ชาวบ้านขอนแก่น ลั่น ขอแลกด้วยชีวิต ตัดไม้ยูคาฯ ทำฟืน ถูกผู้นำแจ้งจับ

ชาวบ้านโอด ขอแลกด้วยชีวิตกับความอยุติธรรม จนท.รัฐ หลังตัดไม้ยูคาฯ ในป่าสาธารณะไปทำฟืน แล้วผู้นำแจ้ง ตร.จับ ส่วน จนท.ไล่ชาวบ้านออกจากที่ดิน แล้วเอาไปสร้างบ้านพักส่วนตัว ด้าน ตร.แจง ยังไม่แจ้งข้อหา ขอตรวจสอบให้รัดกุม เพื่อความเป็นธรรม


เมื่อวันที่ 11 กันยนยน 258 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่ป่าโคกหลุบควน หรือป่าสาธารณะ บ้านโนนสมบูรณ์วังแสง พื้นที่บ้านวังแสง ม.1 ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ชาวบ้านได้พาสื่อมวลชนเดินดูต้นและตอไม้ยูคาลิปตัส ป่าสาธารณะที่ชาวบ้านตัดแล้ว ถูกตำรวจจับ จำนวน 5 ราย มี นายนำเจริญ พิมพ์พุฒ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 ม.3 บ้านห้วยไผ่ ต.วังแสง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น นายจรูญ น้อยชัย อายุ 47 นายจำปา ลาเสือ อายุ 43 ปี นายบัญนู อายุ 20 ปี และนายอำนวย ชินเนหันหา อายุ 58 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านห้วยไผ่ ต.วังแวง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น

จากการเดินสำรวจพบบริเวณดังกล่าว เป็นสวนป่ายูคาลิปตัส จำนวนหลายร้อยไร่ แต่ส่วนใหญ่เป็นต้นยูคาลิปตัส ที่ผ่านการตัดไปแล้วหลายครั้ง ในหลายปีที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันมีเพียงต้นที่แตกแขนงออกมา แต่ละลำจึงมีขนาดไม่เท่ากัน

ชาวบ้านทั้ง 5 คน เล่าตรงกันว่า ช่วงเช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาตัดฟืนซึ่งก็คือตัดไม้ยูคาลิปตัสไปทำฟืน เล้าเป็ด เล้าไก่ และทำนั่งร้าน ตัดแล้วก็กองรวมกันไว้ จากนั้นผู้นำชุมชน ก็เรียกตำรวจมาจับ ซึ่งทุกคนไม่ได้ขัดขืน และนั่งรวมตัวกันอยู่ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาคุมตัวไป สภ.ชนบท ที่ข้องใจก็ คือ ป่ายูคาลิปตัสแห่งนี้ ชาวบ้านเคยตัดไปทำฟืน และใช้สอยในบ้านเรือนมาโดยตลอด ไม่ใช่เป็นการลักลอบตัดเอาไปขายแต่อย่างใด หากผู้นำชุมชน รู้กฎ ระเบียบว่าปัจจุบันสวนยูคาลิปตัสแห่งนี้ ตัดไปใช้สอยไม่ได้ หรือ มีประกาศห้าม ก็น่าจะมีการบอกกล่าวชาวบ้าน ไม่ใช่เป็นผู้นำแล้วเอาตำรวจมาจับ

“ในทางกลับกันก็อยากให้ คสช.ส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ที่ป่าในพื้นที่ ต.วังแสง ด้วยว่า การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไล่ชาวบ้านออกจากที่ดิน สปก. แล้วเอาที่ดินไปทำบ้านพักตัวเอง ทำรีสอร์ต สนามเทนนิส สร้างโรงเรียนติวข้อสอบ มันถูกต้อง หรือไม่ หากเรื่องที่ตนและเพื่อนบ้านถูกจับครั้งนี้ ไม่ได้รับความเป็นธรรม นายจรูญ บอกว่า ยอมเอาชีวิตแลกกับความอยุติธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ”

ในส่วนของกำนันนั้น ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้าน ซึ่งมีบ้านพักอยู่ตรงข้ามกับป่าสาธารณะ ดังกล่าว พบรถยนต์ จอดอยู่ 2 คัน แต่ปิดล็อครั้วจากด้านนอก เรียกแล้วไม่มีคนออกมาพบ ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ จึงเดินทางกลับ

ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดย พ.ต.ท.เจตมนูญ สภาไพโรจน์ พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.ชนบท เปิดเผยว่า มีการแจ้งตำรวจไปจับชาวบ้านจริง โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนบท รับแจ้งจากกำนัน ตำบลวังแสง ว่า มีผู้ลักลอบตัดไม้ยูคาลิปตัส ที่ป่าสาธารณะ บ้านโนนสมบูรณ์วังแสง พื้นที่บ้านวังแสง ม.1 ต.วังแสง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกไปตรวจสอบทันที เมื่อไปถึงป่าสาธารณะ บ้านโนนสมบูรณ์วังแสง พบว่า มีชาวบ้าน 5 คน ถูกคุมตัวไว้แล้ว และพบไม้ยูคาลิปตัส ที่ถูกตัดแล้วจำนวน 98 ท่อน เลื่อยคันธนู 3 เปื้อน มีดอีโต้ 1 เล่ม

สอบถามชาวบ้าน ก็ตอบว่า ตัดไม้ยูคาลิปตัสไปทำฟืน และทำนั่งร้าน ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ระหว่างที่กำลังตัดไม้ กำนันตำบลวังแสง มาห้ามไม่ให้ตัด อ้างว่า ไม้ยูคาลิปตัสอยู่ในความดูแลของฝ่ายปกครอง เมื่อถูกห้ามก็หยุด และนั่งอยู่ในป่า กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง

พ.ต.ท.เจตมนูญ สภาไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามขั้นตอนของกฎหมายและการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เมื่อมีคนแจ้งก็ไปตรวจสอบ ตรวจสอบแล้วพบ การกระทำตามที่แจ้งจริง ก็ต้องตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดเป็นของกลาง และนำตัวชาวบ้านทั้ง 5 ราย ไปทำประวัติ ที่ สภ.ชนบท ส่วนจะผิดกฎหมายอย่างไรบ้างนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องว่า ไม้ยูคาลิปตัสในป่าสาธารณะ บ้านโนนสมบูรณ์วังแสง เป็นของผู้ใด อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานใด มีการประกาศห้ามหรือไม่ ขอยืนยันว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับชาวบ้านทั้ง 5 ราย แต่อย่างใด ทุกอย่างต้องมีการสืบสวน สอบสวน ให้รอบคอบ ชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์