Monday, May 23, 2016

พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ 17ดญ.ดับคากองเพลิง กู้ภัยเจอเด็กนอนเกลื่อน-แต่ช่วยได้แค่7

 

 เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเพลิงลุกไหม้อาคารหอพักหญิง ภายในโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ภายใต้การดูแลของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์(องค์กรสาธารณะประโยชน์) เลขที่ 9 ม.11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อใกล้เที่ยงคืนที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียนหญิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 17 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาต้นเพลิงและสาเหตุของไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุ จากการตรวจสอบคร่าวๆ ทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้จากด้านหลังของอาคาร ยังไม่ชี้ชัดว่าจากชั้นสองหรือชั้นหนึ่ง


 ด้าน นายสหฤท พุ่มสุวรรณ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจ(เวียงป่าเป้า) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดแรก ที่เข้าไปถึงที่เกิดเหตุ เล่าว่า หลังจากรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหลายนาย และมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลเวียงป่าเป้า เมื่อมาถึงเห็นเพลิงลุกไหม้จากด้านหลังอาคารลามขึ้นชั้นสอง มีกลุ่มควันและเปลวไฟพวยพุ่งสูงมาก มีเด็กบางคนพยายามปีนหน้าต่างกระโดดลงมาจากชั้นสอง ตนได้ใช้บันไดพาดขึ้นไปช่วยเหลือ


 โดยเพื่อนอาสาสมัครกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งตำรวจ ที่มาถึงที่เกิดเหตุ ต่างแยกย้ายหาทางช่วยเหลือเด็ก ซึ่งอยู่บนชั้นสองของอาคารหอพัก จุดที่ตนขึ้นบันไดไปนั้น เป็นห้องนอนรวมของเด็กนักเรียน พบว่าเด็กส่วนใหญ่นอนหลับหมดสติเกือบทั้งหมด คาดว่าได้รับควันพิษจากไฟไหม้ ตนได้ช่วยเหลือออกมาได้เพียง 7 คน เพราะควันหนามาก

 ส่วนเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายก็ต้องใช้วิธีงัดประตู เพื่อให้พนักงานดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำสกัดไฟ หน้าต่างชั้นล่างอาคารเป็นเหล็กดัดทั้งหมด ห้องที่เด็กตกใจตื่น และหนีไฟไหม้ ก็ต้องใช้วิธีโรยตัวด้วยเชือก บ้างก็ใช้ผ้าม่านมัดกับเหล็กหน้าต่างใช้ปีนหนีเอาตัวรอด มีหลายคนยอมเสี่ยงกระโดดลงมาจากชั้นสองเลยก็มี เพราะเด็กมีจำนวนมาก แย่งกันหนีไฟอย่างโกลาหล

 สำหรับอาคารหอพักดังกล่าวในคืนที่เกิดเหตุ มีเด็กนักเรียนหญิงนอนพักผ่อนอยู่ภายในเกือบ 40 คน ช่วงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ก็เป็นช่วงที่เด็กกำลังหลับสนิท

 ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมาเก็บข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ปกครอง ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ เริ่มมีผู้ปกครองที่ทราบข่าวเดินทางมาติดต่อที่โรงเรียน ทางโรงเรียนจึงต้องใช้ห้องประชุมเป็นสถานที่พักผ่อน และรอรับเอกสารจากบรรดาผู้ปกครอง หลายคนร้องไห้ปานจะขาดใจเมื่อทราบข่าวว่าลูกของตนเสียชีวิตในกองเพลิง ทั้งนี้ บรรดาผู้ปกครองต่างช่วยกันปลอบซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่เป็นชาวชนเผ่าที่มีรายได้น้อย ทำให้บรรยากาศภายในห้องประชุมของโรงเรียนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

 นางหมี ผาด่าน อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ปกครองที่ลูกพักอาศัยในหอพักที่เกิดเพลิงไหม้ รีบเดินทางมาที่โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา หลังทราบข่าว โผเข้ากอด ด.ญ.จิตรดา ผาด่าน ลูกสาววัย 9 ขวบ ทั้งน้ำตานองหน้า เมื่อเห็นลูกสาวรอดตาย

 นางหมี เล่าว่า พอเพื่อนบ้านแจ้งข่าวว่ามีไฟไหม้ที่โรงเรียน มีเด็กตายหลายคน ก็ไม่เป็นอันทำอะไร รีบออกจากบ้านมาถึงโรงเรียนตอนสายๆ เดินหาลูกของตน ตะโกนร้องเรียกไปทั่ว เห็นคนวิ่งไปมา มีคนร้องไห้มากมาย แต่เมื่อเห็นหน้าลูกสาวของตน ก็ดีใจ แต่ก็เสียใจกับผู้ปกครองที่เสียลูกรักของตนเองไปอย่างกะทันหันเช่นนี้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศพเด็กทั้ง 17 ศพ เจ้าหน้าที่นิติเวชนำไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทางแพทย์นิติเวชจะทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ และตรวจ DNA ซึ่งต้องส่งชิ้นเนื้อเยื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ คาดรู้ผลอีก 2-3 วันข้างหน้า ก่อนส่งมอบศพคืนให้ผู้ปกครองนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ จะนับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งเด็กแทบทั้งหมด เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ฐานะยากจน พ่อแม่เป็นชาวชนเผ่าที่มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสุดทางโรงเรียนประกาศหยุดเรียนอย่างไม่มีกำหนด ให้ผู้ปกครองมารับบุตร ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.6 กลับบ้าน

 วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหมบ้านพักโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาฯ จากนั้นไปพบญาติและดูศพเด็กที่เสียชีวิตทั้งหมดที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ก่อนกลับไปประชุมสรุปผลและสั่งการที่ สภ.เวียงป่าเป้า พร้อมสั่งการให้ปิดสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ตำรวจวิทยาการ ภ.เชียงราย เข้าไปตรวจหาหลักฐานอย่างละเอียด รวมทั้งตั้งคณะกรรมการคลี่คลายคดีและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยให้ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ธนยินทร์ เทพรักษา ผบก.ภ.เชียงราย ควบคุมคณะกรรมการและประสานงานกับหน่วยงานอื่น

 ด้านโรงเรียนได้แจ้งรายชื่อนักเรียนที่เสียชีวิต ประกอบด้วย ด.ญ.ดาวลดา แซ่ยะ ชั้น ป.4 ด.ญ.กัญจนาพร ลาวโซ้ง ชั้น ป.4 ด.ญ.พรนภา พิสัยเลิศ ชั้น ป.5 ด.ญ.นภารินทร์ อรรคชาติ ชั้น ป.1 ด.ญ.เกวลิน อาจู ชั้น ป.6 ด.ญ.สภาวี อาจอ ชั้น ป.6 ด.ญ.อรทัย แซ่มั่ว ชั้น ป.3 ด.ญ.ชวัลลักษณ์ แซ่เล่า ชั้น ป.2 ด.ญ.จันทรา แซ่วะ ชั้น ป.2 ด.ญ.จันธิมา แซ่จาง ชั้น ป.3 ด.ญ.สุวิรา แซ่จาง ชั้น ป.2 ด.ญ.สุพา แซ่จาง ชั้น ป.4 ด.ญ.ชมพู เทิดไพรพนาวัลย์ ชั้น ป.3 ด.ญ.พรทิยพ์ แซ่มั่ว ชั้น ป.3 ด.ญ.ผกาทิพย์ ไทยเรืองสุข ชั้น ป.2 ด.ญ.สาวิตรี มาเยอะ ชั้น ป.2 และ ด.ญ.คณิตยา ผกายศรีสกุล ชั้น ป.4 ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อว่า ด.ญ.นรินทิพย์ อาจู ชั้นอนุบาล 3 ด.ญ.สุวนันท์ วุยยือ ชั้น ป.3 นิภาพร วุยยือ ชั้น ป.3 ด.ญ.รดา อาเซาะ ชั้น ป.4 และ ด.ญ.สุปวีร์ อาจอ ชั้น ป.6 ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยมีจำนวน 16 คน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้สรุปผลการแก้ไขปัญหาว่า กรณีผู้เสียชีวิตได้นำศพไว้ที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า เพื่อรอตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ โดยทางสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะตรวจทั้งหมดแม้ว่าจะทราบลักษณะรูปพรรณสันฐานชัดเจนแล้ว 5 รายก็ตาม เพื่อให้มีความชัดเจนแน่นอน ขณะที่คนบาดเจ็บทั้ง 5 คนมีบาดเจ็บสาหัส 2 ราย โดยเป็นเด็กหญิงที่ถูกไฟคลอก 23 % จำนวน 1 ราย ปัจจุบันรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียู ส่วนอีกคนหมดสติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่แพทย์ระบุว่าทั้งคู่พ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก ขณะที่ทาง พล.ต.ต.ธนยินทร์ ระบุว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ โดยรอผลจากตำรวจวิทยาการก่อน

 ด้าน น.ส.อณิรา ธินนท์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จ.เชียงราย กล่าวว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่ด้านจิตวิทยาพบปะกับผู้ปกครองที่สูญเสียและสอบสวนเรื่องสิทธิ์การได้รับการช่วยเหลือ โดยกรณีของผู้ปกครองที่ลูกหลานประสบเหตุ จะได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 2,000 บาท เด็กทั่วไปที่ประสบเหตุได้รับรายละ 3,500 บาท และเด็กที่บาดเจ็บได้รับรายละ 8,500 บาท ช่วงนี้ทาง พม.ได้จัดรถรับส่งผู้ปกครองเด็กที่ต้องไปกลับระหว่างโรงเรียน โรงพยาบาล และภูมิลำเนา รวมทั้งประสานกับโรงเรียนจัดหาที่พักกรณียังต้องอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุและจัดหาโรงเรียนกรณีมีผู้ประสงค์จะย้ายโรงเรียนต่อไปด้วย

 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการ ภ.5 โดยมี พล.ต.ต.ทรงธรรม และ พล.ต.ต.ธนยินทร์ ดูแลโดยแยกเป็นหลายส่วนงาน ทั้งด้านสืบสวน สอบสวนและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ที่เน้นย้ำเอาไว้ให้ ขณะเดียวกันได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจทุกท้องที่ใน ภ.5 เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ ฝ่ายทหาร ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแต่ละโรงเรียนให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets