รามาฯ แถลงฉบับ17 ‘ปอ’ทรุดลงจากปอดติดเชื้อลุกลาม-ต้องเพิ่มยา โบว์บอกว่าจะสู้!!
เวลา 08.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้สื่อข่าวเฝ้าติดตามความคืบหน้าอาการป่วยของ ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกชื่อดังทางช่อง 3 วัย 35 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวจากอาการไข้เลือดออกแบบวิกฤต และยังต้องได้รับการเฝ้าระวังในห้องซีซียู(CCU) อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 38
บรรยากาศที่ชั้น 1 ในช่วงเช้ามีประชาชนทั่วไป แฟนคลับ เดินทางมาเขียนข้อความส่งกำลังใจลงในกระดาษที่มีข้อความ "Stronger Por" ให้แก่พระเอกหนุ่ม ปอ-ทฤษฎี อย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศบนชั้น 9 ช่วงเช้าของวันนี้ มีอาน้ำอ้อย-ศรมนตรา พิชัยศรแผลง ผู้จัดการส่วนตัวของปอ-ทฤษฎี เฝ้าติดตามอาการและนั่งสวดมนตร์อยู่หน้าห้องซีซียู
ส่วนคุณพ่อคุณแม่ปอ ยังอยู่ที่บุรีรัมย์ น่าจะขึ้นมาพรุ่งนี้ กับข่าวที่ออกไปเมื่อวานนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ยังไม่ตกใจ อาอยากให้รอประกาศจากทางแพทย์ แต่คุณหมอบอกแล้วว่าอาการนี้เอาอยู่ แต่อาการยังต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ตอนนี้อาคงพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะคุณหมออยากบอกเอง”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เห็นเมื่อเช้านั่งสวดมนต์ อาน้ำอ้อยเผยว่า อาสวดมนต์ปกติทุกวันอยู่แล้ว วันละสิบรอบ เพราะเราเชื่อว่ามีปาฏิหารย์
“ส่วนวันนี้น้องมะลิอาจจะยังไม่สามารถมาโรงพยาบาลได้ เนื่องจากมีน้ำมูก”
ต่อมาเวลา 09.25 โบว์-แวนดา สหวงษ์ ภรรยาปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ เดินทางมาถึงชั้น 9 และได้หยุดพูดคุยกับ ศ.พญ. อำไพวรรณ จวนสัมฤทธิ์ อยู่หน้าห้องซีซียู สักครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินเข้าไปภายในห้องซีซียู ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมา
วันเดียวกัน มีประกาศโรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่องชี้แจงอาการป่วย ของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ฉบับที่ 17 สรุปอาการและความคืบหน้า อาการป่วยจากไข้เลือดออกของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ว่า ตามที่โรงพยาบาลได้รายงานอาการป่วยของ นายทฤษฎี สหวงษ์ ในประกาศฉบับที่ 16 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 แล้วนั้นว่า ผู้ป่วยยังมีภาวะแทรกซ้อนสำคัญ ได้แก่ ปอดขวาอักเสบรุนแรง จากการติดเชื้อ ลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้าย ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร ยังมีเลือดออกซ้ำเป็นครั้งคราว การทำงานของตับ และภาวะไตวาย ที่ยังต้องได้รับ การรักษาด้วยการฟอกไตต่อเนื่อง
ในวันที่ 15 ธันวาคม 2558 อาการผู้ป่วยทรุดลง จากการที่ภาวะปอดขวา ที่ติดเชื้อเดิมลุกลามขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเลวลง จำเป็นต้องได้รับการปรับเพิ่มยาต้านจุลชีพ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หากมีการเปลี่ยนแปลงทางคลินิก อย่างมีนัยสำคัญ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment