Monday, November 23, 2015

เมืองกาญจน์ เข้มใช้ ก.ม.คุมแพเธค หลังเที่ยงคืนงดใช้เสียง


รอง ผวจ.กาญจนบุรี หารือผู้ประกอบการ แก้ไขปัญหาแพเธค หลังชาวบ้านและผู้ประกอบการโรงแรมริมน้ำร้องเรียน ได้รับผลกระทบทางเสียง เบื้องต้นสั่งเข้มบังคับใช้กฎหมาย และห้ามใช้เสียงหลังเที่ยงคืน-7โมงเช้า


เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 58 นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ปัญหาแพเธคเสียงดัง ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีส่วนราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาแพเธค กลุ่มผู้ประกอบการชาวแพ ชาวเรือ และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าร่วมหารือเพื่อแก้ปัญหาแพเธค โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้พูดคุยถึงปัญหาและแนวทางแก้ไขร่วมกัน

กลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อน นำโดย ดร.สำเภา ใจผ่องใส ได้กล่าวยืนยันว่า พวกตนไม่มีความคิดที่จะให้มีการล้มเลิกธุรกิจแพล่องและแพเธคในกาญจนบุรีแต่อย่างใด ที่ต้องออกมาเรียกร้อง เพราะชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำได้รับผลกระทบกันมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและเด็ก รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ตที่อยู่ริมน้ำต่างได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวที่เข้าพักทนรับเสียงดังไม่ไหว ต้องขอยกเลิกการเข้าพักบ่อยครั้ง โดยทางชาวบ้านต้องการเพียงแค่ให้กลุ่มผู้ประกอบการลดการใช้เสียงลง ไม่ได้ต้องการให้เลิกประกอบกิจการแพเธคแต่อย่างใด

ด้านกลุ่มผู้ประกอบการ นำโดยนายภาณุวัฒน์ ศีลแดนจันทร์ รองนายกสมาคมชาวเรือชาวแพจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้ประกอบการมีการนัดหารือ และทำข้อตกลงร่วมกันที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางจังหวัด รวมถึงมีการปรับลดลำโพงในแพให้น้อยลง เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงดังเกินกำหนดมาแล้ว และได้เริ่มปฏิบัติกันมาแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ก็ยอมรับว่ายังคงแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด ส่วนข้อเสนอที่มีผู้เสนอให้มีการติดตั้งกระจกหรืออุปกรณ์ดูดซับเสียงบริเวณรอบแพเธค เพื่อป้องกันเสียงดังออกไปด้านนอกนั้น ทางกลุ่มผู้ประกอบการยังไม่สามารถรับปากได้ คงจะต้องขอเวลากลับไปหารือกันก่อน เนื่องจากถือเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมนานกว่า 4 ชั่วโมง ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับในข้อเสนอเบื้องต้น เรื่องการแก้ปัญหาเสียงดัง

ทาง นายบุญญะพัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดและส่วนราชการต้องขอความร่วมมือจากทางกลุ่มผู้ประกอบการปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ ต่อไปทางจังหวัดจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยหลังเที่ยงคืนจะต้องไม่มีแพไหนเปิดเพลงอย่างเด็ดขาด ก่อนจะสามารถใช้เสียงได้อีกครั้งช่วง 7 โมงเช้า โดยทางทหารและตำรวจจะต้องจัดชุดออกตรวจตราอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานกรมควบคุมมลพิษมาดำเนินการสุ่มตรวจวัดความดังของแพที่ออกให้บริการ

หากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายและให้ทางสมาคมชาวเรือชาวแพมีมาตรการลงโทษภายในของทางสมาคมด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทั้งฝ่ายชาวบ้านและฝ่ายผู้ประกอบการสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยไร้ปัญหา โดยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่หมายเลข 191 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets