Wednesday, January 6, 2016

หึงพาเมียไปร่วมวงกินเหล้าเมากลับบ้าน ลุงวัย51คว้าปืนยิงข้างหลังเพื่อนบ้านร่างพรุ่นตายคาสวนกล้วย


 เมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ บุญด้วง ผกก.สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในสวนกล้วย ที่ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ยโสธร เจ้าหน้าที่กู้ภัย ฮุก31 ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ


 ที่เกิดเหตุพบศพนายวิสัย ชินภาส อายุ 48 ปี เลขที่ 86 หมู่ 7 บ้านเหมือดแอ่ ต.ค้อเหนือ อ.เมือง จ.ยโสธร ถูกอาวุธปืนยิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในสวนกล้วย หน้าบ้านพักของตนเอง ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุเป็นเพื่อนบ้านหลบหนีไปก่อนหน้านั้นแล้ว จากการตรวจสอบโดยรอบและชันสูตรพลิกศพของผู้ตาย พบมีรอยกระสุนหลายรูบริเวณแผ่นหลัง และศีรษะจนเลือดไหลนองเต็มพื้น  โดยมีนางดำ เศิกศิริ อายุ 70 ปี ภรรยาผู้ตายส่งเสียงร้องไห้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยห่อศพด้วยผ้าขาวและยกศพสามีขึ้นรถไปผ่าพิสูจน์หัวกระสุนที่ รพ.ยโสธร


 จากการสอบถามนางดำ ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่บ้าน ของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันได้ยินเสียงปืนดังตูมขึ้น 1 ครั้ง จึงรีบวิ่งไปดูที่บ้านพักพบสามีนอนจมกองเลือดอยู่ในสวนกล้วยหน้าบ้าน แต่ไม่พบเห็นผู้ก่อเหตุ จึงแจ้งให้เพื่อนบ้านเข้าไปช่วยเหลือ แต่สามีได้เสียชีวิตแล้ว

 เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า นายสุนทร มูลบุตร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร วิ่งถืออาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิดออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนหลบหนีไม่ทราบไปไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองยโสธร ได้ออกตามหายังไร้วี่แวว

 ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความหึงหวง เพราะเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายพร้อมภรรยาได้ไปเยี่ยมญาติในพื้นที่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร ห่างจากบ้านกว่า 30 กม. โดยมีภรรยาของนายสุนทร ผู้ก่อเหตุขอติดตามไปด้วย จนกระทั่งมืดผู้ตายและนางดำ ภรรยาจึงกลับ และพาภรรยาของนายสุนทรกลับมาบ้าน ในขณะที่ภรรยาของนายสุนทรมีอาการเมาเหล้า และพูดจาฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้นายสุนทรเกิดความหึงหวงไม่พอใจผู้ตาย ที่พาภรรยาของตนไปดื่มสุรากลับมาจนเมา แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันแต่อย่างใด ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน

 จนกระทั่งมาช่วงสายวันนี้ ขณะผู้ตายออกไปดายหญ้าอยู่ในสวนกล้วย นายสุนทรผู้ก่อเหตุนำอาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิด ย่องไปยิงผู้ตายทางด้านหลังจนฟุบเสียชีวิตคาที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets