ตม.เช็กหญิงไก่-ไปทำอะไรที่ฮ่องกง แฉอีกเคยชักชวน ลูกสาว"นอ."ด้วย
ตร.ตั้งปม"หญิงไก่" ชวนลูกจ้างไปฮ่องกงก่อนแจ้งความ ประสานตม. เช็กประวัติ การเดินทางไปประเทศไหนบ้าง ไปเมื่อไหร่ นำใครไปด้วย ด้านทนายสงกรานต์เตรียมนำ"นาวาเอก"เข้าร้องทุกข์อีกราย เนื่องจากลูกสาวก็ถูก"หญิงไก่"ชักชวนเช่นกัน ขณะที่อดีตผู้ติดตามเข้าให้การเพิ่มอีก
จากกรณีอดีตลูกจ้างเข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบฯให้ดำเนินคดีกับนางมณตา หยกรัตน กาญ อายุ 56 ปี หรือหญิงไก่ อดีตนายจ้าง ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา จากพฤติกรรมที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างหลายราย ในข้อหาลักทรัพย์ และยังมีพฤติกรรมชักชวนลูกจ้างไปทำงานที่ฮ่องกง หากใครปฏิเสธก็จะถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยมีหลักฐานเพียงภาพวงจรปิดขณะเดินออกจากที่พัก โดยนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ยังได้นำผู้เสียหายในกรณีเดียวกันอีกหลายรายเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต่อมาหญิงไก่พร้อมทนายความได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ โดยยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งผู้เสียหาย พร้อมแจ้งว่าอีก 3 วัน ตนจะออกมาแถลงอีกครั้งตามข่าว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายสงกรานต์เปิดเผยว่า นาวาเอกนายหนึ่งระบุว่าลูกสาวก็เคยถูกชักชวนในลักษณะดังกล่าว โดยวันนี้ตนยังไม่ได้นำนาวาเอกท่านนั้นมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากยังต้องรวบรวมเอกสาร และข้อมูลอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามคาดว่าไม่น่าจะเกินวันอังคารที่ 5 ก.ค.นี้ จะสามารถรวบรวมพยานบุคคล และพยานเอกสารพร้อมทยอยเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนได้
นายสงกรานต์กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้ น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา อายุ 25 ปี ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนในบางประเด็นที่ยังตกค้างจากเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นหลังจากผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาร้องพนักงานสอบสวน บก.ป. ก็ได้สอบปากคำทั้งผู้เสียหาย รวมทั้งพยาน รวมประมาณ 5-6 ปากแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร ข้อมูลที่นำมามอบให้
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลังจากผู้เสียหายและพยานหลายปากเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนนั้น จึงได้ประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศของนางไก่ อดีตนายจ้างคนดังกล่าว ว่าได้เดินทางไปยังประเทศใดบ้าง โดยเฉพาะฮ่องกง ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นชนวนเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดคดีทั้งหลายขึ้น โดยสังเกตจากพฤติกรรมว่าเมื่อใดก็ตามอดีตลูกจ้างต่างพยายามตีตัวออกห่าง หรือไม่ยอมไปทำงานที่ฮ่องกง ก็จะถูกแจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าอดีตนายจ้างน่าจะมีความสัมพันธ์หรือเบื้องลึกอะไรบางอย่าง จึงต้องการให้หญิงสาวที่ทำงานด้วยไปทำงานยังฮ่องกง โดยตำรวจชุดสืบสวนเชื่อว่าหากได้ข้อมูลการเดินทางจากตำรวจตม. ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา วันที่ รวมถึงบุคคลที่อดีตนายจ้างหญิงคนดังกล่าวเคยพาไปด้วย น่าจะเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ทำให้รูปคดีชัดเจนขึ้นได้
สำหรับคดีนี้ได้รับการเปิดเผยขึ้น เมื่อน.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย อายุ 19 ปี ชาวจ.นครพนม นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม ในวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบหลังถูกนางไก่ หรือหญิงไก่ อดีตนายจ้าง แจ้งความดำเนินที่สน.ประชาชื่น ให้ดำเนินคดีกับตนพร้อมบิดาและมารดา ในข้อหาลักทรัพย์ โดยอ้างมีทรัพย์สินสูญหายไป 11 รายการ ทั้งทองแท่งหนัก 40 บาท ทองรูปพรรณ และสร้อยเพชร รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จนถูกจับกุมและถูกส่งไปสถานพินิจฯนาน 2 เดือนแล้วปล่อยตัวออกมา ซึ่งครอบครัวลำบากมาก ก่อนตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรม
จากนั้นก็มีอดีตลูกจ้างอีกหลายรายทยอยเข้าแจ้งความ อาทิ น.ส.วณิชยา หรือมีน บุ้นสุนเฮง อายุ 21 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ที่แม่ถูกแจ้งดำเนินคดีที่สน.ประชาชื่น ฐานลักทรัพย์ ทั้งแหวนเพชรและนาฬิกาข้อมือ มูลค่า 3.26 ล้านบาท จนถูกจับกุมและส่งฝากขังคุมตัวไว้ที่เรือนจำคลองเปรม เพราะไม่มีหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2558
ขณะที่น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือ หนูนา ที่เคยเป็นผู้ติดตามหญิงไก่เมื่อปี 2551 ลากลับบ้านที่จ.แม่ฮ่องสอนก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหาขโมยเครื่องเพชร และถูกข่มขู่ให้รับสารภาพไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีกับคนในครอบครัว ทำให้ต้องจำใจรับสารภาพ จนถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน โดยในวันนี้ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติของหญิงไก่ พบเดิมชื่อนางวันทนีย์ หยกวิริยะกุล ต่อมาในปี 2548 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นนางสุชาดา หยกวิริยะกุล กระทั่งล่าสุดเปลี่ยนชื่อและนามสกุลอีกครั้งเป็นนาง มณตา หยกรัตนกาญ ส่วนเรื่องของคดีนั้น เมื่อตรวจสอบย้อนหลังยังพบข้อมูลด้วยว่าเคยแจ้งความเอาผิดคนใช้มาแล้ว 4 คดี แต่ที่ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลมีเพียง 1 คดี ส่วนที่เหลือไม่ติดใจเอาความ
ด้านนางไก่เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งอาจจะมีการล่าช้า เนื่องจากต้องประสานงานกับหน่วยงานทางภาครัฐหลายหน่วย ส่วนกรณีคดีความของ น.ส.จันทนา หรือ หนูนา ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ถูกข่มขู่ให้รับสารภาพ รวมถึงเขียนจดหมายสารภาพด้วยนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนมีจดหมายฉบับจริง มีทั้งตราประทับของกรมราชทัณฑ์ ตราไปรษณีย์ ซึ่งตรวจสอบได้ว่า จดหมายดังกล่าวเป็นลายมือของน.ส.จันทนาจริง อีกทั้งขณะเขียนจดหมายดังกล่าวน.ส.จันทนาอยู่ภายในเรือนจำ ตนอยากจะถามว่าตนไปข่มขู่ได้อย่างไร หากน.ส.จันทนาไม่ได้กระทำความผิดจริงเหตุใดจึงต้องรับสารภาพ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตนเองอยู่
เมื่อถามถึงกรณีอดีตลูกจ้างเริ่มทยอยเข้าแจ้งความนั้น นางไก่กล่าวว่า ก็ปล่อยให้แจ้งความไป แต่หากตนไม่ผิดตนจะดำเนินคดีแจ้งความกลับทันที
ที่มา ข่่าวสด
0 comments:
Post a Comment