Saturday, April 16, 2016

กลับสงกรานต์กร่อย! ทัวร์ห้ามหิ้ว ทั้ง"ปลาร้า-ทุเรียน" ขึ้นรถ สรุป 5 วัน-ตาย 338 ศพ

 

ถนนทุกสายเข้ากรุงติดหนึบ สั่งห้ามหิ้วปลาร้า-ทุเรียนขึ้นรถทัวร์ บขส. ขอนแก่นหวั่นกลิ่นรบกวนผู้โดยสารคนอื่น ส่วนถนนมิตรภาพเปิดเลนพิเศษ-แก้รถติดอีก รถไฟที่สองแควเต็มถึง 18 เม.ย.ทั้งขาขึ้นขาล่อง แนะเส้นทางเลี่ยงผ่านนครสวรรค์-เปิดเลนพิเศษสะพานเดชาติวงศ์ด้วย นักเที่ยวแห่ขับรถลงเรือเฟอร์รี่กลับจากเกาะช้าง-ต่อคิวยาวกว่า 3 ก.ม. ส่วนถนน 304 กับสระแก้วรถหนาแน่น สายเอเชียก็ปริมาณรถอื้อ คลิปโฉ่อีกฝรั่งอนาจารสาวที่พัทยา-จนท.ล็อกตัวทันควันตร.ระดมล่าโจ๋ยิงคู่อริ ชาวบ้านเล่นสงกรานต์โดนลูกหลงเจ็บ 7 สรุปตาย 5 วัน พุ่ง 338 ศพ-กรุงยังแชมป์ ยึดรถเมาขับแล้ว 4,609 คัน


ตาย 5 วัน 338 ศพ-กรุงยังแชมป์

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) น.ส.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรมว.วัฒนธรรม เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ประจำวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ห้าของการรณรงค์ ?สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 508 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 79 ราย ผู้บาดเจ็บ 513 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 33.86 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 30.31 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.42 รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 9.70

ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.01 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 36.61 ถนนในอบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 35.63 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01?20.00 น. ร้อยละ 29.92 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.20 ทั้งนี้ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,136 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,063 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 672,127 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 112,614 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 33,173 ราย ไม่มีใบขับขี่ 30,781 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 36 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 7 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 40 คน

น.ส.ฉวีรัตน์กล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-15 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุรวม 2,724 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 338 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,891 คน จังหวัดที่ไม่มี ผู้เสียชีวิตมี 8 จังหวัด ได้แก่ ตราด ปัตตานี พัทลุง แพร่ ยะลา ระนอง สมุทรสาคร และหนองบัวลำภู จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 15 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 144 คน

ยึดรถเมาขับแล้ว 4,609 คัน

ขณะที่พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า สถิติการตรวจพบ ผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ ในวันที่ 15 เม.ย. ยังพบการกระทำผิดเพิ่ม เล็กน้อย ในส่วนรถจักรยานยนต์ พบการ กระทำความผิด 30,599 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดไว้ 1,127 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 17,871 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการ กระทำความผิด 16,621 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 707 คน ยึดรถยนต์ 425 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 11,354 คน

โดยตลอด 7 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 9-15 เม.ย. เจ้าหน้าที่ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 4,609 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 3,488 คัน และรถยนต์ 1,121 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรถจักรยานยนต์ 50,271 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคล 31,270 คน

เผยคนใช้รถสาธารณะ 14 ล้านคน

ขณะที่นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เผยถึงสถิติการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกชนิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8-15 เม.ย.ว่า มีประชาชนใช้บริการรวม 251,096 เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 4,456 เที่ยว หรือสูงกว่า เป้าหมาย 1.81 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวน ผู้โดยสารทั้งสิ้น 14.72 ล้านคน แยกตามประเภทการเดินทาง 1.การเดินทางในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีปริมาณมากที่สุด รวมทั้งสิ้น 169,951 เที่ยว สูงกว่าเป้าหมาย 5.15 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวนผู้โดยสารรวม 10.53 ล้านคน 2.การเดินทางระหว่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น 72,455 เที่ยว ต่ำกว่าเป้าหมาย 4.35 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 2.61 ล้านคน โดยมีการเดินทางผ่านระบบถนนของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือบขส. มากที่สุด รวมทั้งสิ้น 1.16 ล้านคน รองลงมาคือระบบราง ผ่านบริการของการรถไฟแห่งประเทศไทยรวม 0.77 ล้านคน และทางอากาศ ผ่านท่าอากาศยานของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และท่าอากาศยานของกรมท่าอากาศยาน รวม 0.69 ล้านคน และ 3.การเดินทางระหว่างประเทศ รวม 8,690 เที่ยว ต่ำกว่าเป้าหมาย 6.26 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นจำนวน ผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 1.58 ล้านคน

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคมแจ้งถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 5 อันดับแรก เรียงตามสายทางบนทางหลวง ระหว่างวันที่ 8-15 เม.ย.ว่า สายทางที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ สายไม้เลียบ-สีแยกโพธิ์ทอง จ.พัทลุง 14 ครั้ง รองลงมาคือ สายห้วยยาง-บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 11 ครั้ง สายอ่างทอง-ไชโย จ.อ่างทอง 10 ครั้ง สายวังยาว-หนองหมู จ.ประจวบคีรีขันธ์ 10 ครั้ง และสายสิงห์เหนือ-โพงนางดำออก จ.สิงห์บุรี 9 ครั้ง

หัวลำโพง-ดอนเมืองแน่น

ส่วนบรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากต่างจังหวัด หลังจากไปร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมขบวนเดินรถขบวนพิเศษ ช่วยในการโดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เที่ยวรับกลับ 5 ขบวน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก

ขณะที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ยังคงมีประชาชนเริ่มทยอยกลับสู่กรุงเทพฯ แต่ยังคงค่อนข้างบางตา โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกรองรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนจะเดินทางกลับ ขณะที่มาตรการการรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่นั้น ยังคงมีการวางกำลังตำรวจและทหาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาจากภูมิลำเนา

ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาเข้า มีจำนวนผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเป็นสายการบินภายในประเทศ อาทิ ภูเก็ต เชียงราย เชียงใหม่ ชุมพร ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ขณะเดียวกันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนมาตรการรองรับการดูแลผู้โดยสาร กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พร้อมอำนวยความสะดวก ทั้งในการแนะนำการต่อรถโดยสารสาธารณะกลับบ้าน การดูแลความปลอดภัย

ถนนมิตรภาพเปิดเลนพิเศษ

สำหรับบรรยากาศการเดินทางกลับจากวันหยุดยาวสงกรานต์ ที่จ.นครราชสีมา ประชาชนเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ บริเวณสายบายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนถึงทางต่างระดับมุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว และถนนเส้น 304 อ.ปักธงชัย มีรถยนต์ปริมาณมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี ทำความเร็วได้ประมาณ 60-80 ก.ม.ต่อช.ม. ขณะที่ตำรวจยังไม่เปิดเส้นทางพิเศษ โดยภาพรวมสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพในพื้นที่นครราช สีมา ขณะนี้รถยนต์ยังวิ่งได้คล่องตัวตลอดสาย แต่มีชะลอใน 3 จุด ได้แก่ บริเวณ 3 แยกตลาดแค อ.พิมาย บริเวณ 4 แยก ต.บ้านโพธิ์ ถึงต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา และบริเวณทางต่างระดับ อ.สีคิ้ว

ด้านนายอำนวย ฤทธิรงค์ ผอ.แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 สำนักงานทางหลวงที่ 10 นครราชสีมา เปิดเผยว่า บนเส้นทางหลัก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ จะมียานพาหนะวิ่งผ่านประตูหน้าด่านอีสาน ระหว่างอ.พล จ.ขอนแก่น ถึงอ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อมุ่งหน้าสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ จำนวนหลายแสนคัน ตลอดระยะทาง 220 ก.ม. มีจุดกลับรถรวม 88 จุด สน.ทางหลวง 10 ได้นำวัสดุแท่งแบร์ริเออร์มาวางกั้นจุดกลับรถ เพื่อปิดจุดถาวร 16 จุดหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย โดยประเมินทุก 4 ชั่วโมงจะพิจารณาเตรียมปิดเพิ่มเติมอีก 28 จุด พร้อมเน้นสัญญาณไฟจราจรสีเขียว เพื่อเร่งระบายปริมาณยานพาหนะช่วงทางหลักให้ผ่านตลอด

นายอำนวยกล่าวอีกว่า รวมทั้งเปิดช่องทางพิเศษชั่วคราวให้รถยนต์วิ่งสวนทางกันได้ 4 จุด ได้แก่ 1.ช่วงหลักก.ม.ที่ 35-54 สะพานมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ถึงฟาร์มโชคชัย ต.กลางดง อ.ปากช่อง 2.ช่วงหลักก.ม.ที่ 103 ถนนมิตรภาพ เส้นทางผ่านทางแยกต่างระดับสีคิ้ว 3.ช่วงเส้นทางเลี่ยงเมือง ถ.ปักธงชัย- จอหอ ถึงทางแยกบ้านหนองกระดังงา ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง และช่วงหลักก.ม.ที่ 204-208 ทางแยกตลาดแค ถึงบ้านโนนทราย อ.โนนสูง ขณะนี้บริเวณจุดกลับรถที่ถูกปิดชั่วคราว จะมีการลักลอบทำลายเครื่องกั้น จึงขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนแม้จะเพิ่มระยะทาง แต่สามารถช่วยบรรเทาปริมาณยานพาหนะที่สะสม รวมทั้งลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้

ขอนแก่นห้ามหิ้วปลาร้าขึ้นทัวร์

ที่ จ.ขอนแก่น บรรยากาศประชาชนเดินทางกลับหลังจากเล่นสงกรานต์ โดยสถานีขนส่งแห่งที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น ประชาชนที่จองตั๋วรถทัวร์โดยสารต่างนำสิ่งของสัมภาระเดินทางมา เพื่อรอที่จะขึ้นรถที่จองไว้ และเตรียมเดินทางกลับไปทำงานในกรุงเทพฯ หลังจากกลับภูมิลำเนามาร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัว ทำให้บรรยากาศที่สถานีขนส่งเต็มไปด้วยประชาชนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ขนส่งได้ขอความร่วมมือผู้โดยสารห้ามนำปลาร้าและสิ่งของมี กลิ่นเหม็นขึ้นบนรถทัวร์ เพื่อไม่ให้รบกวน ผู้โดยสารภายในรถ ขณะที่ขนส่งจังหวัดขอนแก่นเตรียมรถเสริมไว้คอยบริการในช่วงเช้ากว่า 20 เที่ยว เพื่อรองรับประชาชนที่ต้องการเดินทางกลับ ซึ่งยังไม่พบปัญหา ผู้โดยสารตกค้าง

ส่วนที่สถานีบขส.แห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีผู้โดยสารจำนวนมากที่กลับมาบ้านเพื่อฉลองสงกรานต์ที่ จ.อุดรธานี จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ.มุกดาหาร จ.สกลนคร จ.กาฬสินธุ์ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี ทยอยเดินทางกลับเช่นกัน ทำให้ภายในสถานีเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

นายกรกต วัดเวียงคำ เจ้าหน้าที่ขนส่งขอนแก่น ประจำสถานีบขส.แห่งที่ 1 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ใช้บริการรถทัวร์ห้ามนำปลาร้า ทุเรียน ไส้กรอกอีสาน และสิ่งของมีกลิ่นเหม็นขึ้นบนรถ เพื่อไม่ให้รบกวนผู้โดยสารภายในรถคนอื่น แต่หากต้องการนำปลาร้าและสิ่งของมีกลิ่นเหม็นขึ้นรถ ต้องนำไปเก็บไว้ในชั้นเก็บบริเวณใต้รถเท่านั้น

ขณะที่การจราจรบนถนนมิตรภาพขาออกจาก จ.ขอนแก่น มุ่งหน้าเข้าสู่ จ.นครราชสีมา ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่นตั้งแต่ อ.น้ำพอง ผ่าน อ.เมืองขอนแก่น อ.บ้านไผ่ จนไปถึง อ.พล ซึ่งการจราจรโดยรวมเริ่มติดขัด รถยนต์สามารถทำความเร็วได้ในบางช่วงและจะมีการชะลอตัวในบางจุด ตอนนี้พบประชาชนลักลอบทำลายเครื่องกั้นที่นำมาปิดจุดกลับรถ

รถไฟที่สองแควเต็มถึง 18 เม.ย.

ที่จ.พิษณุโลก บรรยากาศบนถนนเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก ถนนสายหลักที่ชาวพิษณุโลกใช้เป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ตลอด 3 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นสภาพถนนระยะทางประมาณ 1 ก.ม. ตั้งแต่สี่แยกบ้านแขกถึง วงเวียนสถานีรถไฟ และสี่แยกธนาคาร กรุงไทยยังคงเต็มไปด้วยเศษขยะจากการ เล่นน้ำสงกรานต์ สภาพถนนขาวเต็มไปด้วยแป้ง ตามริมทางเศษขยะที่ส่วนใหญ่เป็นเศษพลาสติกเต็มไปหมด

พนักงานรักษาความสะอาดเทศบาลนครพิษณุโลกได้ออกกวาดเศษขยะกองรวมกันไว้ เพื่อรอรถเก็บขนขยะมาเก็บออกไป ขณะที่ประชาชนที่มาตั้งซุ้มเล่นน้ำของตนเองก็เริ่มมาเก็บซุ้มตั้งแต่เช้า ส่วนร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ริมถนนต่างเริ่มเก็บกวาดหน้าร้าน เพื่อเปิดขายของตามปกติ

ส่วนที่สถานีรถไฟพิษณุโลก มีประชาชนมารอโดยสารรถไฟ เพื่อเดินทางกลับไปทำงานทั้งเที่ยวล่องและเที่ยวขึ้นกันอย่างหนาแน่น โดยปีนี้ถือว่ามีประชาชนมาใช้บริการมากเป็นพิเศษ เนื่องจากประชาชนที่มาใช้บริการเน้นในเรื่องของความปลอดภัยมากขึ้น เพราะจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากทางรถไฟเป็นไปได้น้อย เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง โดยที่สถานีพิษณุโลก การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดขบวนรถไฟฟรีไว้บริการประชาชนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากขบวนรถฟรีปกติ ในวันที่ 16-18 เม.ย. ทั้งขาขึ้นและขาล่อง จากกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-ศิลาอาสน์ และศิลาอาสน์-พิษณุโลก-กรุงเทพฯ

ขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลกแห่งที่ 1 บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาและกลับไปทำงานยังไม่หนาแน่น ด้วยวันนี้ยังคงเป็นวันเสาร์เป็นวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลสงกรานต์ถึงวันที่ 17 เม.ย. แต่ประชาชนก็เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาและกลับไปทำงานกันแล้ว ขนส่งได้เตรียมบริการรถเสริมอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อขนถ่าย ผู้โดยสารทั้งเดินทางขาล่องเข้ากรุงเทพฯ และขึ้นสู่ภาคเหนือ ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนที่มาใช้บริการ

แนะเส้นทางเลี่ยงนครสวรรค์

ที่จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านเริ่มเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้บรรยากาศการเดินทางค่อนข้างหนาแน่นไปด้วยรถยนต์ตลอดเส้นทางสาย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก โดยเฉพาะแยกพหลโยธิน ในช่วงเช้ามีปริมาณรถยังไม่มากนัก จนกระทั่งช่วงกลางวันปริมาณรถเริ่มเพิ่มมากขึ้นและมีรถติดสะสมที่สี่แยก เจ้าหน้าที่ต้องควบคุมระบบไฟด้วยมือ และปิดการจราจร ขาเข้าตลาดปากน้ำโพ ให้ไปใช้ยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแม่น้ำปิง แล้วเปิดสัญญาณไฟให้รถทางตรงวิ่งเข้ากรุงเทพฯ ได้มากที่สุด โดยยังสามารถใช้ความเร็วได้มากพอสมควร

ส่วนเส้นทางสายเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ สาย 122 มีรถยนต์จำนวนหนึ่งจากเส้นทางสาย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก วิ่งเลี่ยงไปใช้ทางสายเลี่ยงเมืองจากพิษณุโลกเข้าทางเลี่ยงบริเวณแยกเก้าเลี้ยว แล้ววิ่งไปบรรจบกับรถอีกส่วนหนึ่งที่มาจากจ.กำแพงเพชร ตามถนนสายเอเชีย รถเริ่มมากขึ้นในช่วงใกล้เที่ยง โดยรถวิ่งรวมกันไปออกที่ทางแยกบ้านกลางแดด เข้าสู่ถนนพหลโยธิน ทำให้มีรถจากสามเส้นทางวิ่งมารวมกัน ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นมากขึ้น เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาด้วยการปิดทางร่วม ทางแยกให้รถวิ่งตรงได้มากที่สุด แล้วควบคุมสัญญาณไฟด้วยมือ

ขณะที่สี่แยกเดชาติวงศ์ บางช่วงเจ้าหน้าที่เปิดเส้นทางพิเศษ บนสะพานเดชาติวงศ์ 1 ให้รถวิ่งขาล่องได้อีก 2 ช่องทาง ที่สี่แยกพยุหะคีรี มีปริมาณรถจำนวนมากวิ่งมาตามถนนพหลโยธิน ทำให้บางช่วงมีรถติดสะสมมากยาวเป็นกิโลฯ เจ้าหน้าที่จึงเร่งระบายรถเพื่อลดการจราจรที่แออัด โดยในบางช่วงรถวิ่งได้ช้าลง

รถแห่ลงเฟอร์รี่จากเกาะช้าง

ที่จ.ตราด บรรยากาศการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์ส่วนตัวลงมาเที่ยวเกาะช้าง โดยนายกำธร เวหน นายอำเภอเกาะช้าง ร่วมกับพ.ต.อ.อาวัฒน์ พิบูลย์สวัสดิ ผกก.เกาะช้าง ตั้งจุดอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อระบายรถยนต์ของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางลงที่ท่าเรืออ่าวสับปะรด และท่าเรือบ้านด่านเก่า ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง ซึ่งรถยนต์ของนักท่องเที่ยวต่างทยอยเดินทางมาลงเรือเฟอร์รี่ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นมา จนเรือเฟอร์รี่ไม่สามารถรองรับได้ แม้ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวสับปะรดจะใช้เรือเฟอร์รี่ 5 ลำ และ ท่าด้านเก่าจะใช้เรือเฟอร์รี่ทั้ง 4 ลำ รวม 9 ลำ วิ่งรับตลอดแต่ก็ไม่สามารถรองรับได้ ทำให้รถยนต์ต้องรอต่อคิวลงเรือเป็นระยะทางยาวเกือบ 3 ก.ม. โดยนายกำธรกล่าวว่า ได้สรุปจำนวนตัวเลขรถยนต์ที่เดินทางขึ้นเกาะช้างตลอด 5 วันที่ผ่านมา มียอดสะสมรวมกว่า 2,216 คัน ซึ่งจะต้องเดินทางกลับในวันนี้

ส่วนที่สถานีขนส่งจ.ตราด นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารกว่า 300 คน ทยอยเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทำให้นายศิริพงษ์ ฆ้องวงษ์ ผู้จัดการสถานีขนส่งจ.ตราด ต้องอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้โดยสารทั้งหมดและตรวจดูความพร้อมของพนักงานขับรถยนต์

นายศิริพงษ์เปิดเผยว่า ในวันนี้คาดมี ผู้โดยสารกว่า 1,400 คนเดินทางกลับกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งสถานีได้ร่วมกับ ผู้ประกอบการเดินรถยนต์โดยสารเตรียมรถโดยสารปรับอากาศและรถตู้ร่วมบขส. 40 เที่ยวไว้บริการผู้โดยสาร เพื่อให้สามารถระบาย ผู้โดยสารได้ทั้งหมดในวันนี้

ถนน 304-สระแก้วรถเพียบ

ที่จ.สระแก้ว รถที่วิ่งผ่านเขาช่องตะโก ต.ทัพราช อ.ตาพระยา เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางเขาช่องตากิ่วช่วยระบายรถที่มาจากบุรีรัมย์ ลงมาทางละหาน ทราย แล้วผ่านเข้าอ.ตาพระยา ก่อนมุ่งหน้ามาเลี้ยวขวาตรงทางแยกบ้านแก้วเพชรพลอย มุ่งหน้ามาที่สี่แยกโคคลาน เพื่อมาออกวัฒนานคร ทำให้บริเวณสี่แยกโคคลานรถหนาแน่นมาก เนื่องจากรถจากเขาช่องตะโกลงมาบรรจบกับรถที่มาจากละหานทรายที่ลงมาทางเขาช่องตากิ่ว

ที่จ.ปราจีนบุรี สภาพการจราจรบนถนนทางหลวง 304 ตั้งแต่อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีประชาชนเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ถนนสาย 304 ตั้งแต่ช่วงหลักก.ม.ที่ 220-207 รถชะลอตัวและแย่งกันผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และทับลาน ส่วนบริเวณคอขวดตั้งแต่หลักก.ม.ที่ 195-192 ถนนเป็นคอขวดและมีทางโค้งจำนวนมาก จึงทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าและเริ่มติดสะสม ตำรวจทางหลวงปราจีนบุรีต้องเปิดเส้นทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถสะสม

ด้านพ.ต.อ.ลือชัย นนท์ปติมากูล ผกก.3 บก.ทล. เปิดเผยว่า รถที่มาจากภาคอีสาน เริ่มหนาแน่นขึ้นตามลำดับและเริ่มสะสมแล้ว จึงต้องเปิดเส้นทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถ

เปิดเส้นทางอ่างทอง-ราชบุรี

ที่จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่นำป้ายทางเลี่ยงการจราจร ถนนสายเอเชียเข้ากรุงเทพฯ มาติดตั้งในเขตรอยต่ออ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ผ่านจ.อ่างทองไปจนถึงอ.มหาราช จ.พระนครศรี อยุธยา เพื่อให้ประชาชนใช้ทางเลี่ยงจากถนนเอเชียเข้าต่างระดับอ่างทองและไปใช้ถนนสาย 309 อ่างทอง-อยุธยาสายเก่า ก่อนแยกขวาที่แยกวรเชษฐ์ ทุ่งมะขามหย่องและใช้เส้นทางมุ่งหน้าจ.ปทุมธานี ก่อนไปขึ้นทางยกระดับอุดรรัถยาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อลดปัญหาการจราจร หลังปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการชะลอตัวหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณจุดที่มีสถานีบริการน้ำมันและจุดพักรถ

ที่จ.ราชบุรี สภาพการจราจรฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณสี่แยกวังมะนาว อ.ปากท่อ ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเริ่มทำงานตามปกติ ส่งผลให้มีปริมาณรถหนาแน่นและเคลื่อนตัวได้ช้า โดยถนนสายนี้ประชาชนสามารถเดินทางกลับกรุงเทพฯได้ทั้ง 2 เส้นทาง ทางแรกจากทางร่วมแยกก.ม.ที่ 128-127 เบี่ยงซ้ายเข้าสู่เส้นทางขึ้นสะพานยกระดับสี่แยกวังมะนาว มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนพระราม 2 ผ่านจ.สมุทร สงคราม จ.สมุทรสาคร และเข้าสู่กรุงเทพฯ ส่วนเส้นทางที่ 2 จากทางร่วมแยกก.ม.128 ชิดถนนเลนขวาเข้าถนนก.ม.127 และชิดขวาวิ่งตรงต่อไปลอดใต้สะพานยกระดับสี่แยกวังมะนาว ก.ม.124-125 มุ่งหน้าสี่แยกอ.ปากท่อ เข้าถนนบายพาสเลี่ยงเมืองราชบุรี เข้าสู่ถนนเพชรเกษม ผ่านจ.นครปฐม เบี่ยงซ้ายเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี และเข้าสู่กรุงเทพฯ

ที่จ.สระบุรี ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนา โดยใช้ถนนมิตรภาพ ทำให้การจราจรช่วงเย็นเริ่มติดขัดหนาแน่นและเคลื่อนตัวช้ามาก โดยเฉพาะช่วงทางลงเนินเขาจันทร์ อ.มวกเหล็ก และโนนพระใหญ่ อ.แก่งคอย ก่อนเข้าตัวเมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายรถให้เลี่ยงไปใช้ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี ด้านทิศตะวันออกมุ่งสู่กรุงเทพฯ

คลิปโฉ่ฝรั่งอนาจารสาวที่พัทยา

ที่จ.ชลบุรี มีผู้แชร์คลิปหนุ่มชาวต่างชาติทำออรัลเซ็กซ์หญิงสาว บนเคาน์เตอร์บาร์ หน้าบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ริมถนนเลียบชายหาดพัทยา ท่ามกลางสายตาของผู้ที่เดินเล่นน้ำสงกรานต์ผ่านไปมาในงานวันไหลนาเกลือ-พัทยา ก่อนมีพนักงานสาวบาร์เบียร์ที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาห้ามปราม จากนั้นทั้งคู่แยกย้ายกันไป หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมและทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ต่อมานายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.สุขทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนออกหาข่าวติดตามชายชาวต่างชาติและหญิงไทยที่ปรากฏในคลิปมาสอบสวน

ล่าสุดน.ส.เนตรนภา อายุ 20 ปี สาวในคลิปและพนักงานร้านอาหาร พร้อมผู้ดูแลร้าน เข้าพบนายชาคร และพ.ต.อ.สุขทัศน์ พร้อมระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ยอมรับตอนนั้นเมาสุรามาก จู่ๆ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินมาแล้วจับตนนอนลงก่อนทำตามในคลิป ซึ่งตนพยายามขัดขืนแล้ว แต่เนื่องจากเมาสุราจึงขัดขืนไม่ได้ ก่อนมีพนักงานในร้านเข้ามาช่วย และไม่คิดจะ มีผู้ถ่ายคลิปไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวหนุ่มชาวอเมริกา อายุ 49 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเป็นชายในคลิปมาสอบสวน โดยรับสารภาพว่าได้ทำการดังกล่าวจริง และเสียใจมากที่ทำลงไป เพราะเมาสุรา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษคนไทยทุกคนที่ทำกิริยาท่าทางแสดงออกกับ ผู้หญิงไทยไม่ดี เบื้องต้นดำเนินคดีกับหนุ่มต่างชาติ ข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะต่อหน้าธารกำนัล

ที่จ.นครปฐม เทศบาลนครนครปฐมได้ปิดถนนต้นสนตลอดเส้นทางยาวกว่า 2 ก.ม. เพื่อให้ประชาชนเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน โดยก่อนเริ่มพิธีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.นครปฐม นายเอกพันธ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดงานสงกรานต์ประจำปี 2559 พร้อมเตรียมรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัย จอดไว้ที่ริมทาง เข้างาน 2 คัน แล้วต่อท่อน้ำจากรถดับเพลิงฉีดน้ำขึ้นบนท้องฟ้า ทำให้น้ำโปรยปรายสร้างความเย็นชุ่มฉ่ำให้คนที่เล่นน้ำเป็นอย่างยิ่ง

ที่จ.กาญจนบุรี ชาวไทยเชื้อสายมอญได้จัดงานสงกรานต์ที่วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอด กันมา โดยหญิงสาวจะเดินทูนถาดอาหารคาวหวานไว้บนศีรษะ เพื่อนำไปถวายพระ พร้อมร่วมกันก่อเจดีย์ทรายบริเวณต้นศรีมหาโพธิ์ใกล้กับเจดีย์พุทธคยา นอกจากนี้ ยังสรงน้ำพระ ซึ่งจะเป็นการสรงแบบอาบทั่วทั้งตัว โดยชาวบ้านจะเทน้ำลงไปในรางไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นมา

ล่าโจ๋ยิงอริ-โดนลูกหลงเจ็บ 7

ส่วนความคืบหน้าเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนไล่ยิงคู่อริ แต่กระสุนไปถูกชาวบ้านที่มาเล่นสาดน้ำได้รับบาดเจ็บ 7 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่มเป็นคนในพื้นที่อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งผ่านมาเล่นน้ำสงกรานต์บริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แล้วเกิดการเขม่นกันตั้งแต่ช่วงกลางวัน ก่อนเกิดเหตุนายเจษฎา ดวงตา อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ได้พูดจาแซวผู้ก่อเหตุ จนเกิดการ กระทบกระทั่งกัน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุกลับไปนำอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ย้อนกลับมา ไล่ยิงนายเจษฎา กระสุนถูกเข้าที่ไหล่และขารวม 2 นัด และกระสุนยังพลาดไปถูกผู้ที่มาเล่นน้ำสงกรานต์ในบริเวณดังกล่าวบาดเจ็บ 7 ราย ตอนนี้ทั้งหมดอาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งจะให้ฝ่ายสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการติดตามตัวมือปืนผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีนั้น สั่งการให้พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รองผบก.น.9 และพ.ต.อ.ณรงค์ ถัดทะพงษ์ ผกก.สน.หนองค้างพลู สนธิกำลังฝ่ายสืบสวนออกตามล่าตัวแล้ว เบื้องต้นมีพยานสามารถจดจำใบหน้ามือปืนได้ชัดเจน อีกทั้งยานพาหนะที่มือปืนใช้คือรถเก๋งอีโคคาร์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ ตัวถังสีแดง แต่งฝาปิดท้ายสีดำ แบบรถซิ่งก็น่าจะทำให้ง่ายต่อการล่าตัวมาดำเนินคดี คาดว่ามือปืนรายนี้คงหนีไปได้ไม่ไกลและจะรีบจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุทำการอย่างอุกอาจ โชคดีที่ไม่มีใครต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ฝากบ้านกับตร.ทุกหลังปลอดภัย

วันเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โชคชัย ร่วมกันตรวจเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนที่ร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ที่หมู่บ้านโอษธิศ 1 ซอยโชคชัย 4 31/1 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. โดยพล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ขณะนี้โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย บ้านทุกหลังปลอดภัยดี โดยตำรวจสายตรวจจะตรวจตราทุก 2-3 ช.ม. และเซ็นชื่อกำกับ เบื้องต้นมีผู้เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ 8,111 หลัง อยู่ในพื้นที่บช.น. 2,345 หลัง คืนบ้านให้เจ้าของแล้ว 359 หลัง

จากนั้นพล.ต.อ.พงศพัศ เดินทางมาที่สน.บางเขน หลังรับแจ้งบ้านพักของนายพุทธิพงษ์ ทิพวาที อายุ 52 ปี ที่เข้าร่วมโครงการมีร่องรอยงัดแงะที่หน้าต่าง แต่ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย โดยนายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ได้ร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 13-16 เม.ย. เมื่อเดินทางกลับมาพบหน้าต่างหลังบ้านมีร่องรอยงัดแงะ แต่ไม่ได้มีทรัพย์สินหาย โดยเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว อีกทั้งหากไม่ได้ฝากอาจจะเจอมากกว่านี้

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าของบ้านที่แจ้งเรื่องมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งในส่วนของ ร่องรอยการงัดแงะ แม้ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย ก็ต้องติดตามตัวคนร้าย ขณะนี้ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets