Saturday, November 5, 2016

เร่งล่าคนร้ายฆ่า 3 ศพพ่อแม่ลูก แฉนาทีโหดจ้วงแทงแม่ขณะอุ้มลูกทารกเพื่อปิดปากทั้งคู่


จากคดีฆาตกรรมสุดสลด คนร้ายบุกสังหารนายอนุรัตน์ มั่นวาจา อายุ 45 ปี นางอารยา ปู่ซิ้ง อายุ 33 ปี ภรรยา และด.ญ.จูน (นามสมมติ) ลูกสาววัย 2 ปี เสียชีวิตหน้าบ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำและร้านอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 9 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยทั้ง 3 ศพถูกตีที่หัวและจ้วงแทงตามลำตัวหลายแผล โดยมีคนพบศพทั้ง 3 เมื่อตอน 06.40 น.ของวันที่ 5 พ.ย. เบื้องต้นตำรวจคาดว่าเป็นฝีมือ 3 วัยรุ่ยที่ติดยาเสพติด ซึ่งกำลังติดตามตัวมาสอบปากคำ


ต่อมาพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.อนุชนต์ ชามาตย์ รองผบก.ฯ และพ.ต.อ.วิสุทธิ ศรีคง ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบปากคำเพื่อนบ้านของผู้ตาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพฐ.ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งสภาพศพทั้ง 3 อย่างละเอียด พบว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการสันนิษฐานของตำรวจคาดว่าก่อนเกิดเหตุ น่าจะเป็นเวลาราวๆ 5 ทุ่มเศษของวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอนุรัตน์ขับรถคันดังกล่าวกลับมาจากทำธุระนอกบ้าน พร้อมด้วยนางอารยาและลูกสาววัย 2 ขวบ เมื่อจอดรถนายอนุรัตน์ได้เดินลงจากรถมายืนด้านท้ายรถ คนร้ายซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในที่มืด จู่โจมใช้จอบตีจนล้ม จังหวะนั้นเอง คาดว่านางอารยา อุ้มลูกตามออกมาพอดี จึงถูกคนร้ายใช้จอบตีทั้งแม่ทั้งลูกแล้วจ้วงแทงซ้ำอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิตทั้งหมด

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายมีการวางแผนมาล่วงหน้า เพราะมาดักรอผู้ตายก่อน อีกทั้งพบว่าหลังลงมือฆ่าแล้ว คนร้ายทุบหลอดไฟหน้าบ้านจนดับสนิท เพื่อไม่ให้ชาวบ้านแวะชื้อของ และคิดว่าร้านปิดอยู่ ก่อนหลบหนีไป

กระทั้งเวลาตี 5 เศษ มีคนมาชื้อของที่ร้านแล้วพบศพทั้ง 3 นอนตายอยู่หน้าโรงรถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ อย่างไรก็ตาม สาเหตุการสังหารนั้น ตำรวจยังตั้งประเด็นหลายประเด็น อาทิ ความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างนายอนุวัฒน์กับคนร้าย ซึ่งต้องเป็นคนที่มีความคุ้นเคยกับครอบครัวคนตายเลยต้องฆ่ายกครัวปิดปาก หรือเป็นกลุ่มติดยาเสพติดชิงทรัพย์ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบทรัพย์สินอีกครั้ง

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets