ตร.สิชล ควานตัวผัวโหดเบนซินราดจุดไฟเผาเมียสุดสยอง เหตุแค้นที่ไม่ยอมกลับมาคืนดี

เผยทะเลาะกันเรื่องหึงหวงเป็นประจำ ล่าสุดถึงขั้นลงไม้ลงมือทำให้ฝ่ายหญิงหนีมาอาศัยอยู่กับเพื่อนที่กระท่อมนากุ้ง ผัวขี่จยย.ตามมาง้อ แต่ไม่สำเร็จ ด้วยความแค้นไปดูดน้ำมันเบนซินจากรถจยย.มาราดทั้งตัวแล้วจุดไฟพึ่บ ก่อนเผ่นหนี เพื่อนรีบพาส่งร.พ.อาการสาหัสถูกไฟคลอกเกือบ 50%


เมื่อวันที่ 6 ก.ย. พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงศ์ ผกก.สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงคดีสะเทือนขวัญ นายจารุฒน์ เพชรแก้ว อายุ 30 ปี ใช้น้ำมันเบนซินราดและจุดไฟเผานางนิสารัตน์ พรหมทอง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/5 ม.9 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่กระท่อมนากุ้ง ม.5 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวที่ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช ยังไม่พ้นขีดอันตราย โดยผู้บาดเจ็บยังให้ปากคำไม่ได้ เนื่องจากมีบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ลำตัว หน้าท้อง ราวนม แผ่นหลัง และต้นขาทั้งสองข้าง ผิวหนังถูกไฟไหม้ทำลายประมาณ 45% เสี่ยงต่อภาวะช็อก

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ภาสกร พรหมจรรย์ ร้อยเวร สภ.สิชล ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายที่กระท่อมนากุ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบเพียงขวดพลาสติกบรรจุน้ำมัน และเสื้อกับกางเกงขาสั้นที่ถูกไฟไหม้ตกอยู่ใกล้กับกระท่อมที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือนางนิสารัตน์ เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ช่วยนำส่งร.พ.ไปก่อนแล้ว

ตำรวจสอบปากคำเพื่อนสนิทนางนิสารัตน์ ให้การว่า ผู้บาดเจ็บทำงานขายไอศกรีมยี่ห้อหนึ่งในตลาดสิชล ร่วมกับนายจารุฒน์ สามี แต่ทั้งคู่ชอบทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะสามีเป็นคนขี้หึง ล่าสุดรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือทำให้ฝ่ายหญิงเก็บเสื้อผ้าหนีมาอยู่ที่กระท่อมเกิดเหตุที่เป็นของเพื่อน ต่อมานายจารุฒน์ตามมาง้อขอคืนดี แต่นางนิสารัตน์ยืนกรานว่าต้องการเลิกรา ทำให้นายจารุฒน์เดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์สูบน้ำมันออกมาสาดใส่ภรรยาแล้วจุดไฟเผาก่อนหลบหนีไป ต่อหน้าต่อตาเพื่อนของฝ่ายหญิง หลังคนร้ายหนีไปแล้วเพื่อนจึงช่วยพาคนเจ็บส่งร.พ.

พ.ต.อ.โชคดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ให้พนักงานสอบสวนไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม หากนายจารุฒน์ยังไม่มามอบตัวก็จะขอหมายจับจากศาล และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว

ที่มา ข่าวสด