เสี่ยร้านขายของชำเมืองขอนแก่น น้อยใจ เมีย กับหลานชาย บ่นอยากผูกคอตาย สุดท้ายทำจริงๆ

 เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 23 ต.ค. ร.ต.ท.ชัยวานิช คำละมูล พงส.สภ.ย่อยสำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอตายที่บ้านหมู่ 3 บ้านหนองน้ำเกลี้ยง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สวาสน์ นวลศรี พงส.ผทค.สภ.เมืองขอนแก่น ทำหน้าที่ หน.สภ.ย่อยสำราญ พ.ต.ท.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น แพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ


 ที่เกิดเหตุพบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นร้านขายของชำประจำหมู่บ้านหนองน้ำเกลี้ยง มีผู้ตายเป็นเจ้าของบ้าน และมีบ้านอีกหลังหนึ่งที่ปลูกด้านหลังร้านขายของชำ พบศพนายเล้ง (นามสมมติ) อายุ 61 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น และกางเกงขายาว ได้ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกกับหลังคาบ้านพัก โดยใช้บันไดอลูมิเนียมแบบพับได้ อยู่ใกล้กับเชือกที่มัดไว้ใกล้หลังคาบ้านพัก ซึ่งได้มัดลำคอนายพ้องเล้งแน่นจนลิ้นจุกปาก ตาเหลือก และเสียชีวิตมากกว่า 3 ชั่วโมง โดยมีกระป๋องเบียร์อยู่ในบ้านที่ผูกคอตาย 2 กระป๋อง เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำร่างผู้ตายลงมาเพื่อมาชันสูตรที่พื้นบ้าน

 ร.ต.ท.ชัยวานิช เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนมีฐานะดีในหมู่บ้านหนองน้ำเกลี้ยง ซึ่งได้ว่ากล่าวตักเตือนหลานชาย อายุ 16 ปี ซึ่งชอบเล่นเฟซบุ๊กและไลน์ เกมในโทรศัพท์มือถือ จนไม่ยอมช่วยขายของในบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ทำให้ภรรยาผู้ตาย อายุ 60 ปี ไม่พอใจ ช่วยหลานชายด่าว่าผู้ตายหลายอย่าง จนทั้งสองคนเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ภรรยาจะหนีออกจากบ้าน เมื่อ 2–3 วัน ที่ผ่านมาโดยไปอยู่กับลูกสาวอีกคนหนึ่ง ที่มีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

 โดยทิ้งหลานชายอยู่กับพ่อและผู้ตายซึ่งเป็นปู่ ขณะที่ปู่ว่ากล่าวหลานทุกวันที่เอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ เล่นไลน์ และเฟซบุ๊ก แต่หลานชายก็ไม่สนใจ และไม่มีใครสนใจนายเล้งจึงเป็นเหตุให้น้อยใจอย่างมากจะไปผูกคอตาย ลูกชายนึกว่าพูดเล่น และพูดแบบประชดประชัน จากนั้นนายเล้งได้เอาเบียร์ในตู้เย็น จำนวน 2 กระป๋อง ไปกินที่บ้านหลังที่สอง เวลาผ่านไปจนดึกเข้าสู่วันที่ 23 ต.ค. ลูกชายคนโตจึงได้เข้าไปดูที่บ้านหลังที่สอง ก็พบว่าพ่อของตนเองผูกคอตายดังกล่าว

 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้กับมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศนำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น พร้อมกลับลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งญาติไม่ติดใจการตาย ซึ่งจะได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ที่มา ข่าวสด