Wednesday, October 14, 2015

บุกจับโอเกะค้ากามเด็กสาว-หลังล่อซื้อ!! จนท.รัฐหนาว-พบหลักฐานโพยส่งส่วย ถุงยางว่อน

 

 ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กระทรวงมหาดไทย สนธิกำลัง ทหาร ตร.ฝ่ายปกครอง บุกร้านคาราโอเกะ ชื่อดังเมืองกาญจน์ หลังพบนำหญิงสาวชาวไทยใหญ่ อายุ ไม่เกิน 18 ปี ลักลอบบริการทางเพศ พร้อมตั้งข้อหา 2 ผู้ดูแลชาวไทยและเจ้าของ ข้อหาค้ามนุษย์


 วันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 14 ต.ค. นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับและตรวจสอบ นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายหมวดเอก เพิ่มศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ ผบ.ร้อย.ปพ.บก.อส. พ.ท.วัชรถ บุรินทร์วัฒนา ผบ.ชป.พท.ร.9 พัน 1 พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองกาญจนบุรี

 พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยุทธชัย มีสายมงคล สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่กองการสื่อสาร กรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.)อำเภอเมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมปฏิบัติการลุ่มน้ำแคว

 บุกจับร้านชมดาว คาราโอเกะ ตั้งอยู่ริมทางรถไฟ ถ.พัฒนากาญจน์ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากสถานบริการดังกล่าว นำหญิงสาวชาวไทยใหญ่ มาบริการค้าประเวณี สามารถช่วยเหลือหญิงสาวชาวไทยใหญ่ ออกมาจากขุมนรกได้ จำนวน 7 คน และจับกุมผู้ดูแลเป็นชายชาวไทยได้ จำนวน 2 คน พร้อมตรวจยึดบัญชีส่งส่วยให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่ง รวมทั้งถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วและที่ยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง

 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวหญิงสาวชาวไทยใหญ่ทั้ง 7 รายมายังที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในเวลา 22.30 น.

 โดยนายมานะ สิมมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แถลงว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน องค์กรด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับแจ้งเบาะแสว่า มีร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งภายในพื้นที่อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี มีการลักลอบเปิดสถานบริการทางเพศ หญิงสาวชาวไทยใหญ่อายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า ชื่อร้านชมดาว คาราโอเกะ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายค้ามนุษย์

 ผู้ที่แจ้งเบาะแสจึงร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่เพื่อสืบสวนในเชิงลึก จนกระทั่งพบว่าข้อมูลการร้องเรียนนั้นเป็นจริง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนล่อซื้อบริการทางเพศจากหญิงสาวที่ให้บริการ โดยมีนายนันทสิทธิ์ ชมดารา กับนายสมชัย อินตนา เป็นผู้ดูแลและคอยเชียร์แขก สภาพภายในร้านเป็นห้องแถวชั้นเดียวรวม 3 ห้อง มีการแยกส่วนเป็นพื้นที่สำหรับให้ลูกค้าเลือกซื้อบริการ และส่วนของห้องที่จัดไว้สำหรับร่วมประเวณีโดยเฉพาะ โดยมีหญิงสาวชาวไทยใหญ่ ที่มาจากพม่า คอยให้บริการลูกค้าทั้งหมด 7 คน

 หลังจากสายทำการล่อซื้อได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ที่รออยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมหญิงสาวทั้ง 7 คน รวมทั้งผู้ดูแลทั้ง 2 คนทันที และนำตัวหญิงสาวมาที่ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาญจนบุรี ทำการสอบถามเพื่อคัดแยกหญิงสาวทั้ง 7 คน ซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งหากพบว่ามีหญิงสาวคนใดมีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือถูกล่อลวง บังคับขู่เข็ญให้มาทำการขายบริการทางเพศ เจ้าพนักงานชุดจับกุมจะได้ทำการแจ้งความ กับผู้ดูแลและเจ้าของร้านในข้อหาค้ามนุษย์ต่อไป

 เบื้องต้นพบว่าหญิงสาวจำนวน 2 ใน 7 ราย มีอายุไม่ถึง 18 ปี

 ด้านนายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการตามแผนปราบปรามการค้ามนุษย์ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานและรองประธานอนุกรรมการปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นผู้ควบคุมดูแล เร่งรัดให้ทุกภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนให้การปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยสำเร็จโดยเร็ว

  ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ในสายตาของชาวโลกดีขึ้น และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะใช้คำสั่งของคณะปฏิบัติ มาตรา 50 ดำเนินการสั่งปิดสถานบริการดังกล่าวทันที และจะสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสแกนพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทุกพื้นที่ไม่ให้มีการลักลอบค้าประเวณีอย่างเด็ดขาด ในส่วนที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในร้านชมดาว คาราโอเกะ แล้วพบว่ามีบัญชีส่งส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งตรงนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยงานดังกล่าวด้วย แต่หากผลการสอบสวนพบว่ามีมูล ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด หากพบว่าข้าราชการคนใด เป็นข้าราชการชั้นสูง ระดับ ซี 8 ขึ้นไป ก็จะต้องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการ แต่ถ้าหาก ระดับ ซี 7 ลงมา ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ท.

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets