ระทึก!ช้างป่าเขาใหญ่ตกมัน โผล่ขวางถนนฝั่งปราจีนบุรีนานนับ 1 ชั่วโมง รถติดยาวเหยียด

 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชนหลังจากที่ไปท่องเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก (พื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา และสระบุรี) โดยฝั่งจ.ปราจีนบุรี ถนนสาย 307 (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ปราจีนบุรี) พบนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางไม่ขาดสาย ตลอดทั้งวัน ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มียอดนักท่องเที่ยวรวมมากกว่า 15,000 คน ขึ้นไป ท่องเที่ยวโดยบ้านพักในอุทยานถูกจองเต็ม และลานกางเต้นท์ 2 แห่งทั้งที่ลำตะคอง และผากล้วยไม้ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว


 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เกิดเหตุระทึกขึ้นบริเวณโป่งอาจารย์แมว ระหว่าง กม.32-33 เมื่อพบช้างพลายเพศผู้ขนาดใหญ่ น้ำหนักมากกว่า 1 ตันอายุกว่า 15 ปี สภาพตกมันงาขวาหักปลายมีเลือดติดปลายงายืนวางถนน แต่ไม่มีท่าทางดุร้ายแต่อย่างใด พบอารมณ์ดีหูกางหางโบกสะบัด โดยมีนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ "หมอล็อต" นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คอยอำนวยการร่วมกับชุดเคลื่อนที่ เพื่อต้อนช้างป่า คอยกำกับการอำนวยความสะดวกให้ยวดยานผ่านขึ้น-ลง อย่างปลอดภัย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวที่พบ จนทำให้รถต้องชะลอตัว และติดยาวเหยียดเกือบ 1 กม.

 นายสัตวแพทย์ภัทรพล กล่าวว่า ช้างป่าที่พบอยู่ในระบบประวัติที่ทางอุทยานฯจัดทำ ไม่ดุร้าย เป็นช้างช่วงตกมัน เป็นสัดช่วงฤดูที่มันผสมพันธุ์ จากงาที่ปิ่นหักมีเลือดติดปลายงา แสดงว่ามีการต่อสู้กับช้างตัวอื่นเพื่อเข้าฝูงผสมพันธุ์ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้อำนวยการในการนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ส่งผ่านจุดที่ช้างป่าออกอย่างปลอดภัย โดยมีรถเคลื่อนที่เร็วร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกและรู้อุปนิสัยช้างป่า ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องเชื่อฟัง ไม่ฝ่าฝืนคำบอกชี้แจง

 “สำหรับช้างป่า พบออกมากในช่วงทางขึ้น-ลงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในฝั่ง จ.ปราจีนบุรี มากกว่าด้านฝั่ง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีพื้นที่ราบต่ำมากกว่า สำหรับสิ่งที่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาพักผ่อนควรเรียนรู้เกี่ยวกับการระวังภัยเมื่อพบช้างป่าคือให้อยู่ห่างตั้งแต่ 30-50 เมตรไม่เข้าใกล้ ไม่บีบแตร ไม่ใช้แฟลต ไม่เปิดไฟสูง หรือดับเครื่องยนต์ รู้อารมณ์ช้างป่า หากโกรธ เครียดหรือโมโหจะหูกาง หางชี้ งวงม้วนงอ ต้องรีบถอยหนี สำหรับอุทยานฯวางแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาช้างป่าในหลายมาตราการ อาทิ การจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเมื่อพบช้าง ในการป้องกันนักท่องเที่ยวทั้งยานพาหนะและนักท่องเที่ยวไม่เป็นอันตราย รวมถึงป้องกันช้างป่าได้รับอันตรายจากยวดยานด้วยเช่นกัน ทั้งให้ช้างเดินตามรถเคลื่อนที่เร็ว ออกจากการขวางถนนเข้าทางด่านข้างทาง หรือนำรถนักท่องเที่ยวผ่านขึ้น-ลงอุทยานฯ การจัดป้ายแจ้งเตือนทางช้างผ่าน ป้ายเตือนเมื่อพบช้างป่า เป็นต้น รวมถึงจากที่ด้านบนอุทยานฯบางจุดอับสัญญาณโทรศัพท์ จะใช้วิธีการสอบถามนักท่องเที่ยวว่าพบช้างป่าหรือไม่โดยมีด่านเจ้าหน้าที่ในการรับแจ้งพบช้าง หรือสัตว์ป่าเพื่อจะบริการช่วยเหลือทั้งคนและช้าง” นายสัตวแพทย์ภัทรพล กล่าว

ที่มา ข่าวสด