Friday, September 2, 2016

"กิ๊กสาว"มอบตัวแล้ว ซัดแฟนฆ่าหนุ่มยธ. ถูกบังคับแช็ตล่อ-ปัดร่วม 4 วัยรุ่นทำแผนฯ

 

กิ๊กสาวมอบตัวแล้ว ซัดโดนแฟนหนุ่มขู่บังคับให้แช็ตลวง ยธ.พังงามาฆ่ายัดถัง ไม่งั้นจะฆ่าน้องชาย ด้วยความกลัวจึงจำใจทำนัดมาเจอที่ศาลาริมน้ำเชียรใหญ่ จากนั้นพามาบ้านจุดเกิดเหตุ ก่อนแฟนหนุ่มกับพวกจะมัดมือมัดเท้า ร่วมกันรุมซ้อมจนตาย หลังเกิดเหตุหนีมาหาแม่ที่กทม. ส่วนแฟนหนุ่มขับปิกอัพคนตายหนีไปลำพัง ยันตัวเองไม่รู้เห็นกับการฆ่า ตร.จับได้อีก 2 คน-ทีมสังหาร อ้างโดนแฟนกิ๊กสาวใช้ปืนจ่อหัวบังคับให้รุมตื้บเหยื่อ ด้านเฉลิมเกียรติคุม 4 โจ๋ทำแผนฯ ระดมตร.นับร้อยคุมเข้ม-หวั่นถูกประชาทัณฑ์ มั่นใจจับแฟนหนุ่ม-หัวโจกได้แน่


จากกรณีนายฉวี อินทระ อายุ 57 ปี ยุติธรรมจังหวัดพังงา และผอ.สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา หายตัวไปอย่างลึกลับถึง 13 วัน โดยญาติแจ้งคนหายไว้ที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาตำรวจแกะรอยจากโน้ตบุ๊กที่ทำงาน พบหลักฐานเป็นข้อความที่นายฉวีแช็ตเฟซบุ๊กคุยกับสาว จนนำมาสู่การจับกุม 2 หนุ่มชาวเชียรใหญ่ โดยสารภาพว่าหญิงสาวถูกแฟนจับได้และให้แช็ตลวงนายฉวีมาพบ ก่อนร่วมกับเพื่อนทุบฆ่าโหด แล้วนำศพยัดใส่ถังและโบกปูนซ้ำทิ้งคลองในอ.ปาก พนัง เมื่อเช็กวงจรปิดจับภาพนายฉวีขับรถกระบะมารอที่ศาลาริมน้ำ หน้าที่ว่าการอำเภอเชียรใหญ่ ก่อนกิ๊กสาวจะซ้อนรถทีมฆ่ามาและขึ้นรถกระบะไปด้วยกัน กระทั่งพบเป็นศพ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่บก.ภ.นครศรีธรรมราช ญาติได้พาน.ส.ณัฐนันท์ หรือเรย์ อินทร์ดำ อายุ 24 ปี หญิงสาวที่นายฉวีมาติดพันและแช็ตเฟซบุ๊กลวงให้แฟนหนุ่มสังหาร เข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช

โดยนางณัฐนันท์ให้การว่า ได้พูดคุยกับนายฉวีผ่านเฟซบุ๊กมานานแล้ว กระทั่งถูกนายอดิศักดิ์ ทองสมจา หรือหมู ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มจับได้ ก่อนถูกขู่บังคับให้แช็ตเฟซบุ๊กลวงนายฉวีมาพบที่บ้านพักหมู่ 2 ต.ท่าขนาน อ.เชียร ใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งตนพยายามปฏิเสธ แต่กลับถูกนายอดิศักดิ์บังคับและขู่ฆ่าน้องชายหากไม่แช็ตลวงนายฉวีมาพบ ด้วยความกลัวว่าน้องชายจะถูกนายอดิศักดิ์ฆ่า จึงจำใจยอมแช็ตลวงนายฉวีมาพบ โดยนัดเจอที่ศาลาริมแม่น้ำปากพนัง ตรงข้ามสภ.เชียรใหญ่ ก่อนตนจะขึ้นรถกระบะของนายฉวีและบอกทางให้มายังบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นตนได้หลบหนีไปก่อน ส่วนนายอดิศักดิ์และพวกรวม 5 คน ได้รุมจับนายฉวีใส่กุญแจมือ พร้อมมัดมือมัดเท้าแล้วรุมซ้อมจนตาย ก่อนยัดศพใส่ถังแล้วโบกปูนนำไปทิ้งในคลองบางจาก อ.ปากพนัง

น.ส.ณัฐนันท์ให้การอีกว่า หลังเกิดเหตุได้หนีขึ้นมาอยู่กับแม่ที่กทม. โดยไม่ได้หลบหนีไปพร้อมกับนายอดิศักดิ์ตามที่เข้าใจกัน ส่วนนายอดิศักดิ์ได้หลบหนีไปพร้อมรถกระบะของผู้ตายเพียงคนเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าหลบหนีไปไหน หลังทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุเป็นข่าวใหญ่โต จึงติดต่อญาติให้พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกับการรุมซ้อมนายฉวีจนตาย

 เบื้องต้นพล.ต.ต.วันไชย สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำนางณัฐนันท์เพิ่มเติม หากมีพยานหลักฐานมัดตัวให้เตรียมออกหมายจับ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับน.ส.ณัฐนันท์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้เพิ่ม 2 รายคือนายชัยชนะ เกิดมุสิก อายุ 22 ปี โดยตามจับกุมได้ในพื้นที่อ.เชียรใหญ่ และนายสุวัฒน์ มาละวะ อายุ 20 ปี ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านพักในต.นาสาร อ.พระพรหม เบื้องต้นนายสุวัฒน์ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันรุมฆ่านายฉวี เพราะถูกนายอดิศักดิ์ หัวหน้าแก๊งยาเสพติด ใช้ปืนจ่อหัวและขู่บังคับให้ใช้ท่อนไม้รุมทุบตีนายฉวีจนตาย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีและถูกตำรวจตามจับกุมได้ดังกล่าว โดยขณะนี้เหลือเพียงนายอดิศักดิ์ ผู้ต้องหาเพียงคนเดียวที่ยังหลบหนีการจับกุม

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยทำร้ายเจ้าทรัพย์จนถึงแก่ความตาย ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยปกปิดสาเหตุการตาย

ถัดมาเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ต.วันไชย และกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วย นายวีระเดช แปะดำ อายุ 23 ปี นายสิทธิพงศ์ บุปผาคร อายุ 22 ปี นายชัยชนะ เกิดมุสิก อายุ 22 ปี และนายสุวัฒน์ มารวัฒน์ อายุ 22 ปี ทีมฆ่านายฉวี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่ 34 ม.2 ต.ท่าขนาน อ.เชียรใหญ่ โดยมีชาวบ้านกว่า 300 คนมามุงดูการทำแผนฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังนับร้อยนายมาคุมสถานการณ์รอบบ้านที่เกิดเหตุ

จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เริ่มทำแผนฯตั้งแต่จุดนำตัวนายฉวีเข้าไปรุมทำร้ายในห้องชั้นล่าง ก่อนนำเสื้อผ้าของผู้ตายไปเผาทำลายบริเวณข้างบ้าน หลังจากนั้นนำศพนายฉวีใส่กระสอบแล้วยัดใส่ถังพลาสติกแล้วโบกปูนทับ จากนั้นขนไปทิ้งภายในคลองบางจาก อ.ปากพนัง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ซึ่งหลังทำแผนฯเสร็จ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติได้เดินทางไปตรวจจุดทิ้งศพด้วย

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ตำรวจมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนและขอศาลออกหมาย ก่อนตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 4 คน โดยยังเหลือนายอดิศักดิ์เพียงคนเดียว ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้านี้ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นมาจากปมชู้สาว ซึ่งนายฉวีมีความสัมพันธ์กับน.ส.ณัฐนันท์ ก่อนนายอดิศักดิ์จะทราบ จึงบังคับให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมร่วมก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากน.ส.ณัฐนันท์เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ปรากฏว่ามีชาวเน็ตได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กของน.ส.ณัฐนันท์ โดยพบว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่น.ส.ณัฐนันท์ แช็ตลวงนายฉวีมาให้แฟนหนุ่มสังหาร พบน.ส.ณัฐนันท์ได้โพสต์ข้อความว่า "รู้หน้าไม่รู้จัย" ถัดมาวันที่ 23 ส.ค. หลังจากที่สังหารนายฉวีไปแล้ว 2 วัน น.ส.ณัฐนันท์ได้โพสต์ข้อความอีกว่า "ไม่รู้หรอกนะว่า ต้องการอะไร แต่รู้ไว้ว่ามันไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้"

ขณะที่นายสิทธิพงศ์ บุปผาคร ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้แล้ว ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 22 ส.ค. หลังจากสังหารนายฉวีแล้วว่า "บางครั้ง!!! ก็ต้องยอมรับว่า... #บางอย่าง มันกลับมาเหมือนเดิม ไม่ได้อีกแล้ว...? เมื่อถึงเวลา!!! เราต้องเลือก...สิ่งที่ถูกต้อง มากกว่า #ถูกใจ" "บางที!!! ทำโง่บ้าง...ก็ดี เหมือนที่คิดไว้เลย ถึงเวลาเราก็แค่... #เครื่องมือ โง่ๆนี่เอง #สังคมคนไม่จริง" "จุดต่ำ!!!ที่สุด...ในชีวิตที่กู...ประสบ" อาจจะเป็น... #จุดจบหรือ #บทเรียน"

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets