Tuesday, February 16, 2016

เฒ่าวัย62หึงโหดปาดคอฆ่าเมียวัย45 ก่อนผูกคอตายตาม แม่ได้ยินตะโกนให้ช่วย-แต่ไม่ทัน

 

 เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 17 ก.พ. ร.ต.อ.ศุภฤกษ์ จันทร์มี พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายและผูกคอตาย ภายในบ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 8 ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสักและหน่วยกู้ภัย


 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวด้านในห้องโถงพบศพนางประภาศรี คำแพง อายุ 45 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้อง ถูกเชือดที่คอเป็นแผลเหวอะหวะ และถูกแทงตามลำตัวเลือดกระจายเต็มพื้นห้อง ใกล้กันพบศพนายแดง ทองยศ อายุ 62 ปี ใส่กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ ใช้เชือกป่านแขวนคอตายกับขื่อบ้าน

 จากการชันสูตรศพนางประภาศรีพบว่ามีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณลำคอถูกปาดลึกจนหลอดลมขาดและมีปลายมีดแหลมปักติดอยู่กับลำคอด้วย ส่วนศพนายแดงบริเวณลำคอมีร่องรอยถูกของมีคมปาดเล็กน้อยมีเลือดไหลและมีร่องรอยช้ำที่เกิดจากการถูกเชือกรัด จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบมีดอีโต้ปลายตัดตกอยู่ใต้ศพนายแดงและมีดปอกผลไม้หักตกอยู่ข้างศพนางประภาศรี จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนนางล้อม ภักดีจิตร อายุ 72 ปี แม่ของนางประภาศรีให้การว่า ทั้งสองต่างก็เป็นพ่อม่ายและแม่ม่ายอยู่กินกันมาประมาณ 4 ปีไม่มีลูกด้วยกัน แต่เนื่องจากนางประภาศรีอายุอ่อนกว่านายแดงถึง 17 ปี อีกทั้งยังมีหน้าตาดี ช่วงหลังทั้งสองมักมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ เนื่องจากนายแดงระแวงว่าฝ่ายหญิงคิดตีตัวออกห่างไปมีชายอื่น ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกัน แต่ตนไม่ได้เอะใจ กระทั่งได้ยินลูกสาวตะโกนออกมาว่า “ช่วยด้วยนายแดงมันจะฆ่าหนู” จากนั้นเสียงก็เงียบไปตนจึงเดินจะไปเปิดประตูบ้านนายแดงก็ตะโกนออกมาว่าไม่มีอะไร ก่อนล็อกประตูหน้าต่างเวลาผ่านไปพอสมควร ตนจึงแอบดูข้างประตูก็พบว่าลูกสาวตนเองนอนจมกองเลือด เลยไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยกันงัดประตูออกก็พบว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตแล้ว

 ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากการที่นายแดงเกิดความหึงหวงและระแวงว่านางประภาศรีจะไปมีชายอื่น จึงบันดาลโทสะใช้มีดฟันและเชือดคอนางประภาศรีจนเสียชีวิต จากนั้นอาจจะใช้มีดปาดคอตัวเอง แต่อาจจะเจ็บจึงเปลี่ยนใจมาผูกคอตายเพื่อหนีความผืดดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets