Tuesday, February 9, 2016

‘น้องดีเจ’อาการยังทรง-หมอยันไม่ขาดเลือด ตร.สงสัย อาจไม่ได้เดินไปเอง

 

อาการ 'น้องดีเจ' ด.ช.3ขวบหลงป่า 6 วัน ยังทรงตัว แพทย์ดูแลใกล้ชิดในห้องอาร์ซียู เผยมีเลือดออกในกระเพาะ ติดเชื้อในกระแสเลือดแต่ให้เลือดแล้ว และ รพ.ไม่ได้ขาดเลือดอย่างที่แชร์กันในโซเชียล ตร.เตรียมขยายผลสอบประเด็น เด็กไม่ได้เดินไปเอง...


ภายหลังสามารถติดตามจนพบตัว ‘น้องดีเจ’ ด.ช.เจษฎากร ไชโย วัย3ขวบ9เดือน ที่หายไปจากบ้านเลขที่ 5/3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา คนในครอบครัว ชาวบ้าน ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิกุสลธรรมภูเก็ต ระดมค้นหาตลอด 6 วัน จนที่สุดไปพบเด็กนอนแช่น้ำอยู่ในป่า ห่างจากบ้านประมาณ 3-4 กม. ในสภาพผอมโซ ตามผิวหนังร่างกายมีร่องรอยถูกยุงและแมลงกัดต่อยจำนวนมาก ประกอบกับมีอาการขาดน้ำและอาหาร ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์รพ.วชิระภูเก็ต จึงนำตัวเด็กเข้าห้องอภิบาลการหายใจ (อาร์ซียู) เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด โดยต้องเฝ้าสังเกตอาการตลอด 24 ชม.

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ก.พ.ที่ห้องผู้ป่วยวิกฤติกุมารเวชกรรม ชั้น 4 ตึกคุณพุ่ม รพ.วชิระภูเก็ต อ.เมือง นพ.เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต นพ.จิรเดช ปัญญาสุทธิกิจ ศัลยแพทย์เด็ก-แพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจและทีมแพทย์กุมารแพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต ตรวจเยี่ยมอาการน้องดีเจ หรือ ด.ช.เจษฎากร ไชโย อายุ 3 ขวบ 9 เดือน หลังพลัดหลงเข้าไปในป่าเป็นเวลาร่วม 6 วันและเข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา อาการโดยภาพรวมทรงตัว แต่ยังต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด

นพ.จิรเดช กล่าวว่า นอกจากในส่วนของทีมศัลยแพทย์แล้ว ยังมีทีมกุมารแพทย์มาดูแลอย่างใกล้ชิดในเรื่องของเกลือแร่ในร่างกาย และการใช้เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงการดูแลบาดแผลภายนอกของน้อง โดยอาการที่น่าเป็นห่วงของน้องขณะนี้ คือ ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่อาการยังคงที่ เลือดออกบริเวณกระเพาะอาหารส่วนบน ซึ่งขณะนี้อาการคงที่ และได้มีการให้เลือดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

"อาการของน้องที่เข้ามารับการรักษาตัวเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ห้องฉุกเฉินของ รพ.น้องให้ความร่วมมือและสามารถพูดคุยได้ปกติ แต่หลังจากนั้น 3-4 ชั่วโมง น้องมีอาการอาเจียนและถ่ายเป็นเลือด รวมทั้งมีอาการซึมลง เมื่อตรวจเลือดพบว่ามีเกลือแร่ผิดปกติ ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวนั้นมาจากหลายสาเหตุ เช่น ขาดสารอาหารมานาน เครียดและติดเชื้อในกระแส ส่วนกรณีการใช้เครื่องช่วยหายใจนั้น จริงๆ แล้วน้องสามารถหายใจได้เอง แต่เป็นการช่วยป้องกันไม่ให้มีการหายใจติดขัด ทั้งนี้ คาดว่าน้องจะต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาล 1-2 สัปดาห์ ขณะนี้ยังไม่ถือว่าวิกฤติ เพราะมีทีมกุมารแพทย์และแพทย์ที่เกี่ยวข้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด" นพ.จิระเดช กล่าว

ขณะที่ นพ.เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้น้องอยู่ในห้องอาร์ซียูเด็ก เป็นการบ่งบอกว่าคนไข้จะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องติดตามอาการอีก 2-3 วัน แต่ที่เป็นประเด็นในโซเชียลกรณีของเลือด ขอชี้แจงว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ขาดเลือดกรุ๊ปเอ แต่ด้วยความหวังดี อยากที่จะเชิญชวนให้มาบริจาคโลหิต เพื่อเก็บไว้ แต่อาจจะเป็นลักษณะของการรวบรวมรายชื่อไว้ติดตามเมื่อถึงเวลาที่ต้องการ เพราะเลือดจะมีอายุการใช้งาน ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตมีชมรมผู้บริโภคโลหิต ซึ่งค่อนข้างใหญ่มีสมาชิก 7,000-8,000 คน และต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจมาร่วมกันบริจาคเลือด

อย่างไรก็ตาม กรณีของน้องดีเจ เมื่ออาการดีขึ้น จะมีทีมแพทย์เข้ามาดูแลทางด้านจิตใจต่อ ซึ่งมีการเตรียมในส่วนของจิตแพทย์เด็กไว้แล้ว เนื่องจากขณะนี้เด็กยังใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงยังไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอให้เด็กฟื้นอย่างเต็มที่ก่อน

ทางด้านครอบครัวของเด็ก จากการโทรศัพท์ไปสอบถาม น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปีแม่ของน้องดีเจ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอรอดูอาการน้องอีก 2-3 วัน หลังจากนั้นจะให้สัมภาษณ์ทุกสื่อ ขณะนี้ได้เดินทางไปไหว้พระขอพรจากหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เพื่อให้น้องหายป่วยเร็วๆ

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะพบ น้องดีเจ การสืบสวนสอบสวนได้มีการตั้งประเด็นหลักๆ ไว้ 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1. เดินพลัดหลงหายไป 2. เกิดอุบัติเหตุ 3. คนใกล้ชิดนำพาตัวไป และ 4. ถูกแก๊งลักพาตัวไป ต่อมาภายหลังมีการตัดประเด็นการเกิดอุบัติเหตุและถูกแก๊งลักพาตัวไปออก คงเหลือประเด็นเด็กเดินพลัดหลงไปในป่าเอง และคนใกล้ชิดเป็นผู้นำพาตัวไป ซึ่งทาง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ได้ยืนยันจะสืบสวนสอบสวนไปตามแนวทางนี้ โดยจะมีการขยายผลสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา พร้อมด้วยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เตรียมลงพื้นที่ตรวจในจุดที่พบตัวเด็กอีกครั้ง เนื่องจากยังมีบางจุดที่ดูไม่ละเอียด รวมถึงกรณีที่มีการระบุว่า พบที่พักลักษณะเป็นกระท่อม มีถุงใส่ของกินวางอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นเบาะแส นำไปสู่การคลี่คลายปริศนาบางอย่าง โดยเฉพาะข้อสงสัยในเรื่องที่เด็กไม่ได้เดินไปเอง แต่มีคนพาไป.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets