รวบลูกแทงพ่อหวิดดับแค้นรักพี่มากกว่า ประชดครอบครัวด้วยการเป็นโจรก่อกว่า 40 คดี
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 ต.ค. ที่สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ ร.ต.อ.อรรคพล ยี่เกาะ รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.จตุพร เบ็ญจกุล ร.ต.ท.บรรจง พาโคตร ร.ต.ท.วิเชียร คล้อยดี และชุดสืบสวน แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีลักทรัพย์มามากกว่า 40 คดีในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาคือนายกฤษดา พลอยเขียว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.5 บ้านเลื่อม ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมของกลาง มี รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิวิค สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ฌต 6316 กรุงเทพฯ (ติดทะเบียนปลอมหมายเลข กน-7149 อุดรธานี) รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กง7793 อุดรธานี 1 คัน โทรทัศน์สีขนาด 14 นิ้ว 1 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง แบตเตอรี่รถยนต์ จำนวน 33 ลูก น้ำมันเบนซินแบ่งขายจำนวน 5 ขวด เครื่องตัดหญ้า แบบสะพาย 1 เครื่อง เครื่องมือ ไขควง ประแจ อุปกรณ์งัดแงะ จำนวน 1 ลัง แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ หมายเลข ฌต 6316 กรุงเทพฯ 2 แผ่น
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนกันยายน จนถึงปัจจุบันมีเหตุรถจักรยานยนต์หาย งัดหอพัก แบตเตอรี่รถยนต์หาย รวมไปถึงรถยนต์ ไปเติมน้ำมันในปั้มแล้วเบี้ยวขับรถหนีถึง 3 ครั้งติดๆ ล่าสุดมีรถจักรยานยนต์หายที่บ้านพักตรงข้ามสถานีขนส่งแห่งที่ 2 และเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 ก.ย.58 ที่ผ่านมา ขณะที่ทันตแพทย์หญิงอารยา ศรีลาพัฒน์ กำลังรักษาคนไข้อยู่ในคลินิก ปัญจพร ทันตแพทย์ บริเวณสี่แยกข้างเรือนจำกลางอุดรฯ ถ.โพศรี ได้มีคนร้ายแอบเข้าไปในห้องทำงานแล้วขโมยกุญแจรถยนต์ ฮอนด้า ซิวิค สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ฌต 6316 กรุงเทพฯ ที่จอดไว้ด้านข้างคลินิก แล้วขับรถยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวอีกว่า ต่อมามีเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนและหอพัก ตามร้านค้าขายน้ำมันขวด บางครั้งเข้าไปพัก ในรีสอร์ตแล้วขโมยทีวีสีเครื่องเล็กของรีสอร์ตไปด้วย ทุกครั้งที่เกิดเหตุมักจะมีรถยนต์ ฮอนด้าซิวิค สีบรอนซ์เทา ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งการสืบสวนพบว่าเป็นรถยนต์คันที่ถูกขโมยมาจากคลินิก ปัญจพร ทันตแพทย์แต่ถูกเปลี่ยนป้ายทะเบียน แล้วนำไปก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ จึงสั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคนร้ายเป็นภัยต่อสังคมเป็นอย่างมากในช่วงแค่ไม่ถึง 2 เดือนก่อเหตุมากกว่า 40 ครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.ชาญณรงค์ เปิดเผยว่า หลังจากได้ข้อมูลของคนร้ายว่าใช้รถยนต์ฮอนด้า ซิวิคสีบรอนซ์เทา ที่ขโมยมาไปตระเวนลักทรัพย์ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.58 คนร้ายขับรถ สีบรอนซ์เทาทะเบียน กน.7149 อุดรธานี เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั้มซัสโก้ จำนวน 1,460 บาท แล้วขับรถหนีไปไม่จ่ายเงินค่าน้ำมัน ต่อมาวันที่ 17 ต.ค.58 รับแจ้งจากนายกฤษฎา สิทธิพรหม เจ้าของปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านหนองขาม ว่ารถยนต์ฮอนด้าซิวิค สีบรอนซ์เทา เติมน้ำมันจำนวน 1,180 บาท แล้วขับหนีไป วันที่ 22 ต.ค.นายหาญณรงค์ ศักดิ์อุดร พนักงานปั้มน้ำมันบางจาก ข้างโฮมโปร ถ.รอบเมือง แจ้งว่าคนร้ายขับรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิวิค สีบรอนซ์เทา เติมน้ำมัน 1,160 บาท แล้วขับหลบหนีไป
พ.ต.ท.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา คนร้ายขับรถไปเติมน้ำมันในปั๊ม ปตท.หน้ากองบิน 23 ถ.ทหาร แล้วเบี้ยวเงินเติมน้ำมันจำนวน 1 พันบาท จึงได้ขับรถติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องรายนี้ไว้ได้พร้อมรถที่ขโมยมาจากคลินิก ปัญจพร ทันตแพทย์ จากนั้นจึงได้ไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบของกลางอีกจำนวนมากพร้อมอุปกรณ์งัดแงะ จำนวนหนึ่ง เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงคอนายคมคาย พลอยเขียว อายุ 53 ปี พ่อแท้ๆของตนเองจนบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
สอบสวนนายกฤษดา พลอยเขียว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เดิมตนทำงานเป็นเซลล์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ถนนรอบเมืองใกล้สถานีขนส่งแห่งที่ 2 มีภรรยาและลูกสาวอายุ 8 เดือน แต่เนื่องจากรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงไปขอเงินจากพ่อมาให้หลาน แต่ถูกพ่อดุด่าไล่ออกจากบ้าน ทำให้ภรรยาต้องหอบลูกสาวหนีไปอยู่ต่างจังหวัด จึงเกิดความเครียด ประกอบกับพ่อดุด่า และรักพี่ชายมากกว่า ก่อนจะหนีออกจากบ้าน ตนไปหาพ่อ แต่ถูกพ่อและเพื่อนพ่อดุด่า เอาปืนไล่ยิงขู่ให้ออกจากบ้าน ด้วยความโมโหจึงคว้ามีดไปแทงเข้าที่คอของพ่อ แล้วหลบหนีออกจากบ้าน พร้อมประกาศว่าจะไปเป็นโจรและทุกคนในบ้านจะต้องเดือดร้อน จากนั้นก็ไปตระเวนลักทรัพย์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ งัดหอพัก ลักแบตเตอรี่ ลักทรัพย์ทุกอย่าง พร้อมกินนอนในรถ
นายกฤษดา ให้การต่ออีกว่า เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็นำไปขายเอาเงินไปขอซื้อยาบ้ามาจากเด็กในร้านเกมมาเสพ บางครั้งไม่มีเงินก็ทำทีไปเปิดห้องพักในรีสอร์ต แล้วแอบขโมยเอาทีวีและทรัพย์สินในรีสอร์ตไปขาย และเวลาไปเติมน้ำมันก็จะดับเครื่อง เมื่อเติมเสร็จก็จะขับรถหนีออกไปเลย ช่วงที่ถูกจับกุมตนก็ซัดทอดไปว่า พ่อกับพี่ชายมีอาวุธปืนและอยู่ร่วมขบวนการด้วย ทำให้ทางตำรวจบุกไปชาร์จจับพ่อกับพี่ชาย แต่ก็ตนก็มารับสารภาพตอนหลังว่า พ่อกับพี่ชายไม่เกี่ยว และขอโทษทางตำรวจไปแล้ว
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment