ย้อนรอยอดีตนางเอกดัง "สเตลล่า มาลูกี้" ยอมเสียขาเพื่อแลกกับลมหายใจดูเเลครอบครัว!!

 

ท่ามกลางข่าวดังเมื่อทีมเเพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่รักษาอาการป่วยโรคไข้เลือดออกของพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ต้องตัดขาซ้ายเหนือข้อเท้า เพื่อรักษาภาวะติดเชื้อรุนเเรงไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้  ทำให้หลายคนหวนนึกถึงอดีตนางเอกชื่อดังในอดีต สเตลล่า มาลูกี้ ลูกครึ่งอิตาลี-โคลัมเบีย นางเอกฟ้าทะลายโจร ที่ต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิต หลังล้มป่วยด้วยโรคพาราไทรอยด์ สาเหตุเกิดจากแคลเซียมสูงผิดปกติในปอด ซึ่งโรคนี้มีแค่ 5 คนที่เป็น และเธอเป็นคนที่ 2 ที่รักษาจนหายได้


สเตลล่าเคยเล่าเรื่องราวที่ตนเองต้องตัดขาทิ้งเพื่อยื้อชีวิตผ่านทางรายการตีสิบ4ทุ่มครึ่ง อังคารที่ 10 สิงหาคม 2553 ว่า ตอนที่ตัวเองกำลังตั้งครรภ์ช่วงแรกไม่เคยมีอาการแพ้ท้องเลย จนประมาณ 5 เดือนก็เริ่มอาเจียนตลอด ท้องได้ 8 เดือน น้ำหนักขึ้นแค่ 3 กิโลกรัม  จึงไปหาหมอตรวจดูก็ไม่พบความผิดปกติอะไร ลองถามญาติๆตอนที่ท้อง เขาก็น้ำหนักขึ้นแค่ 5 กิโลกรัม เราก็คิดว่าเป็นปกติ จนเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2553 ได้คลอดลูกเองตามธรรมชาติ เลี้ยงลูกได้ 7 วัน หลังจากนั้นพอกินอาหารก็อาเจียนทันที เป็นแบบนี้ทุกมื้อ จนไปตรวจหมอบอกว่าเป็นแค่ปัสสาวะอักเสบ

เเต่หลังจากนั้นไม่นานอาการก็เริ่มหนักขึ้น ไปให้หมอเจาะเลือดปรากฏว่าแคลเซียมในร่างกายสูงมากผิดปกติ มีโอกาสหัวใจวายสูง ต้องส่งเข้าห้องไอซียูทันที พอเข้าไอซียูได้ 2 ชม. ปรากฏว่า ตับ ไต ปอด ไม่ทำงานแล้ว และเมื่อเข้าเครื่อง ซีทีสแกน ปรากฏว่าต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เพราะคนปกติแค่ 2 ซม. หมอบอกว่าต้องตัดทิ้ง ตอนนั้นร่างกายอ่อนแอมากไม่สามารถผ่าตัดได้ และแคลเซียมในปอดยังสูงอีก ทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอด หมอเเจ้งวิธีรักษามีอยู่ทางเดียวคือใช้เครื่องช่วยทำงานแทนหัวใจและปอด เพื่อให้ปอดได้พัก ซึ่งค่าใช้จ่ายเครื่องนี้ประมาณ 1 ล้านบาท และค่าใช้เครื่องอีกวันละ 1 แสนบาท ความเสี่ยงในการรักษาโรคนี้ อาจมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดได้ แต่ทางบ้านเสี่ยงที่จะรักษาได้ด้วยวิธีนี้ และมีการวางแผนล่วงหน้าถ้าเราเสียชีวิต ว่าจะให้พี่ชายเอาลูกไปเลี้ยง

การใช้เครื่องช่วยทำงานแทนปอดและหัวใจ ต้องแทงเข็มไปที่เส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาขวา เพื่อต่อเข้าหัวใจ และปอด ตอนแรกอาการดีขึ้น พอใช้ได้แค่ 2 วัน ปรากฏว่าขาเริ่มบวมจนเหมือนจะปริแตกได้ หมอต้องกรีดเนื้อเพื่อเข้าไปนวดกล้ามเนื้อที่ขาก็ดีขึ้น แต่พอรุ่งขึ้นก็บวมใหม่ แต่คราวนี้เท้าเริ่มดำเริ่มจะเน่าแล้ว หมอกลัวว่าจะติดเชื้อในกระแสเลือดได้  หมอจึงปรึกษาพ่อและสามีว่า ต้องตัดขาทิ้งไป เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือด และเพื่อความปลอดภัยต้องตัดที่ต้นขาเลยถึงจะปลอดภัย ทางพ่อและสามีก็ยินดีทำตามที่หมอแนะนำเพื่อรักษาชีวิตไว้

หลังจากที่รักษาตัวจนหายเเละพบว่าตัวเองไม่มีขาเเล้ว สเตลล่าบอกว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้อยู่นาน แต่เมื่อหายดีแล้วมองและรู้สึกถึงบรรยากาศรอบๆ ข้าง โดยมีพี่ชายเล่าทุกๆ อย่างให้เธอฟัง บวกกับกำลังใจที่ดีทั้งจากครอบครัว สามี ลูกและคนรอบข้างที่ส่งมาให้ มันเป็นแรงใจที่สำคัญที่ทำให้สู้ที่จะใช้ชีวิตต่อ ทุกวันนี้ก็ยังสามารถใช้ชีวิตทุกอย่างได้เหมือนปกติ ขับรถ ขี่จักรยาน เดิน ทำกิจกรรมต่างๆ การสูญเสียขาในการรักษาครั้งนี้ ได้ต่อชีวิตของเธอให้ได้กลับมาทำหน้าที่ของคำว่าแม่และภรรยาที่ดีเพื่อครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์แบบอีกครั้ง สเตลล่ากล่าว

ที่มา matichon