Friday, June 10, 2016

สลด ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กินลาบหมูดิบในงาน ติดเชื้อเสียชีวิต เฝ้าระวังอีก 3 ราย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.น่าน พบผู้ป่วยเป็น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ใต้ร่มโพธิ์ทอง ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ซึ่งเดินสายร่วมงานบุญ งานเลี้ยง กินลาบหมูดิบ เกิดอาการช็อกหมดสติ ญาติหามส่งโรงพยาบาลกันวุ่น โดย นพ.ชรินทร์ ดีปินตา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พญ.ธัญญาลักษ์ วงศ์คำหล้า แพทย์ประจำโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว พร้อมด้วยพยาบาล ต้องเฝ้ารักษา และดูอาการผู้ป่วยอีก 3 ราย  ซึ่งเป็นชาวบ้านจากบ้านใต้ร่มโพธิ์ทอง และ บ้านงอบใต้ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน หลังกินลาบหมูดิบ แล้วมีอาการปวดจุกแน่นท้อง อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด และหมดสติ โดย 1 ราย คือนายสิงห์ทอง อินทะรังสี อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใต้ร่มโพธิ์ทอง อาการรุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา


นายสุระศักดิ์ อินทะรังสี ผู้ใหญ่บ้านใต้ร่มโพธิ์ทอง หมู่ 10 ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ซึ่งเป็น 1 ในผู้ป่วย เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ก่อน ตนเองและผู้ช่วย เดินสายร่วมงานเลี้ยง งานบุญ ต่างๆที่ได้รับเชิญมาตามหน้าที่ และโดยส่วนใหญ่เจ้าภาพจะทำลาบหมูดิบมาจัดเลี้ยงรับประทานกัน โดยหลังทานผ่านไป 2 วัน ได้เกิดอาการจุกแน่นท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด ลุกเดินไม่ได้ และหมดสติ ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นโรคสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส หรือโรคหูดับ โดยผู้ช่วยนั้น มีอาการหนัก ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตในที่สุด

ด้านนพ.ชรินทร์ ดีปินตา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ผู้ป่วยเป็นโรคสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส หรือโรคหูดับ ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีในหมูเท่านั้น ซึ่งหมูอาจจะมีอาการป่วยอยู่แล้ว โดยจะพบเชื้อนี้มากในบริเวณต่อมทอมซิลของหมู คือช่วงส่วนระหว่างหูและลำคอของหมู โดยผู้ที่รับประทานหมูที่มีเชื้อแบคทีเรียนี้เข้าไปจะมีอาการมีไข้สูง มีอาการเวียนหัว หน้ามืด อุจจาระร่วง อาเจียน อ่อนเพลีย ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการไข้ขึ้นสูง ติดเชื้อในกระแสเลือดความดันเลือดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เวียนหัวไร้การทรงตัว ไม่มีเรี่ยวแรง ประสาทหูอักเสบ จนกระทั่งหูทั้งสองข้างสูญเสียการได้ยิน ช็อกและเสียชีวิตในที่สุด  

โดยอาการจะเกิดขึ้นเร็วมากภายในระยะเวลา 1-2 วัน ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่จะไปทำลายเยื้อหุ้มประสาทและต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อรักษาในขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม โรคหูดับ เป็นโรคที่อันตรายมาก หากมีอาการรุนแรงและถึงโรงพยาบาลช้า ก็อาจถึงขึ้นเสียชีวิตได้     โดยขณะนี้ได้ส่งทีมควบคุมโรค  เข้าตรวจในพื้นที่พร้อมกับคัดกรองผู้ที่ได้รับประทานลาบหมูดิบในงานดังกล่าวอีกหลายคน ก็ต้องเฝ้าระวังอาการ แต่คาดว่าจะปลอดภัยแล้วทั้งหมด เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานและได้รับเชื้อแบคทีเรียน้อย

สำหรับโรคหูดับในแต่ละปีจะมีอัตราการการพบผู้ป่วยปีละ 4-5 ราย และส่วนมากมีอาการหนัก โรคหูดับจะพบมากในผู้ป่วยภาคเหนือกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคหูดับ คือ กลุ่มชายวัยกลางคน และผู้สูงอายุกว่าครึ่งของผู้ป่วยมีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ และนิยมอาหารสุกดิบ ซึ่งหากจะปลอดภัยจากโรคหูดับ ต้องปรับวัฒนธรรมการกินใหม่ โดยวิธีการปรุงอาหารให้สุกและถูกหลักอนามัย ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets