Tuesday, June 7, 2016

เปิดใจแม่ชีกรรณิการ์ เจ้าของบ้านโบราณ 152 ปี - ผู้กล้าปฎิเสธเงิน 85 ล้านบาท

 

กรณีมีผู้แชร์ภาพบ้านโบราณอายุกว่า 152 ปี ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสวงเวียนใหญ่ ซึ่งเจ้าของบ้านยืนยันว่าไม่ขายบ้านและที่ดินหลังมีผู้เสนอซื้อ 85 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางตรวจสอบพบบ้านเรือนไทยหลังดังกล่าว ที่ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 34 ซ.กรุงธนบุรี ต.บางลำภูล่าง เขตคลองสาน มี แม่ชีร.ต.หญิงกรรณิการ์ ชมศิริ อายุ 80 ปี ข้าราชการบำนาญทหาร เป็นเจ้าของบ้าน


โดยบ้านดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 167 ตารางวา เป็นบ้านไม้สัก มีสภาพเก่าแต่ยังแข็งแรง ภายในบ้านใช้บานเฟี้ยมกั้นห้อง มีนาฬิกาและแม่ย่านางเรือเก่าแก่เก็บรักษาอยู่ โดยพื้นที่รอบข้างบ้านถูกกว้านซื้อและกำลังก่อสร้างเป็นคอนโด


แม่ชีร.ต.หญิงกรรณิการ์ เล่าว่า บ้านหลังนี้มีอายุ 152 ปี ปัจจุบันมีผู้อาศัย 10 คน ลูก 4 คน ลูกเขย 2 คน หลาน 2 คน แม่ชีและสามี สร้างมาตั้งแต่สมัยร.5 เป็นบ้านที่ คุณชวดคร้าม จุณณะปิยะ เป็นผู้สร้างขึ้นก่อนสืบทอดต่อกันมา สมัยก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นสวนผลไม้มีทั้ง มะม่วง มะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่ ลำใย ทุเรียน มะนาว มะกรูด สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีคนจีนกับคนอินเดียมาเช่าอยู่เพราะลี้ภัยสงคราม หลายปีที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากบริษัทคอนโดมาขอซื้อที่ดินถึง 3 บริษัท ครั้งแรกมาติดต่อ 50 ล้านบาท เมื่อหลายปีที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนนี้มาติดต่อขอซื้อที่ 85 ล้านบาท แม้กรมที่ดินจะประเมินว่ามีราคาประมาณ 20 กว่าล้านบาทเท่านั้น

แม่ชีกรรณิการ์ ยังบอกอีกว่า ถึงแม้จะถูกพูดจาหว่านล้อมแต่ก็ปฏิเสธไปทันที เนื่องจาก บรรพบุรุษสร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ต้องตรากตรำขายหมาก ขายพลู กว่าจะได้เงินทองมา ซึ่งบรรพบุรุษสั่งห้ามไม่ให้ขายบ้านหลังนี้ และปัจจุบันก็มีกินมีใช้อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่ต้องขาย แม้เงิน 85 ล้านบาทจะเป็นเงินที่เยอะมาก แต่ไม่สนใจ เงินไม่ใช่ปัจจัยใหญ่ ถึงจะมาขอซื้ออีกก็ยังยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่าไม่ขาย ไม่ว่าใครจะมาติดต่อขอซื้อก็ไม่มีทาง

หลังมีการก่อสร้างคอนโดรอบข้างก็ทำให้อากาศร้อนขึ้น เพราะไม่มีลมโกรกตามภูมิปัญญาของบ้านทรงไทย ต้องติดพัดลมเพื่อช่วยคลายร้อน นอกจากนี้การก่อสร้างก็ทำให้ปูน อิฐ ลอยมากระทบจนหลังคาเกิดรอยรั่ว เมื่อฝนตกจึงมีน้ำขังในบ้าน แต่คนในบ้านก็อาศัยอยู่ได้ เพราะ คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก วางอุเบกขา สนใจในธรรมะอย่างเดียว

ด้านนางกมลวรรณ ชมศิริ อายุ 40 ปี ลูกคนที่ 3 กล่าวว่า พี่น้องทุกคนไม่ต้องการขายบ้านหลังนี้ เพราะ อาศัยมาตั้งแต่เกิด มีคุณค่าและความทรงจำมากมาย เงินทองได้มาวันหนึ่งก็หมดไปแต่ที่ดินยังคงอยู่ ซึ่งแถวนี้เดินทางสะดวกเวลาเจ็บป่วยก็ไปรพ.ได้ง่าย ส่วนบ้านเรือนไทยที่อาศัยอยู่ก็ไม่คิดปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบ้านทันสมัย

ในยุคสมัยที่เงินทองเป็นปัจจัยใจสำคัญสำหรับมนุษย์ แต่ แม่ชีร.ต.หญิงกรรณิการ์ กลับใช้ชีวิตอย่างสมถะ พอใจในสิ่งที่มี และเชื่อว่าเงินทองมากมายอาจสร้างความสุขทางกายแต่สร้างความสุขทางใจไม่ได้ ซึ่งหากคนรุ่นใหม่สนใจ อยากมาเยี่ยมชมบ้านเรือนไทยอายุ 152 ปีนี้ เจ้าของบ้านยินดีต้อนรับทุกคนด้วยความเต็มใจ

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets