จุดจบโจร! ลักเงินบริจาควัด โดนชาวบ้านรุมปาด้วยก้อนหิน-จุดไฟเผา

 

ชายไทยไม่ทราบชื่อ ถูกชาวบ้านรุมปาด้วยก้อนหินหัวร้างข้างแตก หลังเข้าไปลักเงินในวัดอโยธยา กรุงเก่า แต่มีพระมาเจอเลยหนีลงไปซ่อนบริเวณสระน้ำหลังวัด ชาวบ้านไปล้อมไว้ แล้วปาหินใส่หวังให้โจรออกมา สุดท้ายต้องจุดไฟไล่จึงจับตัวได้...


วันที่ 18 ก.พ.59 เวลา 11.30 น. ร.ต.ท.พิทยา ศรีเรือง พงส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายลักทรัพย์เงินในตู้บริจาค วัดอโยธยา หมู่ 5 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยพุทไธสวรรย์

พบชาวบ้านและพระกำลังล้อมจับคนร้ายอยู่ โดยมีพระครูสังฆรักษ์ ปัญญาพล อายุ 49 ปี เจ้าอาวาสวัดอโยธยา อยู่ด้วย กล่าวว่าตอนเช้าพบคนร้ายปั่นจักรยานมาภายในวัดวนดูลาดเลาอยู่ 3 รอบ แล้วลงไปงัดตู้บริจาคบริเวณหน้าห้องน้ำ แต่มีพระลูกวัดมาพบจึงวิ่งหนีลงบ่อน้ำหลังวัด เมื่อชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยมาถึงจึงช่วยกันล้อมจับ

ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ใช้ก้อนหินปาใส่ลงไปบริเวณสระน้ำหลังวัด ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ โดยปากันอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบตัว คนร้ายไม่ยอมขึ้นมา ทางกู้ภัยจึงใช้วิธีเผาหญ้าในป่าให้ลุกลามไปจนถึงตัวคนร้าย ก่อนจะเข้าไปจับตัวไว้ได้ พบว่าเมาสุรา และมีบาดแผลถูกก้อนหินขว้างศีรษะแตก ภายในตัวไม่พบเอกสารใดๆ ไม่ทราบชื่อและที่อยู่ เพราะคนร้ายไม่ยอมบอก จึงนำส่งไปรักษาที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พระครูสังฆรักษ์ ปัญญาพล เจ้าอาวาส กล่าวด้วยว่า วัดอโยธยาเป็นวัดเก่าแก่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ทั้งมาทำบุญและชมโบราณสถาน ทางวัดสร้างห้องน้ำ ติดแอร์ ตกแต่งปรับภูมิทัศน์ไว้ต้อนรับญาติโยม พร้อมตั้งตู้รับบริจาคช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ และจะยกเก็บเข้าออกทุกวัน ภายในตู้มีเงินประมาณ 1,000 บาท ครั้งนี้คนร้ายยังไม่ได้เงินไป เพราะมีพระมาพบเสียก่อน.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์