ได้กลับมาที่หน้าห้องพักพร้อมกับเคาะประตู นายวัชระจึงเปิดประตูให้เข้ามา จากนั้นนายสุริยาได้ใช้ไม้ตี จนนายสมศักดิ์ได้รับบาดเจ็บ และสลบคาห้องพัก จากนั้นได้นำกุณแจรถกระบะมาเปิด และชิงทรัพย์หลบหนี กระทั่งเวลา 23.50 น. พนักงานโรงแรมมาพบนายสมศักดิ์ นอนหมดสติ ภายในรถกระบะ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมนำตัวส่งรักษาที่ โรงพยาบาลดอนตูม หลังทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ พร้อมตั้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่และจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการร่วมกันกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

ด้านนายสมศักดิ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้จักกับผู้ต้องหาเป็นอย่างดี มีความสนิทสนมกันมานานกว่า 3 ปี ด้วยความไว้ใจผู้ต้องหาโทรนัดจึงออกมาพบไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายและชิงทรัพย์ พร้อมทั้งขอร้องให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คืนเอกสารสำคัญที่อยู่ภายในกระเป๋า โดยผู้ต้องหาอ้างว่านำไปทิ้งที่แม่น้ำท่าจีนแล้ว อีกทั้งยังฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมตัวมาลงโทษได้ เพราะหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหามีการโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ ยังเป็นทหารเกณฑ์ในส่วนกองทัพอากาศ ในหน่วย ร.ร.การบินกำแพงแสน โดยได้ทำเรื่องขอลากลับบ้าน จากนั้นได้หนีหน่วย ไม่ยอมกลับไปเป็นทหารเกณฑ์อีก.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets