ลุยเอาผิด" วิกรม-คนดี"ด้วย หลักฐานชัดรูปเลี้ยงนกเงือก
กรมอุทยานฯ ลุยเอาผิด "วิกรม กรมดิษฐ์" เลี้ยงนกเงือก ข้อหาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หวั่นสังคมตั้งคำถาม เหตุมีรูปถ่ายคู่กับนกเงือกชัดเจน แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี เพราะเจ้าสัวคนดีร่วมคณะรมว.ทส.ไปหารือกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สหรัฐ เรื่องยกระดับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนเรื่องที่แจ้งจับน้องชายวิกรมก็แป้ก เพราะเอาผิดคดีล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ดันไม่เข้าข่าย เลยต้องกลับมาตั้งหลักใหม่
จากกรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจชื่อดัง แสดงภาพถ่ายคู่กับนกเงือกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ที่พบเห็นและกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างกว้างขวาง ต่อมานายวิกรมได้ชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊กว่า เป็นนกที่นายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ น้องชายช่วยเลี้ยงดู เนื่องจากบ้านน้องชายอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยคนงานไปพบนกดังกล่าวซึ่งไม่สามารถบินได้มา น้องชายสงสารจึงนำมาเลี้ยงไว้
ต่อมาตำรวจ บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักส่วนตัวของนายวิกรมทั้งที่เขาใหญ่และกรุงเทพฯ แต่ไม่พบนกเงือกดังกล่าว เบื้องต้นกรมอุทยานฯ แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายวิฑูรย์ เนื่องจากสารภาพว่า นำนกเงือกมาดูแล แต่ปล่อยกลับป่าเขาใหญ่ไปแล้ว ในฐานความผิดล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังนำภาพถ่ายและหลักฐานอื่นๆ ที่มี ร่วมหารือกับฝ่ายกฎหมายกรม อุทยานฯ ว่าจะแจ้งความเพิ่มเติมในฐานความผิดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่อนายวิกรมและนายวิฑูรย์เพิ่มเติมได้หรือไม่ เนื่องจากภาพถ่ายคู่นกเงือกของนายวิกรมเป็นหลักฐานที่ชัดเจนพอสมควร ทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวในสื่อต่างๆ ว่ามีการกระทำร่วมกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุหนึ่งที่กรม อุทยานฯ ต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อหาทางแจ้งความในความผิดเพิ่มเติม เนื่องจากก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ โดยสำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า แจ้งความดำเนินคดีต่อนายวิฑูรย์ในฐานความผิดล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อถึงขั้นตอนของพนักงานสอบสวน กลับไม่อาจดำเนินคดีได้ สาเหตุเพราะลักษณะเข้าข่ายการครอบครองนกเงือกมากกว่าการล่า
นอกจากนั้นยังมีสาเหตุสำคัญคือ นายวิกรมที่มีภาพปรากฏคู่กับนกเงือกชัดเจน กลับไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้กรมอุทยานฯ ถูกตั้งคำถามจากสังคม เนื่องจากเมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายวิกรมในฐานะคณะทำงานเพื่อพัฒนาและยกระดับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมเดินทางกับคณะของพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. ไปร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่ง ชาติเกรตสโมคกี้เมาน์เทน รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามโครงการอุทยานพี่ อุทยานน้อง เพื่อพัฒนาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติระดับโลกด้วย
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment