พบเก๋งอัลติสเหยื่ออุ้ม พฐ.เก็บรอยมือคนร้าย ตร.ปทุม-อยุธยาลุยล่า
เจอแล้ว รถเก๋งอัลติส ของสาวใหญ่ชาวปทุมฯ อดีตเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ถูกคนร้ายลักพาตัวจากบ้านย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ใช้ถุงดำคลุมหัวมัดมือไพล่หลัง ชิงเงินสด สร้อยทอง ก่อนพาตระเวนกดเงินไปอีก 2 แสนบาท ถูกจอดทิ้งในที่จอดรถ ร้านกุ้งเต้นชื่อดัง ของ จ.ปทุมฯ เผยเจ้าของร้านเห็นรถจอดอยู่นานจนจะปิดร้าน สอบถามไม่รู้เป็นของใคร จึงแจ้งตำรวจ ด้าน พฐ.เร่งเก็บหลักฐานสาวถึงคนร้าย รายงานข่าวเผยชุดสืบสวนมุ่งปมคนร้ายต้องการเงิน โดยรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างดี ก่อนนำบัตรเอทีเอ็ม 3 ธนาคารไปกด 5 ครั้ง ได้เงินรวมทั้งหมด 4 แสนบาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ค. พ.ต.อ. สมหมาย ประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.อภิชาติ โกมุติกานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เข้าตรวจสอบรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ทะเบียน 4 กญ 7170 กรุงเทพฯ ของนางสุภาพรรณ แก้วกลม อายุ 61 ปี อดีต เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ถูกคนร้ายลักพาตัวจากบ้านพักย่านคูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ใช้ถุงดำคลุมหัวมัดมือไพล่หลัง ชิงเงินสด 2 หมื่น สร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทองหนัก 2 บาท ก่อนพาตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มหลายครั้ง ได้เงินไปอีก 2 แสนบาท จากนั้นพาตัวไปทิ้งในซอยเปลี่ยวย่านวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนางสุภาพรรณได้ขอให้พลเมืองดีพาเข้าแจ้งความ เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยตำรวจคาดว่าคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวว่าเพิ่งได้เงินเกษียณ เร่งกระจายกำลังไล่ล่าตัวอยู่ หลังรับแจ้งพบรถคัน ดังกล่าวจอดอยู่ข้างหมู่บ้านเอื้ออาทรบ้านฉาง ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
พ.ต.อ.สมหมายกล่าวว่า เจ้าของร้านกุ้งเต้นอึ้งจั้วกี่ กำลังจะปิดร้านอาหารช่วงเวลา 22.00 น. เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เห็นว่ามีรถคันดังกล่าวจอดอยู่ จึงตรวจสอบหาเจ้าของรถที่มารับประทานอาหารแต่ก็ไม่มี รอถึงเวลา 23.00 น. ไม่เห็นเจ้าของมานำรถออกไป จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองปทุมธานี นำรถยกมายกไปตรวจสอบหาเจ้าของรถ จนพบเป็นรถของนาง สุภาพรรณ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ตรวจสอบลายนิ้วมือและหลักฐานต่างๆ ของคนร้าย พร้อมกับติดตามเจ้าของรถมาตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พ.ต.ท.เชิงชาย พงษ์แขก รอง ผกก.ป.สภ.วังน้อย ให้มานำรถยนต์ของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.วังน้อย เพื่อรอทางนางสุภาพรรณผู้เสียหายมาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการติดตามตัวคนร้ายวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย และ สภ.คูคต นำผู้เสียหายและพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสเกตช์ภาพคนร้าย ซึ่งพยานที่เป็นชาวบ้าน ที่มีบ้านติดกับผู้เสียหาย ให้การว่า คิดว่าเป็นเหตุตำรวจมาจับกุมคนร้าย ไม่คิดว่าเป็นนางสุภาพรรณที่ถูกก่อเหตุเลยไม่ได้ช่วยเหลือ กระทั่งมาทราบในภายหลัง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงมุ่งปมเรื่องเงินเท่านั้น โดยคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อ ที่จะออกจากบ้านตอนเช้ามืดทุกวันพุธ เพื่อเดินทางไปที่ทำงานเก่า จากการตรวจสอบบัญชีพบคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของเหยื่อไปกดทั้งหมด 3 ใบ คือ บัตรเอทีเอ็มธนาคารทหารไทย ไปกดที่ตู้ไทยพาณิชย์ คลอง 4 ลำลูกกา ยอดเงิน 160,000 บาท และกดที่ตู้ไทยพาณิชย์ ปั๊ม ปตท.วังน้อย อีก 40,000 บาท ส่วนบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ กดที่ตู้ไทยพาณิชย์ หน้า ม.เจษฎา 7 เป็นเงิน 50,000 บาท และบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ไปกดที่ตู้ไทยพาณิชย์ หน้า ม.เจษฎา 7 เป็นเงิน 140,000 บาท กดที่ตู้ไทยพาณิชย์ ตลาดน้ำทุ่งบัวชม อีก 10,000 บาท รวมยอดเงินสดที่กดเงินได้ไปเป็นเงิน 400,000 บาท และทรัพย์สินตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ คือสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 1 องค์ โดยตำรวจชุดสืบสวนทั้งภูธรจังหวัดปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ระหว่างร่วมกันเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment