รวบอดีตเสี่ย40ล้าน!! ถลุงจนหมด ตั้งแก๊งเลียนเสียงคนดัง-ขรก.ใหญ่นครปฐมตุ๋นเงินเหยื่ออื้อ
เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่หน้าอาคารกองบังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม ถนนขวาพระ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.รัตนะ ปาลจันทร์ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.อนุภาพ ศรีนวล รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผู้กำกับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.ธีรเดช อธิภัคกุล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ธารา ศรีพรหมคำ รองผกก.สืบสวนตำรวจภูธรนครชัยศรี
พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รองผกก. พร้อมชุดจับกุม รวมกันนำตัว นายนิวัฒน์ สุขโสม หรือ เสี่ยไก่ อายุ 53 ปี อยู่หมู่ 5 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ผู้ต้องหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ที่จับกุมได้ตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ของพนักงานสวนสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี ขออนุมัติศาลออกหมายและจับกุมได้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ต.ต.กฤษณะ แถลงว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลโทรศัพท์ ไปหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นพ่อค้า คหบดี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยใช้กลอุบายหลอกว่า เป็นหน้าห้องของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าจัดทำเสื้อกีฬา
ผู้เสียหายหลงเชื่อได้โอนเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 76,000 บาท ต่อมาภายหลังผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกจึงได้เข้าร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนครศรี เพื่อให้การดำเนินคดี ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย และสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายสุนทร ขันทองดี อายุ 27 ปี อยู่หมู่ที่ 7 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้า
จากการสอบสวนขยายผล นายสุนทรรับว่า มีนายนิวัฒน์ สุขสม มาว่าจ้างขอเบอร์บัญชี เพื่อรับการโอนเงิน โดยตนเองได้ค่าจ้าง 1,000 บาท และจากการสอบสวนขยายผลพบว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1 รายคือ นางทัศนีย์ เปี่ยมพลอย อายุ 37 ปี อยู่เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้า ซึ่งศาลได้ออกหมายจับแล้ว ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี
ส่วนนายนิวัฒน์ สุขโสม อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าหลบหนีไปอาศัยอยู่ในป่า หมู่ 5 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ ตร.จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายนิวัฒน์นั่งอยู่ในที่พัก ไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สร้างโดยใช้พันธุ์ไม้เลื้อยทำเป็นโดมเล็กๆ เพื่อหลอกตาผู้คน เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับนายนิวัฒน์ หรือ เสี่ยไก่ อดีตเป็นคหบดีใหญ่มีที่ดินมากกว่า 200 ไร่ เคยมีฐานะระดับเสี่ยจากการขายที่ดินมรดกกว่า 40 ล้านบาท จากนั้นจึงผันตัวไปลงทุนสร้างหนังกลางแปลง โดยใช้ชื่อว่านิวัฒน์ภาพยนตร์ มีเครื่องฉายหนังกลางแปลงขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์จำนวนมาก โดยตัวนายนิวัฒน์จะเป็นผู้พากย์หนังเองด้วย
ขณะมีเงินได้ใช้จ่ายเที่ยวเตร่ ใช้เงินที่มีอยู่นับ 40 ล้านบาทจนหมด ภายหลังกิจการเจ๊งจึงต้องขายอุปกรณ์จนหมดตัว และเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมาเคยถูกจับกุมในคดีเลียนเสียงแอบอ้างบุคคลสำคัญมาแล้ว และยังเคยถูกจับกุมในคดีค้ายาบ้า เมื่อพ้นโทษออกมาก็ได้ก่อคดีซ้ำซากเลียนแบบเสียงเป็นบุคคลสำคัญพ่อค้า คหบดีเพื่อฉ้อโกงทรัพย์
นายนิวัฒน์ เคยถูกจับดำเนินคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 ครั้ง ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าได้ทำการหลอกลวงเหยื่อมาแล้วทั้งจังหวัดนครปฐม ราชบุรี และใกล้เคียงได้เงินไปจำนวนมาก เงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อยาเสพติด ยาบ้ามาเสพ และแจกจ่ายให้บรรดาเพื่อนฝูง รวมทั้งเงินทองที่หลอกลวงเหยื่อมาได้ ตนเองก็จะแบ่งปัน ให้กับเพื่อนฝูง ไปใช้จ่าย ซึ่งคนในหมู่บ้านจะรู้จักและรักใคร่ตนเป็นอย่างดี
การถูกจับกุมในครั้งนี้ เสี่ยไก่ รับปากสัญญากับผู้บังคับการว่า หากพ้นโทษคราวนี้จะเลิกประพฤติตัวอย่างที่เคยมาอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ตำรวจท้องที่ กล่าวว่า พ่อค้า เจ้าของกิจการ หรือเจ้าของโรงงานท่านใดที่เคยถูกนายนิวัฒน์ โทรไปหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชี ขอให้มาแจ้งความเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรนครชัยศรีเพื่อเป็นผู้เสียหาย เพิ่มเติมต่อไป
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment