สุดสลดนักเรียนสาว ม.6 ถูกแฟนบอกเลิกรัก - เสียใจผูกคอจบชีวิตตัวเอง

สาวนักเรียน ม.6 หอบเสื้อผ้าไปอยู่บ้านแฟนหนุ่มหวังให้เป็นกำลังใจ ก่อนสอบเทอมสุดท้าย แต่กลับกลายเป็นถูกบอกเลิกรักหนีกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ได้ 1 คืนตื่นนอนไปโรงเรียนแต่เช้า หลังสอบเสร็จวันสุดท้ายกลับเข้าบ้านใช้เชือกไนลอนผูกคอกับขื่อบ้าน พ่อกลับจากทำงานมาพบรีบตัดเชือกพาส่งโรงพยาบาลแต่ได้เสียชีวิตระหว่างทาง เขียนจดหมายน้อยบอกให้ แฟนหนุ่มมางานศพด้วย


เรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวังของนักเรียนสาวรายนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 ม.ค.59 พ.ต.ท.ฉายยนต์  ชาวดอน พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลบึงกาฬว่า มีผู้เสียชีวิตจากการใช้เชือกผูกคอตัวเอง จึงเดินทางไปชันสูตรพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชวลิต พิมพ์บุญ รอง ผกก.สส. ทราบชื่อผู้ตาย น.ส.อรอนงค์ หรือพลอย (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมืองบึงกาฬ เรียนอยู่ชั้น ม.6 สภาพศพใส่เสื้อนักเรียนสีขาวกางขาสั้นสีน้ำเงิน ที่ลำคอมีรอยแดงช้ำ โดยมีญาติๆ  ร้องไห้ระงบอยู่ข้างศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

บิดาผู้ตาย อายุ 45 ปี เล่าว่า ลูกสาวเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดจา เรียนหนังสือดี เมื่อสองปีผ่านมาได้คบหาเป็นแฟนกับชายหนุ่มต่างหมู่บ้าน หลายเดือนก่อนแฟนลูกสาวได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ยังติดต่อคบหากันอยู่ช่วงปีใหม่กลับมาเยี่ยมบ้านลูกสาวก็ได้หอบเสื้อผ้าไปค้างที่บ้านแฟนด้วย เพราะเป็นช่วงก่อนสอบเทอมสุดท้ายหวังว่าจะได้รับกำลังใจจากแฟนหนุ่มก่อนที่จะเรียนจบและไปสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.59 ก็ได้กลับมานอนที่บ้านบอกว่าแฟนกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้ว และได้ขอเงินไปเข้าค่ายเรียนพิเศษภาษาอังกฤษในวันเสาร์นี้ ตื่นเช้ามาก็รีบแต่งตัวไปสอบแต่เช้า ส่วนตนก็ออกจากบ้านไปทำงานพร้อมกับพี่สาวผู้ตาย

พอตนเลิกงาน กลับเข้าบ้านเดินเลยไปจะเข้าห้องน้ำมองเห็นลูกสาวผูกคอห้อยโตงเตงอยู่กับขื่อหลังบ้านจึงรีบตัดเชือกลงมาแล้วนำส่ง รพ.บึงกาฬ ก่อนจะเสียชีวิตในระหว่างเดินทาง  ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าคงถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกรักก่อนจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทำให้ผู้ตายเกิดความเสียใจคิดมากหาทางออกไม่ได้จึงตัดสินใจผูกคอตายดังกล่าว และยังได้เขียนจดหมายทิ้งเอาไว้ว่า “พลอยอยากให้-----มางานศพพลอย ฮักพ่อ-แม่และเอื้อยบี” และยังมีในวงเล็บ (พลอยขาดเขาบ่ได้อีหลี) ต่อท้ายอีกด้วย ทางญาติไม่ติดใจจึงมอบศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ที่มา ข่าวสด