Friday, September 2, 2016

อึ้ง!หนึ่งในทีมฆ่ายธ.พังงา แฉสิ้นผัว"น้องเรย์"สุดโหด

 

หนึ่งในทีมฆ่ายุติธรรมจังหวัดพังงา แฉนาทีโหดสั่งฆ่า อ้างตัวเองมีเอี่ยวน้อย แค่ทำตามคำสั่ง เหตุเพราะโดนใช้ปืนข่มขู่ ด้าน"ศรีวราห์"สั่งล่าแก๊งโหดให้เกลี้ยงอย่าเอาไว้ ชี้ทำลายความสงบบ้านเมือง ศุกร์ที่ 2 กันยายน 2559 เวลา 13.30 น.
จากกรณีคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาฆ่า นายฉวี อินทระ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดพังงา ยัดใส่ถังโบกปูนโยนลงคลอง ที่ อ.ปากพนัง  จ.นครศรีธรรมราช โดยชนวนเหตุสังหารมาจากเรื่องชู้สาว ที่ไปติดพันแฟนสาวของกลุ่มวัยรุ่น ล่าสุดศาลจังหวัดปากพนัง ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ 5 คน นั้น



ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 1ก.ย. นายสิทธิพงศ์  หรือตี๋   บุบผาคร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย พนักงานงานสอบสวนทำหน้าที่สอบสวนปากคำอย่างละเอียด โดยนายสิทธิพงศ์ หรือตี๋ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้นายสิทธิพงศ์ เล่าว่า  เดิมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 1 ต.ควนกลาง อ.พิปูน  จ.นครศรีธรรมราช มาได้ภรรยาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านเกิดเหตุ ในวันเกิดเหตุ นายอดิศักดิ์ หรือหมู  ทองสมจา ได้โทรศัพท์ให้มาพบที่บ้านเกิดเหตุ  เมื่อมาถึงก็พบ นายอดิศักดิ์ และเพื่อน 3-4 คนรออยู่ โดยแจ้งว่า น.ส.ณัฐนันท์ หรือเรย์  เมียของนายอดิศักดิ์ ไปหลอกชายสูงอายุ ที่แอบคบกับ น.ส.ณัฐนันท์   มาที่บ้าน ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ นายฉวี อินทระ เป็นยุติธรรมจังหวัดพังงา และอยู่ภายในห้องนอนของ น.ส.ณัฐนันท์  หาก น.ส.ณัฐนันท์ ออกมาจากห้องขอให้ทุกคนรีบเข้าไปในห้อง และรุมทำร้ายให้ตายไปเลย กระทั่ง น.ส.ณัฐนันท์ออกจากห้อง พร้อมนำโทรศัพท์ของผู้ตายออกมาด้วย  นายอดิศักดิ์ จึงออกคำสั่งให้ทุกคนเข้าไปในห้องและจับ นายฉวี มัดมือมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อน ก่อนจะรุมเตะต่อย ทุบตี นายฉวี ด้วยไม้อย่างโหดร้ายทารุณ จนนายฉวี สลบแน่นิ่ง โดยตนไม่ได้ร่วมทำร้าย นายฉวีด้วย ทำให้นายอดิศักดิ์ ไม่พอใจที่ไม่ช่วย จึงจำใจเดินไปเตะ นายฉวี 2ครั้ง  จากนั้นทั้งหมดได้ออกมาจากห้อง และนายอดิศักดิ์ ได้ขับรถยนต์ของ นายฉวี หายไปนานกว่า 1 ชม.  กลับมาอีกครั้งโดยไม่ได้ขับรถ นายฉวีกลับมาด้วย ได้เปลี่ยนมาขับรถกระบะมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นรถยนต์ของ นายอดิศักดิ์ เองที่ใช้ขับอยู่ทุกวันแทน ซึ่งตนไม่ทราบว่า นายอดิศักดิ์ นำรถยนต์ของนายฉวี ไปไว้ที่ใด

นายสิทธิพงศ์ เล่าต่อว่า  จากนั้น นายอดิศักดิ์ได้เดินไปเปิดประตูห้องดูนายฉวีพบว่า นายฉวี ยังหายใจอยู่ จึงสั่งให้นายวีระเดช หรือสาม แปะดำ และนายชัยชนะ หรือดุก  เกิดมุสิก เข้าไปใช้ไม้ทุบตีนายฉวี ซ้ำอีกหลายครั้ง และสั่งให้ตนเข้าไปอยู่ในห้องเฝ้า นายฉวี เอาไว้ ส่วน นายอดิศักดิ์ และคนอื่น ๆ ชวนกันเดินไปบ้านเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง แต่ตนไม่กล้าเข้าไปอยู่ในห้อง จึงนั่งเฝ้าอยู่หน้าบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. (20 ส.ค.) นายอดิศักดิ์ พร้อมพวกได้กลับมาบ้านเกิดเหตุอีกครั้ง เมื่อเห็นตนอยู่นอกห้องนายอดิศักดิ์  จึงไม่พอใจชักปืนออกมาจี้ข่มขู่ว่า ไม่ทำอะไรเลยจะยิงให้ไส้แตก  พูดจบนายอดิศักดิ์ ได้เดินไปเปิดประตูห้องดูนายฉวี ก่อนจะกล่าวเสียงดังว่า “ไอ้แก่นี่มันทนจริง ๆ ตายยากตายเย็นเสียจริง ๆ” พร้อมกับพาพรรคพวกเข้าไปรุมทุบตีนายฉวี ซ้ำอีกรอบ โดยในคราวนี้นายอดิศักดิ์ ได้ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว เข้าไปทุบตีที่ศีรษะนายฉวี อย่างรุนแรงหลายครั้งจนสิ้นใจตาย แล้วสั่งให้ นายวีระเดช หรือสาม แปะดำ และนายชัยชนะ หรือดุก  เกิดมุสิก นำถุงขนาดใหญ่ไปใส่ศพ นายฉวี และช่วยกันหามมาใส่รถกระบะมิตซูบิชิของนายอดิศักดิ์ รวมทั้ง น.ส.ณัฐนันท์ก็ขึ้นรถไปพร้อมๆกัน โดยไปที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.บางจาก อ.ปากพนัง แล้วช่วยกันนำศพยัดใส่ถังพลาสติก 200 ลิตร ก่อนจะเทปูน 1 กระสอบทับลงไป รอจนปูนแห้งจึงช่วยกันหามถังพลาสติกใส่ศพ นายฉวี ใส่รถยนต์คันเดิมขับไปโยนทิ้งในคลองบางจาก บริเวณหมู่ 13 บ้านแสงวิมาน ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนพากันกลับและแยกย้ายกันกลับบ้านไป

นายสิทธิพงศ์    กล่าวอีกว่า กระทั่งได้ยินข่าวว่าชายแก่คนที่ตายคือ นายฉวี อินทระ ข้าราชการระดับสูงตำแหน่งยุติธรรมจังหวัด และ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาตัวนายฉวี ผู้ตายอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายอดิศักดิ์ หัวหน้าแก๊งพร้อมด้วย น.ส.ณัฐนันท์ หรือเรย์ และผู้ที่ร่วมฆ่าโหดนายฉวี ก็พากันแยกย้ายหลบหนี ส่วนตนเกิดความกลัวอย่างหนัก จึงตัดสินใจเข้าพบชุดสืบสวน พร้อมเล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างละเอียด  และนำไปสู่การหาศพนายฉวีและจับกุมนายวีระเดช หรือสาม แปะดำ ยืนยันว่าแม้จะอยู่ในเหตุการณ์แต่แทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าโหด เพียงแค่ในตอนที่นายฉวีสลบเข้าไปเตะ 2ครั้ง และที่ทำเพราะกลัวนายอดิศักดิ์ที่ใช้อาวุธปืนข่มขู่ตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้เพิ่มอีก 1 คน คือนายชัยชนะ หรือดุก เกิดมุสิก โดยไม่เป็นไม่เปิดเผยว่า ควบคุมตัวไว้ที่ใด ส่วนคนร้ายที่เหลืออีก 4  คน ได้มีการออกหมายจับแล้ว 2 คน คือนายอดิศักดิ์ หัวหน้าแก๊ง  นายสุวัฒน์ หรือปาล์ม  มารวัฒน์  ส่วน น.ส.ณัฐนันท์ หรือเรย์  อินทร์คำ และนายนฤสรณ์ บุญประเสริฐ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมติหมายจับจากศาลในลำดับต่อไป  ขณะที่ทาง พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก. 5ป.บก.ป. ได้นำกำลังไปตรวจสอบบ้านของ น.ส.ณัฐนันท์ บ้านเลขที่ 34 หมู่ 2 ต.ท่าขนาน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และที่บ้านอีกหลังหนึ่งใน ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สถานที่นำศพยัดถังโปกปูน  เพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งทั้งนี้บ้านของนายอดิศักดิ์และน.ส.ณัฐนันท์เป็นแหล่งค้ายาเสพติดและมั่วสุมยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เชียรใหญ่

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รอง ผบ.ตร.  กล่าวว่า สำหรับคดีนี้เท่าที่ติดตามพบว่าตำรวจในพื้นที่ รวมทั้ง ภาค 8 และกองปราบปรามรวมทั้งดีเอสไอ ทำงานได้ดีสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 3 คน โดยมีพยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนาผู้ต้องหาดิ้นไม่หลุดแน่ ส่วนที่เหลือก็ต้องเร่งติดตามจับกุมให้หมด ต้องจับให้เกลี้ยงเอาไว้ทำไมไอ้พวกที่ทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง ส่วนเรื่องที่หัวหน้าทีมฆ่าเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดตำรวจในพื้นที่ก็ต้องกวาดล้างอย่างจริงจัง แต่ที่ผ่านมาถือว่าตำรวจนครศรีธรรมราชทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจอยู่แล้ว

ที่มา dailynews


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets