รมช.พาณิชย์ ลื่นล้ม กลางตลาดสด ขอนแก่น สั่งเพิ่มตลาดกลางช่วย SME

รมช.พาณิชย์ ลื่นล้มกลางตลาดสด ที่ขอนแก่น แต่ปลอดภัย ยัน มาพบปะพ่อค้า-แม่ค้า เพื่อเตรียมไปวางแผนช่วยเหลือ ยอมรับ 6-7 เดือน การจับจ่ายของประชาชนมีแนวโน้มหดตัว สั่งเพิ่มตลาดกลางสินค้าเกษตร ครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วย SME


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 กันยายน 2558 ขณะที่ นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำ รมช.พาณิชย์ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ตรวจสินค้าตลาดสดบางลำพู และตลาดศรีเมืองทอง รวมทั้งตลาดกลางสินค้าการเกษตร ซึ่งทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ ต.ในเมือง และเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อรับทราบปัญหาของผู้ขายผู้ซื้อเพื่อนำปัญหาต่างๆ ไปสู่การแก้ไขและแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำรวมทั้งสินค้าอาหารตามสั่งต้องสอดคล้องกันด้วย

 "ยังยิ้มได้" ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ลื่นล้มกลางตลาดสด ขอนแก่น

ขณะที่ คณะได้เดินพบปะพูดคุยกับบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสดบางลำพู ระหว่างที่ รมช.พาณิชย์ เดินผ่านบริเวณแผงขายปลา เกิดลื่นล้มเข่ากระแทกพื้นอย่างแรง เนื่องจากถนนเป็นพื้นปูนปูกระเบื้อง พื้นมีน้ำแฉะ เกิดจากการที่ พ่อค้า-แม่ค้า ราดน้ำที่ล้างปลาลงบนพื้น ทำให้ รมว.พานิชย์ ที่เดินดูสินค้าและพูดคุยกับประชาชนรายอื่นๆ อยู่ ไม่ได้สังเกตและไม่ทันระวังตัว เลยลื่นล้ม โชคดีที่มีคณะผู้ติดตามช่วยกันพยุงลุกขึ้นมา ในเบื้องต้น รมช.ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด

ทั้งยังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การเดินทางมาตรวจราคาสินค้า และพบปะเยี่ยมเยียนพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสดที่ขอนแก่น ครั้งนี้ เพื่อต้องการรู้ว่า ค่าครองชีพ ความเป็นของประชาชนเป็นอย่างไร เพื่อให้เห็นความเป็นจริงกับตา หลังจากตรวจดูแล้วพบว่า การจับจ่ายใช้สอย ในระยะเวลา 6 - 7 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่กระเตื้องขึ้น และมีแนวโน้มจะหดตัวด้วย ดังนั้นในส่วนภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ จะเข้ามาดูแลและช่วยเหลือเรื่องนี้อย่างไร ก็หลังจากที่ได้ข้อมูล ข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะนำเอาข้อมูลดังกล่าวไปวางแผนและเป็นนโยบาย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป

 วินาที รมช.พาณิชย์ ลื่นล้ม เพราะน้ำที่พ่อค้า-แม่ค้า ใช้ล้างปลา โชคดี ไม่เป็นอะไรมาก

พร้อมกันนี้ รมช.พาณิชย์ ยังพูดถึงโยบายที่จะช่วยเหลือกลุ่ม SME ว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีตลาดสินค้าการเกษตรอยู่ 80 กว่าแห่ง ใน 36 จังหวัด ซึ่งยังไม่เพียงพอในการกระจายสินค้าภาคเกษตร ดังนั้นจึงจะขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน และกระทรวงมหาดไทย จัดให้มีตลาดกลางมากขึ้น เพื่อให้กลุ่ม SME สามารถระบายสินค้าที่ผลิตขึ้นมาจำหน่ายได้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทอุปโภค - บริโภค ซึ่งจะทำให้กลุ่ม SME เกษตรกร และผู้บริโภค มีโอกาสพบกันโดยตรง จะสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาเป็นธรรม สินค้าจะระบายได้เร็วขึ้น.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์