Wednesday, May 18, 2016

แฟนวอลเลย์ทั่วโลกล่ารายชื่อกดดัน"เอฟไอวีบี" ตอบให้ชัดทำไมไทยเสียแต้มให้ญี่ปุ่น!!

 

 กลายเป็นกระแสวิจารณ์ไปทั่วโลกจริงๆ สำหรับการพ่ายแพ้แบบมีข้อกังขอของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยที่แพ้ญี่ปุ่นไป 2-3 เซ็ตนั้น เพราะล่าสุด อัลวิน หว่อง ชาวฮ่องกง ได้ตั้งหัวข้อใน เว็บไซต์ petitions24 เพื่อล่ารายชื่อกดดันสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือเอฟไอวีบี (FIVB) ให้ตอบคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยข้อความมีดังนี้


 “โปรดให้คำอธิบายที่ชอบธรรมว่าเพราะเหตุใดทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยต้องเสียสองคะแนนและไม่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัว


  ในฐานะตัวแทนของแฟนวอลเลย์บอลไทย เราได้ชมเกมการแข่งขันวอลเลย์บอลระหว่างไทย และญี่ปุ่น เกมนี้เป็นเกมที่ยอดเยี่ยม ระหว่างเกมเรารู้สึกพอใจในความกระฉับกระเฉงและความมุ่งมั่นของทั้งสองทีมซึ่งทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ดี จนกระทั่งเกมมาถึงในเซ็ตสุดท้าย (เซ็ตที่ 5) ผู้ตัดสินให้ใบเหลืองทีมไทย 2 ใบขณะที่

  1.ไทยกำลังนำอยู่ 12-6 โค้ชของไทยพยายามกดปุ่มเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อเปลี่ยนแทคติก แต่ระบบไม่ทำงาน และผู้ตัดสินให้ใบแดง!!! (โค้ชตัดสินใจยืนยันการประท้วงกับผู้ตัดสินที่ 2)

  2.ผู้ตัดสินตัดคะแนนไทย 2 คะแนนขณะที่เสมอกันอยู่ที่ 13-13 นั่นทำให้ญี่ปุ่นขึ้นนำทันที 14-13 และกลายเป็นแมตช์พอยต์!!!

  เราเชื่อว่า สหพันธ์วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ (เอฟไอวีบี) ควรมีความเป็นธรรม และเท่าที่เรารู้ เราต้องการให้เอฟไอวีบีพิจารณาอีกครั้งถึงสิ่งที่คุณทำในครั้งนี้ และทำให้ทุกคนยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตัดสินจากผู้ตัดสินท่านนี้ สุดท้ายนี้ ทุกคนในโลกไม่เฉพาะในประเทศไทย (แฟนวอลเลย์บอล) เคารพในเอฟไอวีบี

  และเราหวังว่าคุณจะพิจารณาและให้ความชัดเจนกับทุกๆ คน “ในอีกทางหนึ่งเรารู้สึกอย่างเต็มที่ว่ามีใครบางคนขโมยชัยชนะซึ่งเราเรียกว่า “ความไม่ยุติธรรม”!!”

   อย่างไรก็ตาม หลังจากการตั้งหัวข้อดังกล่าว ล่าสุดได้มีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 7,000 คนแล้ว โดยมีทั้งคนไทย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, เวียดนาม, เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ โดยผู้สนใจสามารถร่วมลงชื่อได้ที่ http://www.petitions24.com/please_give_a_legit_explanation_why_team_thailand_lose_two_points

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets