Thursday, January 28, 2016

ภารโรงช็อก!! เข้าไอซียูป่วยโรคไข้รากสาดใหญ่รายแรก มากับอากาศหนาว-แพทย์เตือน(คลิป)


 เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านน้ำไคร้ ต.ด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พ.อ.สมัย ขำพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก พ.ท.กฤษฏา ถาวรรัตน์ ผู้บังคับหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร รับคำสั่งจาก พล.ต.สมพงษ์ แจ้งจำรัส ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้นำเจ้าหน้าที่แพทย์ และ พยาบาลพร้อมด้วย รด.จิตอาสา ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านน้ำไคร้ ชี้แจงทำความเข้าใจและให้ความรู้กับชาวบ้าน เพื่อป้องกันโรคสครับไทฟัส หรือ ตามที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า โรคไทฟัส , โรคไข้รากสาดใหญ่ , โรคไข้รากสาดพุ่มไม้ , โรคไข้รากสาดไรอ่อน หรือ ไรแดง แล้วแต่สถานที่จะเรียก โดยมีหนูเป็นพาหะมีตัวไรอ่อนเป็นตัวนำโรคนี้มาสู่คน


 โดยหลังจากนายประกอบ พันเทา อายุ 56 ปี ภารโรงโรงเรียนบ้านน้ำไคร้ เกิดอาการช็อกอย่างรุนแรง เพราะได้รับเชื้อโรคไข้รากสาดใหญ่ในปริมาณมาก ชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก เพื่อทำการรักษา และนอนอยู่ห้องไอซียูเป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ ตอนนี้พ้นขีดอันตราย และออกจากห้องไอซียูแล้ว นับเป็นรายแรกของจังหวัดอุตรดิตถ์ในช่วงฤดูหนาวนี้

 เจ้าหน้าที่ฉายภาพมัลติมีเดียพร้อมคำอธิบายให้ความรู้กับชาวบ้าน เพื่อป้องกันโรคดังกล่าวไม่ให้เกิดกับเด็กและผู้ใหญ่ในหมู่บ้านอีก หากใครป่วยโรคนี้แล้ว อาจเสียชีวิตทันที โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เพราะเชื้อเข้าไปทำลายระบบภายในร่างกาย ทั้งระบบสมอง ปอด และ หัวใจ เชื้อนี้มากับฤดูหนาวและสภาพอากาศเย็นชื้น มีฝนตก ในพื้นที่หุบเขา ในป่าละเมาะ ตัวไรอ่อนจะเกาะตามพุ่มไม้ และสัตว์ฟันแทะเลี้ยงลูกด้วยนมประเภทหนู ซึ่งโรงเรียนและหมู่บ้านเป็นพื้นที่หุบเขา และ ป่าละเมาะ

 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ตรวจร่างกายชาวบ้านพร้อมเด็กนักเรียน เพื่อตรวจหาโรคไข้รากสาดใหญ่ ที่คาดว่าอาจจะเกิดกับเด็กและผู้ใหญ่ ภายในหมู่บ้านเพิ่มเติม ผลการตรวจร่างกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ภายในหมู่บ้านไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม

 โดยมี รด.จิตอาสา นำเครื่องพ่นหมอกควันพ่นฆ่าตัวไรอ่อน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไข้รากสาดใหญ่มาสู่คน พ่นภายในห้องเรียน และโดยรอบของตัวอาคาร รวมทั้งบริเวณพุ่มไม้ทั่วทั้งโรงเรียน เพื่อกำจัดตัวไร พร้อมปรับแต่งทำความสะอาดพื้นที่หนูซุกซ่อนอาศัยอยู่ และเป็นตัวแพร่ระบาดพาหะโรคมากับไรอ่อนให้หมดไป

 พ.อ.สมัย กล่าวว่า แพทย์ต้องใส่สายกระตุ้นหัวใจ พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อเป็นเวลา 7 วัน ให้กับ นายประกอบ ภารโรงโรงเรียนบ้านน้ำไคร้ ในระหว่างอยู่ห้องไอซียู ล่าสุดตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ระหว่างพักฟื้น เพื่อรอดูอาการที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก เป็นโรคที่ติดเชื้อในกระแสโลหิต หากพบในเด็กหรือผู้สูงอายุอาจเสียชีวิตได้

 ทั้งนี้ฝากเตือนชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรพื้นที่ป่า ทำการเกษตรในช่วงนี้ ให้ระวังตัวไรอ่อนกัดผิวหนัง วิธีป้องกัน คือ การสวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว พร้อมรองเท้าบู๊ตเพื่อป้องกันการโดนกัด บริเวณที่พบถูกกัดบ่อยจะอยู่นอกร่มผ้า และคลานเข้าไปในบริเวณรอยต่อระหว่างเสื้อผ้า กางเกงและขอบกางเกง ผู้ถูกกัดจะพบรอยไหม้เหมือนบุหรี่ หากมีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้พบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไข้รากสาดใหญ่ หรือ ไทฟัส

 พ.อ.สมัย กล่าวด้วยว่า ตัวไรกัดคนแล้วนำเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย จะมีอาการปวดที่ขมับและหน้าผาก หนาวสั่น มีไข้สูงนานหลายวัน รู้สึกเบื่ออาหาร ที่รักแร้ ขาหนีบ เอว จะมีต่อมน้ำเหลืองโตก่อนกระจายไปแขนขา ผื่นมีอยู่ 3-4 วัน ก็หายไป ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น หอบ หัวใจวาย หรือ หมดสติ ควรนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อเข้ารับการรักษา บางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ ปอดอักเสบร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้



ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets