เพิ่มข้อหา"ชาตรี"ถึงประหาร ยืนยัน"ครูอิ๋ว"ไม่ได้โดนล่วงละเมิดทางเพศ!
โรงเรียนจัดตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้"ครูอิ๋ว"ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศกอาลัย ร่ำไห้เสียใจ ด้านเจ้าของห้องเช่าเตรียมทุบทิ้งทั้งหมด หลังผู้เช่าพากันทยอยย้ายออกจนไม่มีเหลืออยู่แม้แต่ห้องเดียว พ่อ-แม่พร้อมแฟนหนุ่มกลับมาห้องเช่าเชิญวิญญาณกลับบ้านร้อยเอ็ดรอบ 2 ด้านบช.ภ.1 แถลงคดีชี้คืบหน้าไปมาก มั่นใจพยานหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหาดิ้นไม่หลุด ตั้งข้อหาแรงกว่าเดิม เจตนาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษถึงประหาร ด้านพฐ. ยันชัดเจนแล้วเหยื่อสาวไม่ได้ถูกคนร้ายล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ก.ค.ที่โรงเรียนแสงวิทยา อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จัดพิธีรำลึกและทำบุญถวายผ้าไตรบังสุกุลอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับน.ส.จุฬา รัตน์ โทวรรณา หรือครูอิ๋ว นำโดยว่าที่ร.ต.พัทธโรจน์ กมลโรจน์ศิริ ผอ.โรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง และนักเรียนกว่า 100 คนร่วมพิธี ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศกแต่อบอุ่นและอบอวลไปด้วยความระลึกถึงครูที่จากไป โดยจัดทำ แผ่นป้ายกระดานให้ครูและนักเรียนเขียนข้อความร่วมอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนพิธีจะเริ่มขึ้นบรรดาผู้ปกครองต่างพาบุตรหลาน พร้อมข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมตักบาตรพระภิกษุจำนวน 5 รูป ที่บริเวณลานกีฬา จากนั้นว่าที่ร.ต.พัทธโรจน์เป็นประธานจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา พระสงฆ์สวดมาติกา ต่อมาได้ถวายสังฆทานและผ้าไตรบังสุกุล ปิดท้ายด้วยการกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลและกล่าวคำไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ตลอดระยะเวลาการทำพิธี นักเรียนและครูบางคนต่างมีน้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะ น.ส.ศศิธร อาจวิชัย ครูเพื่อนสนิท นั่งพนมมือด้วยแววตาเศร้าสลดตลอดเวลา
ส่วนที่ห้องเช่าภายในซอยสุดบรรทัด 8 เขตเทศบาลแก่งคอยที่เกิดเหตุสลด พบว่าห้องเช่าทั้ง 10 ห้องไม่มีผู้เช่าอาศัยอยู่แล้ว เจ้าของห้องเช่าปิดประตูรั้วด้านหน้าล็อกกุญแจอย่างแน่นหนาไม่ให้บุคคลภาย นอกเข้าไป ขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวระบุว่าเจ้าของห้องเช่าจะทุบห้องเช่าทั้งหมด ทิ้ง แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มดำเนินการเมื่อใดต่อไป
เมื่อเวลา 16.40 น. นายสนิท และนางจันทร์ศรี โทวรรณา พร้อมพี่สาว และแฟนหนุ่ม ร.ต.ต.ธเนตร แก้วหาญ พระอธิการ บัวกัน จันทสโร เจ้าอาวาสวัดบ้านบุ่งค้า จ.ร้อยเอ็ด มารับวิญญาณน.ส.จุฬารัตน์ที่ ห้องเช่า ถนนสุดบรรทัด ซอย 8 เขตเทศบาลเมืองแก่งคอย จ.สระบุรี อีกครั้ง ระหว่างนั้นมีฝนตกลงมาโปรยปรายและหยุดตกเมื่อช่วง ทำพิธี โดยผู้ดูแลห้องเช่าได้มอบกุญแจให้ พ่อแม่ของครูอิ๋ว ไขเข้าห้องของครูอิ๋ว ห้อง เลขที่ 17/5
ด้านผู้ดูแลห้องเช่ามอบซองสีขาวมีเงิน 5,000 บาท เจ้าของห้องเช่าฝากมาช่วย โดยก่อนหน้านี้งานเผาศพครูอิ๋วเจ้าของห้องเช่าอยู่ในกทม.ก็ส่งเงินช่วยงานศพจำนวนหนึ่งแล้ว จากนั้นรถกระบะก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านเช่ากลับบ้านครูอิ๋วในเวลา 17.10 น. โดยมีการโปรยเหรียญตลอดทางระหว่างที่ขับออกไป
ที่บช.ภาค 1 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภาค 1 พร้อมพล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.สระบุรี พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายชาตรี ร่วมสูงเนิน ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอน.ส.จุฬารัตน์ ภายในบ้านเช่าเลขที่ 17/5 ถ.สุดบรรทัด ซอย 8 ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อคืน วันที่ 1 ก.ค.ต่อเนื่องวันที่ 2 ก.ค.
พล.ต.ต.ธวัชชัยกล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจสภ.แก่งคอยประสานเจ้าหน้าที่พฐ.เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุทันที ไม่ว่าจะเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุ ผ้าปูที่นอน ฯลฯ รวมถึงที่ตัวของผู้ตาย นอกจากนี้ ได้ตรวจหาพยานหลักฐานภายในห้องเช่าหลังที่นายชาตรีผู้ต้องหาอาศัยอยู่ ผลการตรวจพบดีเอ็นเอที่พบบริเวณทรวงอกและซอกเล็บของผู้ตายตรงกันกับดีเอ็นเอ ของคนร้าย และตรวจสอบคราบเลือดที่ติดบริเวณประตูลูกกรงด้านหลังห้องนายชาตรี พบว่าดีเอ็นเอตรงกับของผู้ตาย
นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบสภาพบาดแผลบนตัวของนายชาตรีพบมีรอยถูกของมีคมบาดบริเวณมือซ้าย มีรอยฟันกัดบริเวณมือซ้ายและมีรอยขีดข่วนที่แขน สอดคล้องกับผลชันสูตรศพที่พล.ต.ต.พรชัยระบุว่าสภาพศพของผู้ตายมีบาดแผลถูก ของมีคมฟันหลายจุด สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเกิดจากการต่อสู้ เนื่องจากผู้ตายไม่ยินยอม แต่บาดแผลฉกรรจ์ที่สุดที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือร่องรอยของมีคมบาดที่คอ เป็นลักษณะการเฉือนถึง 4 ครั้ง จนตัดเส้นเลือดใหญ่ทำให้เสียเลือดมาก ทั้งนี้จากการตรวจภายในของผู้ตายไม่พบอสุจิ จึงสามารถยืนยันได้ว่าผู้ตายไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ขณะที่ พล.ต.ต.ธิติกล่าวถึงการดำเนินคดีกับนายชาตรีว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานบุคคลไปแล้ว 18 ปาก จากทั้งหมดที่มี 24 ปาก เมื่อรวมคำให้การและพยานหลักฐานที่ได้ทางนิติวิทยาศาสตร์ และผลชันสูตรศพสามารถยืนยันได้ว่านายชาตรีเป็นผู้กระทำความผิดจริง และจุดประสงค์ในการก่อเหตุนั้นเพราะต้องการล่วงละเมิดทางเพศ และประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากคำให้การของนายชาตรีรับสารภาพว่าแอบชอบผู้ตาย ประกอบกับเจอดีเอ็นเอของนายชาตรีในจุดที่ไม่น่าจะเจอหากไม่ได้มีเจตนาจะล่วง ละเมิดทางเพศ พร้อมทั้งยังมีพยานบุคคลยืนยันได้ว่านายชาตรีมีปัญหาด้านการเงิน รวมถึงจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีพฤติการณ์สอดคล้องว่าก่อเหตุในลักษณะดัง กล่าวมาแล้ว
พล.ต.ต.ธิติกล่าวต่อว่า ทุกอย่างสามารถนำมาประกอบสำนวน เพื่อพิจารณาเพิ่ม บทลงโทษจากข้อหาที่แจ้งไปครั้งแรก คือ "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เป็น "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ซึ่งมีอัตราโทษที่รุนแรงกว่าถึงขั้นประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตำรวจชุดทำงานไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะหลังจากเกิดเหตุผ่านมาแล้ว 6 วันได้ประชุมหารือ เดินหน้าหาพยานหลักฐาน พร้อมทั้งสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งหารือกับอัยการในการตั้งข้อหาเพื่อให้คดีมีความรัดกุม ครบถ้วน ปราศจากข้อกังขาของสังคมให้มากที่สุด
ด้านพล.ต.ท.ชัยวัฒน์เปิดเผยว่า นายชาตรีถูกนำส่งศาลฝากขังไปแล้ว ขณะนี้ในส่วนของนายอาร์ม สาวประเภทสองซึ่งเป็นแฟนของผู้ต้องหานั้น เบื้องต้นไม่พบว่ามีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุ จึงสอบปากคำในฐานะพยานเท่านั้น จากการตรวจสอบสำนวนพบว่าคดีคืบหน้าไปมาก เหลือในส่วนของเอกสารสำคัญจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบสำนวน ให้ชัดเจนและยืนยันตัวผู้กระทำความผิด สำหรับพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ทั้งจากนิติวิทยาศาสตร์และผลชันสูตรเชื่อได้ ว่านายชาตรีเป็นผู้ก่อเหตุ และถือว่าแน่นหนาพอที่จะใช้ลงโทษกับผู้กระทำความผิดได้แน่นอน
ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงมาตรการสร้างความอุ่นใจกับประชาชนหลังเกิดคดีฆ่าข่มขืนบ่อยในช่วง เวลานี้ว่า ตนได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมและฝ่ายกฎหมายว่าจะทำอย่างไร ทุกอย่างเราต้องแก้ไขปัญหาจากต้นทางคือต้องไปดูเรื่องจิตสำนึก จึงต้องแก้ตั้งแต่ต้นทางและกลางทาง ซึ่งกลางทางคือกระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ทุกอย่างถูกต้อง และต้องไม่ทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นอีก รวมถึง ปลายทางด้วย
"มาตรการทางกฎหมายมีการลงโทษที่รุนแรงอยู่แล้วคือการประหารชีวิต มีทั้งข่มขืนธรรมดาและข่มขืนแล้วฆ่า คดีอุกฉกรรจ์มีกฎหมายเดิมอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่ว่าให้ไปพิจารณาดูในเรื่องการประกันตัวและเรื่องการลดโทษ จะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ถ้าสังคมยังเป็นอยู่แบบนี้ก็จะเกิดเหตุการณ์ ขึ้นอีก" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมีผลกระทบต่อสังคม เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ ฝ่ายกฎหมายกำลังดูอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับ การขอพระราชทานบรรเทาโทษ ควรจะต้องเท่าไร่ ไม่ใช่ลดลงไปเรื่อยๆ ลดหลายครั้งเดี๋ยวเขาก็ออกมา ไปดูตรงนั้นจะได้ไม่ผิด กติกาสากลด้วย เพราะเราต้องอยู่กับโลก ด้วย ตนเห็นใจและกำลังปรับปรุงอยู่ เดี๋ยวกระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ ไม่ใช่ไม่ได้ทำอะไรเลย
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment