Wednesday, November 25, 2015

ศาลแพ่งพิพากษาคดี‘แพรวา’ สาวซิ่งเก๋งชนรถตู้บนโทลล์เวย์ ตาย 9 ศพ ชดใช้ 30 ล้าน!!

 

 วันที่ 26 พ.ย. ศาลแพ่งนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่ญาติของผู้เสียชีวิต 9 ราย และผู้บาดเจ็บ 4 คน จากอุบัติเหตุ น.ส.แพรวา (นามสมมติ) เยาวชนหญิง ขับรถยนต์เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารพลิกคว่ำ เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ร่วมกันเป็นโจทก์รวม 28 คน ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา รวมทั้งบิดาและมารดา น.ส.แพรวา เรื่องกระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย กว่า 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี


 ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งที่สืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำ พิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดว่าการขับรถของ น.ส.แพรวา เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำละเมิด จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อรับฟังได้ว่า น.ส.แพรวา จำเลยที่ 1 กระทำผิด บิดา และมารดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ก็ไม่ได้นำสืบถึงความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย

  ดังนั้น พิพากษาให้น.ส.แพรวา บิดา และมารดาของน.ส.แพรวา ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วยค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าอื่นๆ ให้กับโจทก์ร่วม รวม 28 คน ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ แต่ละคน ในจำนวนเงินแตกต่างกัน ตั้งแต่ คนละ 4,000 บาท ถึง 1,800,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

 ด้าน พ.ต.อ.กศรัญ นิลวรรณ บิดาของนางสาวสุดาวดี นิลวรรณ 1 ในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ศาลสั่งให้ชดใช้เงินประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนเงินที่เรียกร้องไป ซึ่งความเห็นของผู้เสียหายส่วนใหญ่เห็นว่าน้อยเกินไป แต่ก็เคารพคำตัดสินของศาล โดยจากนี้ทางกลุ่มทนายความของโจทก์จะประชุมหารือกันในวันที่ 22 ธันวาคม นี้ ว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และหากยื่นอุทธรณ์ จะยื่นในประเด็นใด

 ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลสั่งจ่าย แตกต่างกันออกไป ทั้งค่าไร้อุปการะ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าทุกข์ทรมานจากการรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าทางฝ่ายจำเลยจะมีการยื่นอุทธรณ์เช่นกัน เพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเสียหายออกไป และหลังเกิดเหตุมาแล้ว 5 ปี ทางฝ่ายจำเลยก็ไม่เคยมาพบกับกลุ่มผู้เสียหาย

 สำหรับคดีอาญาที่อัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 ยื่นฟ้อง น.ส.แพรวา ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย นั้น ซึ่งขณะเกิดเหตุนางสาวแพรวา มีอายุ 17 ปี คดีได้ถึงที่สุดแล้ว ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก น.ส.แพรวา 3 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี และห้ามขับรถจนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี ซึ่งน.ส.แพรวา ได้ยื่นฎีกาสู้คดี แต่ ศาลไม่รับฎีกา จึงทำให้คดีสิ้นสุดตามคำพิพากษาดังกล่าว

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets