Sunday, May 22, 2016

ดญ.เผยนาทีระทึก โรยตัวหนีเพลิงพร้อมครู บอกเพื่อนไม่เชื่อ-ไฟลามคลอก17ศพ!!

 

 เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุไฟไหมบ้านพักเด็กนักเรียน โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา สังกัดมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ (องค์กรสาธารณประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เป็นเหตุให้นักเรียนหญิง ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 จนถึงระดับประถมศึกษา เสียชีวิตรวมจำนวน 17 คน และ บาดเจ็บ 5 คนนั้น ล่าสุด พล.ต.พิศาล นาคผจญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37  พล.ต.ต.ธนยินทร์ เทพรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ประหยัด สิงสิน ผกก.สภ.เวียงป่าเป้า นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายอำเภอเวียงป่าเป้า นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ


 พบเป็นอาคารคอนกรีตสูง 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้อง สภาพเพลิงได้เผาไหม้ชั้นล่างจนข้าวของเสียหายเกือบทั้งหมด แต่ตัวอาคารยังทรงตัวอยู่ได้ ส่วนชั้นบนแบ่งห้องนอนเป็นห้องๆ จำนวน 7 ห้อง สภาพไหม้เสียหายบางส่วน


 เจ้าหน้าที่จึงให้นางพิมพ์ วาสนา ผู้อำนวยการโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ภายในมูลนิธิฯ และ นายเรวัฒน์ วาสนา ผู้จัดการโรงเรียนเดียวกัน ให้ข้อมูลว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารพักของนักเรียนหญิงที่กินนอนอยู่ภายใน โดยก่อนเกิดเหตุมีนักเรียนหญิงตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาตอนปลาย นอนพักอยู่ที่ชั้นบนจำนวน 38 คน และมีครูพี่เลี้ยงนอนพักด้วยจำนวน 1 คน แม่บ้านอยู่ชั้นล่างอีก 1 คน


 แต่ช่วงเกิดไฟไหม้เป็นกลางดึก แม่บ้านไม่อยู่ เพราะออกไปธุระข้างนอก และเพลิงได้โหมลุกไหม้จากชั้นล่าง ทำให้ปิดทางหนี ส่งผลให้ทั้งไฟและควันคละคลุ้งคลอกเด็กๆ ที่อยู่ด้านบน แต่ละคนจึงพยายามวิ่งหนีไฟกันอยู่ด้านบนอย่างอลหม่าน ก่อนจะมีคนใช้ผ้ามัดเป็นเชือกห้อยโหนลงมา แต่มีเด็กจำนวน 17 คนหนีไม่ทัน และเสียชีวิตดังกล่าว

 นางพิมพ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ครูและนักเรียนที่ติดค้างอยู่ พยายามช่วยกันอย่างเต็มที่แล้ว และทางโรงเรียนยืนยันประตูต่างๆ ภายในอาคารปิดจากด้านใน และสามารถเปิดออกได้ แต่เนื่องจากไฟได้โหมลุกไหม้ที่ชั้นล่าง ทำให้คนด้านบนหนีไฟออกมาไม่ได้ดังกล่าว

 ด้านนายเรวัฒน์ กล่าวว่า มูลนิธิเปิดดำเนินการมาได้นานกว่า 40 ปี เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ช่วงแรกไม่มีโรงเรียน ต่อมาปี 2551 จึงพัฒนาให้มีโรงเรียนด้วย จึงมีครู 11 คน และนักเรียน 420 คน รวมทั้งมีบ้านพักอยู่ภายใน ซึ่งตามปกติจะแยกเป็นบ้านพักเด็กชายและเด็กหญิง กรณีของเรือนพักเด็กหญิงดังกล่าว จะให้เด็กแต่ละวัยนอนคละกัน เพื่อให้ช่วยเหลือกันได้ตามวัยในลักษณะพี่ช่วยน้อง และจะมีครูนอนด้วย 2-3 คน และแม่บ้านอีก 1 คน แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นวันหยุดทำให้เหลือครูนอนกับเด็กเพียง 1 คน

 ส่วนแม่บ้านก็ขออนุญาตออกไปรับประทานอาหารที่บ้านที่อยู่ใกล้กัน ก่อนไฟจะลุกไหม้ได้เก็บเสื้อผ้าที่รีดแล้วเอาไว้ที่ชั้นล่าง เพื่อเตรียมจะให้เด็กได้สวมใส่ในวันเช้าวันจันทร์ แต่ปรากฎว่าได้เกิดไฟลุกไหม้อย่างหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ

 ทางโรงเรียนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสิ่งใด เพราะปกติชั้นล่างมีแต่สายไฟและหลอดไฟ ส่วนชั้นบนมีระบบตัดไฟหรือเซฟทีคัทเอาไว้เรียบร้อย รวมทั้งไม่มีลูกกรงที่ทำให้หลบหนียาก เนื่องจากเหตุดังกล่าวจึงทำให้สูญเสีย แม้ครูอยู่ด้วย 1 คน จะพยายามช่วยเหลือกันห้อยลงมาจากหน้าต่างได้บางส่วนดังกล่าวก็ตาม

 ด้าน ด.ญ.สุชาดา กองอาสา หรือ น้องพลอย อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ซึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยที่เท้าและมือ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทุกคนหลับกันแล้วเกือบทั้งหมด แต่ตนได้ไปเข้าห้องน้ำและสังเกตเห็นเปลวไฟลุกไหม้มาจากชั้นล่าง จึงไปบอกเพื่อนๆ แต่ละห้อง แต่บางส่วนกลับไม่เชื่อ และปิดประตูห้องเพื่อนอนหลับต่อ จึงไปบอกครู และแจ้งคนอื่นๆ ให้หลบหนี

 แต่เนื่องจากไฟล้อมด้านล่างหมด จึงจำวิชาลูกเสือเนตรนารีที่ครูสอนด้วยการนำผ้ามาผูกเป็นเชือกยาว แล้วห้อยตัวลงมา ทีละคนๆ ซึ่งก็มีบางคนตกลงไปได้รับบาดเจ็บ บางคนก็รอดมาได้ แต่ก็เจ็บเล็กๆ น้อยๆ เหมือนตน แต่หลายคนไม่เชื่อก็ติดค้างอยู่ด้านบน ส่วนครูผู้หญิงที่ช่วยกันผูกเชือกได้ตกลงมาช่วงห้อยโหน ทำให้หลังและขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทาง พล.ต.พิศาล และ พล.ต.ต.ธนยินทร์ และฝ่ายปกครอง อ.เวียงป่าเป้า และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมกันที่ สภ.เวียงป่าเป้า เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยเบื้องต้นให้การรักษาผู้บาดเจ็บสาหัสที่มีอยู่จำนวน 5 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 18 คน ส่วนศพเด็กที่เสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบลเวียงป่าเป้า ขณะที่ทางโรงเรียนประกาศปิดเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และเปิดศูนย์รับบริจาคการช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุท่ามกลางบรรยากาศของพ่อแม่ผู้ปกครองที่สูญเสียบุตรหลานที่ไปที่โรงพยาบาลและมูลนิธิฯ ด้วยความเศร้าสลด ขณะที่สาเหตุของไฟไหม้อยู่ระหว่างรอกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจวิทยาการ ภ.เชียงราย เข้าไปตรวจสอบ

  นายเรวัฒน์ วาสนา ผู้จัดการโรงเรียนฯ กล่าวว่า นักเรียนที่เข้าเรียนที่โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับวัตถุประสงค์การตั้งมูลนิธิฯ คือ มีฐานะยากจนและด้อยโอกาสทางการศึกษา โดยมีทั้งคนไทยพื้นราบและกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นคนไทย โดยอาศัยอยู่ในเขต จ.เชียงราย และบางส่วนอยู่ในเขต จ.เชียงใหม่ ส่วนใหญ่ที่อยู่ในเขต จ.เชียงราย จะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง เช่น ม้งจาก อ.พญาเม็งราย อ.เวียงป่าเป้า เป็นต้น

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets