รวบเศรษฐีนีขอนแก่นพรากเด็กหญิงจากแม่นาน 4 ปี สารภาพอยากมีลูก-พ้นผิดจะขอซื้อเรียก 1 ล้านก็ยอม

 

กรณี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.4 รับแจ้งว่าพบด.ญ.วัย 4 ขวบ ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ไม่มีเอกสารทะเบียนบ้านและใบสูติบัตรที่จะเข้าเรียนศูนย์เด็กเล็กประจำหมู่บ้าน และสงสัยว่าจะเป็นเด็กที่ถูกขโมยไปจากรพ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 ก.พ.54 จึงประสานรพ.ขอนแก่น และมารดาของเด็กที่แท้จริง ที่ลูกสาวหายเพื่อขอตรวจดีเอ็นเอ เบื้องต้นเมื่อมารดาหน้าหนูน้อยก็เชื่อว่าเป็นลูกสาว โดยจำตำหนิที่ใบหูขวาที่มีรอยแหว่งได้ เมื่อสอบถามผู้ที่นำเด็กมาฝากเรียนบอกว่าเป็นยาย หากผลดีเอ็นเอยืนยันความเป็นแม่ลูกจะขยายผลติดตามจับกุมคนร้าย ตามที่เคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น


 ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาลักเด็กทารกแรกเกิดของ รพ.ขอนแก่น เมื่อ 13 ก.พ. 2554 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาคือ นางอัญชุลี ชิดขุนทด อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233 หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.75/ 2554 ลงวันที่ 14 ก.พ.2554 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยนางอัญชุลี เป็นผู้มีฐานะดีที่สุดใน ต.บ้านไร่ มีรถบรรทุกสิบล้อสำหรับรับจ้างหลายคัน และมีอาชีพทำสวน

 พล.ต.ท.บุญเลิศ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2554 เวลาประมาณ 08.00 น. เกิดเหตุคนร้ายลักเด็กทารกแรกเกิดอายุ 2 วัน ไปจากนางกัลย์สุดา สำแดง ผู้เป็นมารดาอายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 7 บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขณะที่นางกัลย์สุดา ลุกออกจากเตียงพักฟื้นผู้ป่วยหลังคลอด ซึ่งอยู่ชั้น 2 แผนกสูติกรรม 1 อาคารราชนครินทร์ รพ.ขอนแก่น เข้าไปทำกิจธุระส่วนตัวในห้องน้ำภายในอาคารดังกล่าว

  จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเหตุพบว่า คนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี รูปร่างท้วมผิวคล้ำ สวมเสื้อแขนสั้นลายขาวดำสวมทับด้วยเสื้อวอร์ม แขนยาวสีขาว สวมกางเกงขาสามส่วนลายขาวดำ รองเท้าแตะ อุ้มเด็กทารกเดินผ่านเคาน์เตอร์ด้านหน้าชั้น 2 ของตึกลงบันไดผ่านหน้าลิฟท์ชั้น 1 แล้วออกจากอาคารไป

 คดีนี้ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 สืบสวนหาข่าวติดตามหญิงคนร้ายที่ก่อเหตุเรื่อยมา กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2558 ทราบว่าโรงเรียนวังตาเทพ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ตรวจพบพิรุธในใบสูติบัตร ของ ด.ญ.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 4 ปี ซึ่งมาสมัครเข้าเรียนมีรอยลบหลายแห่ง เชื่อว่าเป็นสูติบัตรปลอม ซึ่งจากการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์พบว่า หมายเลขประจำตัวประชาชนระบุชื่อเด็กอีกคน อายุ 9 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ขอนแก่น ต้องสงสัยว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวอาจเป็นเด็กซึ่งถูกลักพาไปเมื่อปี 2554 ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 4 ปี เช่นเดียวกัน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล

 จากการซักถามนายสาคร ชิดขุนทด (ปู่) ซึ่งพามาสมัครเรียนเช่นเดียวกัน ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายศักดิ์พิชิต ชิดขุนทด ลูกชาย และนายศักดิ์พิชิตสอบถามไปยังนางอัญชุลี ภรรยาก็ยอมรับสารภาพว่าเด็กหญิงดังกล่าวไม่ใช่ลูกของตน โดยนางอัญชุลีไปลักตัวมาจาก รพ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2554

  พ.ต.อ.เกษม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาได้ร่วมกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชัยภูมิ และนักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็ก จ.ชัยภูมิ ทำการตรวจพิสูจน์ยืนยันบุคคล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บเยื่อบุกระพุ้งแก้มของ ด.ญ.ไก่และนางกัลย์สุดา นำไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ และเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2558 ได้รับรายงานผลตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 แจ้งว่า ดีเอ็นเอ ของดญ.ไก่มีความสัมพันธ์แบบมารดา-บุตร กับดีเอ็นเอของนางกัลย์สุดา ผู้เสียหาย จากการตรวจสอบพบว่า นางอัญชุลีมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ ประกอบกับมีพยานยืนยันว่าเป็นคนร้ายอีกด้วย

 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงติดตามตัวนางอัญชุลี กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัวนางอัญชุลีได้ภายในซอยสามเอส ถ.ท้ายบ้าน หมู่ 6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สอบถามรับว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุลักเด็กทารกใน รพ.ขอนแก่นไปจริง ส่วนสาเหตุเนื่องจากตนแท้งลูกขณะท้องได้ประมาณ 6 เดือน อยากมีลูก จึงลักเอาเด็กหญิงดังกล่าวไป

  นางอัญชุลี รับสารภาพว่า วันนั้นขับรถมารพ.มาคนเดียว เมื่อขโมยทารกจาก รพ.ขอนแก่น แล้วก็มาบอกกับสามีว่าลูกของเรา จึงมอบให้กับปู่ย่าได้เลี้ยงดูแล ส่วนตนก็ไปทำงานกับสามีที่ต่างจังหวัดเพราะรถบรรทุกสิบล้อของตนได้ไปรับจ้างขนส่งอยู่ในกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด โดยแวะมาหาด.ญ.ไก่ เดือนละครั้งสองครั้ง รักเหมือนลูกของตนเองจริงๆ สามีก็รักด.ญ.ไก่เหมือนลูกด้วย กระทั่งเรื่องมาแดงขึ้นว่าตนลักด.ญ.ไก่มาจาก รพ.ขอนแก่น จึงยอมให้ตำรวจจับกุม พร้อมกับให้เป็นเรื่องของกฎหมายที่จะดำเนินการกับตน ส่วนด.ญ.ไก่ก็ยังอยู่กับพ่อของเด็ก พร้อมกับปู่ยาต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมรับผิด หลังจากศาลตัดสินรับโทษตนไปแล้ว และพ้นผิดก็จะขอซื้อด.ญ.ไก่กับแม่แท้ๆของเขา แม้ว่าจะเรียกราคาถึง 1 ล้านบาท ตนก็จะซื้อมาเป็นลูก

ที่มา ข่าวสด