ใช้ผลลูกบรรยิน ไขคดีหุ้น"ชูวงษ์"

 

พี่สาวเสี่ยชูวงษ์ไม่แปลกใจ ที่ผลตรวจดีเอ็นเอของพฐ. ออกมาว่า "บรรยิน" เป็นพ่อของลูก "ป้อนข้าว"ระหว่างเข้าพบตร.ประชาชื่น ให้การคดีถูกพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ แจ้งจับฐานหมิ่นประมาท เผยเชื่อมาตลอดว่าไม่ใช่ลูกของน้องชายตน ชี้ทำให้หลักฐานต่างๆ ในคดีโอนหุ้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผกก.ประชาชื่นเผย คดีนี้ทางพ.ต.ท.บรรยินแจ้งความไว้ที่ กองปราบฯ แต่ทางกองปราบฯ โอนคดีมาให้เพราะเป็นท้องที่รับผิดชอบ


จากกรณีตำรวจกองปราบปรามจับ กุมพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจหมื่นล้าน ที่ประสบเหตุรถยนต์ เสียหลักพุ่งชนต้นไม้เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยขณะจับกุมที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งเชิงเขาใหญ่ ยังพบตัวน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือน้อง ป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ ผู้ต้องหาคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ที่เจ้าตัวเคยให้การว่าเป็นกิ๊กกับนายชูวงษ์และท้อง จึงได้รับการโอนหุ้นให้รวมอยู่ด้วย ล่าสุดตร.กองปราบฯ นำเครื่องใช้เด็กอ่อนในบ้านน้องป้อนข้าวไปตรวจดีเอ็นเอ ก่อนผลออกมาว่าพ.ต.ท.บรรยินเป็นพ่อ ของเด็ก ขัดกับคำให้การของพ.ต.ท.บรรยิน ที่ว่าไม่รู้จักน้องป้อนข้าวมาก่อน นอกจากนี้ยังพบข้อพิรุธในคดีเมียเก่าพ.ต.ท.บรรยิน ที่ขับรถชนต้นไม้เสียชีวิตที่ จ.นครสวรรค์ โดยคนใกล้ชิดยืนยันว่าเมียเก่าพ.ต.ท.บรรยินขับรถ ไม่เป็น ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์มีลักษณะคล้ายคลึงกันอีกด้วย ตามที่เคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่ สน.ประชาชื่น นางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ อายุ 54 ปี พี่สาวของนายชูวงษ์ พร้อมด้วยนายเอกรินทร์ ชูเลี่ยง ทนายความ เข้าพบพ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน. ประชาชื่น และร.ต.ท.จีระวัฒน์ จันทะโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) เพื่อให้ปากคำในคดี ที่พ.ต.ท.บรรยินฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2558 ใช้เวลากว่า 2 ช.ม. ในการสอบสวนปากคำ

นางวันเพ็ญกล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำว่า วันนี้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ในคดีที่พ.ต.ท.บรรยินเคยแจ้งความตนไว้ในข้อ หาหมิ่นประมาท แต่เรื่องรายละเอียดตนไม่ขอเปิดเผย ส่วนกรณีที่ผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ที่พบว่าลูกของน.ส.อุรชาหรือป้อนข้าว มีดีเอ็นเอตรงกับของพ.ต.ท.บรรยินนั้น ตนไม่รู้สึกแปลกใจเพราะเชื่อมั่นอยู่แล้วว่าเด็กไม่ใช่ลูกของน้องชายแน่นอน ซึ่งผลที่ออก มาทำให้หลักฐานต่างๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน.ส.อุรชา กับพ.ต.ท.บรรยิน และเรื่องลักษณะการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ มีลักษณะคล้ายกับการเสียชีวิตของอดีตภรรยานายบรรยิน หรือไม่นั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กองปราบปรามที่ทำให้เรื่องทุกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ในเรื่องของการถูกข่มขู่ตนไม่ขอพูด แต่การที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมาตนก็จะต้องระวังตัวมากขึ้น

ขณะที่พ.ต.อ.สามารถกล่าวว่า วันนี้นางวันเพ็ญมาให้ปากคำกรณีที่พ.ต.ท.บรรยินฟ้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่น ประมาทไว้ที่กองปราบปราม แต่ทางกองปราบฯ โอนคดีดังกล่าวมาให้สน.ประชาชื่น รับดำเนินการต่อเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ส่วนเรื่องรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี

ส่วนความคืบหน้าในเรื่องคดี ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. ได้เรียกทีมสืบสวน ของ กก.1 บก.ป.ทั้งหมดเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความหน้าการสืบสวน ที่สั่งการไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานว่าผลตรวจดีเอ็นเอ อย่างเป็นทางการ คาดว่าทางพฐ.จะรายงานผลให้พนักงานสอบสวนทราบภายในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค. นี้

ทั้งนี้สำหรับผลดีเอ็นเอดังกล่าว จะได้นำไปประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของพ.ต.ท. บรรยิน และน.ส.อุรชา ทำให้เห็นว่ามีความขัดแย้งจากคำให้การเดิม ที่พ.ต.ท.บรรยิน เคยให้การไว้ก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้รู้จักกับน.ส.อุรชาอย่างเป็นการส่วนตัวอีก ด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานการสืบสวนด้วยว่า ในวันจับกุมพ.ต.ท.บรรยินที่รีสอร์ตหรูเชิงเขาใหญ่ นั้น ยังพบอีกว่าพ.ต.ท.บรรยิน และน.ส.อุรชา น่าจะพักอาศัยอยู่ห้องเดียวกัน เนื่องจากพบว่าทั้งคู่ใส่ชุดนอนเดินออกมาที่ระเบียงหลังห้อง สอดคล้องกับคำให้การของพนักงานของรีสอร์ตที่ระบุว่า เห็นบุคคลทั้งสองเดินทางมาถึงพร้อมกัน และรับกุญแจก่อนจะเดินขึ้นห้องไปพร้อมๆ กันด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานความคืบหน้าคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำเพิ่มเติมตามที่อัยการสั่งจนเสร็จสิ้น และนำส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดีไปแล้ว มีรายงานว่าอัยการน่าจะมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนทางเอกสาร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องออกหมายเรียกพ.ต.ท.บรรยิน, น.ส.อุรชา, และนางศรีธรา พรหมา มารดา ร่วมทั้งน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล พริตตี้สาว 4 ผู้ต้องหาเพื่อนำตัวส่งให้อัยการ แต่หากยังไม่มาพบก็ต้องออกหมายจับตาม ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ที่มา ข่าวสด