จับ 2 หนุ่มแสบ อ้างตัวเป็นทหาร-ตำรวจ ลวงพยาบาลสาวจนหลงเชื่อ สูญทั้งเงินทั้งรถ
ถึงขั้นเตรียมจัดงานแต่งงาน ก่อนเพื่อนๆ เห็นผิดสังเกต เลยสะกิด สภ.เมืองอุดรธานี ช่วยตรวจสอบ พบเป็นร.อ.เก๊ แค่คนเลี้ยงไก่ชนขายทางเว็บไซต์ แต่งเครื่องแบบต้มตุ๋นเหยื่อสาวมาแล้วกว่า 10 ราย ไม่เว้นแม้เด็กสาวม.6 สารภาพเลือกเหยื่อพยาบาล เพราะเห็นว่ามักชอบคนในเครื่องแบบ ส่วนร.ต.ท.หนุ่ม ที่แท้แอบขโมยเครื่องแบบลุง อดีตตร.ภาค4 มาแต่งหลอกสาวพยาบาล จนหลงเชื่อเตรียมจัดงานแต่งเดือนพ.ย.นี้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ก.ย. ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พล.ต.ธนกร จงอุตส่าห์ ผบ.มทบ.24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม พ.อ.ประกาศิต อรดี รอง ผบ.มทบ.24 พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส. ร่วมแถลงจับกุมนายสันทัศน์ อุผำ อายุ 36 ปี หรือผู้กองต้น อยู่บ้านเลขที่ 198 หมู่ 15 ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางชุดเครื่องแบบทหารบกประดับยศร้อยเอก 1 ชุด บัตรประจำตัวข้าราชการทหารปลอม 1 ใบ รถยนต์มาสด้า 2 สีขาว ทะเบียนจังหวัดหนองคาย 1 คัน
และนายทัตเทพ ครองยุติ อายุ 25 ปี หรือผู้หมวดโอม อยู่บ้านเลขที่ 38/10 ถนนศรีสุข ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางชุดเครื่องแบบตำรวจ ประดับยศร้อยตำรวจโท 1 ชุด นามบัตรระบุชื่อร.ต.ท.ทัตเทพ ครองยุติ ตำแหน่ง รองสว.สส.บก.ภ.4 ทำหน้าที่ปราบปรามสินค้าทางน้ำผิดกฎหมาย 1 ใบ หลังมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจหลอกลวงหญิงสาว
พล.ต.ต.ชัยญัติ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี ว่ามีชายแต่งกายคล้ายทหารยศร.อ. มาติดพันเพื่อนพยาบาลจนมีความสนิทสนมกัน จากนั้นขอยืมเงิน 5 หมื่นบาทโดยอ้างว่าจะนำไปโอนที่ดินแล้วไม่ยอมคืน ทำให้สงสัยว่าจะเป็นทหารปลอมเนื่องจากมีเพื่อนหลายคนเคยเห็นทหารคนนี้ ไปหลอกลวงหญิงสาวในลักษณะเดียวกันอีกหลายพื้นที่ โดยอ้างตัวเป็น ร.อ.ธนาวัฒน์ ศิลศิริ ตำแหน่ง ผบ.ร้อย ค่ายสีหราชเดโชไชย กรมทหารราบที่ 8 จ.ขอนแก่น จึงสั่งการให้พ.ต.ท.ชาญณรงค์ นำกำลังฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบจนกระทั่งพบว่า ชายคนที่อ้างตัวเป็นร.อ.ธนาวัฒน์ คือนายสันทัศน์ มีอาชีพเลี้ยงไก่ชนขายทางเว็บไซต์ และจับกุมได้ที่สถานขนส่งแห่งที่ 2 จ.อุดรธานี ขณะกำลังจะเดินทางไปหลอกลวงหญิงสาวทางภาคเหนือ เมื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักก็พบเครื่องแบบทหารบกติดยศร.อ.ซุกซ่อนอยู่ จากการสอบสวนยังพบด้วยว่าเมื่อปี 51 นายสันทัศน์ ยังหลอกหญิงสาวว่าสามารถฝากเข้ารับราชการทหารได้ทำให้สูญเงินไปคนละ 3 หมื่นบาท
ด้านพ.ต.ท.ชาญณรงค์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้หลอกหญิงสาวมาแล้วหลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นพยาบาล รายแรกเป็นพยาบาลอยู่ที่คลินิกเสริมความงามที่จ.หนองคาย อยู่กินกันนานกว่า 3 ปีต้องสูญรถยนต์เก๋งไป 1 คันพร้อมเงินสดอีกกว่า 1 แสนบาท อีกรายเป็นพยาบาลที่จ.อุดรธานี ถูกหลอกอยู่กินด้วยกันนาน 3 เดือนสูญเงินไป 5 หมื่นบาท รายล่าสุดเป็นนักเรียนชั้นม.6 อายุเพียง 17 ปีคบหากันนาน 1 ปี โดยหลอกว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะมาสู่ขอ นอกจากนั้นยังไปหลอกลวงแม่ค้าขายพริกที่โคราช อยู่กินนาน 2 ปี และสาวโรงงานที่จ.กาฬสินธุ์ รายนี้มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบปัจจุบันแยกทางกันแล้ว รวมแล้วมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ราย สูญเสียทรัพย์สินรวมกันมากกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความ เพราะเกิดความอับอาย
นายสันทัศน์ รับสารภาพว่า เรียนจบแค่ชั้นปวส.ที่กรุงเทพฯ แต่เรียนรด.จบชั้นปี 5 ได้ยศว่าที่ร.ต. จากนั้นหาซื้อเครื่องแบบทหารมาติดยศร.อ. แล้วออกหลอกลวงหญิงสาวเพื่อหาเงินใช้และยังได้หลับนอนอยู่กินอย่างสบาย ส่วนที่เลือกจีบสาวพยาบาลเพราะเห็นว่ามักชอบคนในเครื่องแบบ เวลาขับรถเก๋งผ่านด่านตรวจก็จะทำทีเป็นจอดแวะตรวจความเรียบร้อยและดื่มกาแฟ เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับสาวๆ ถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นทหารจริง
พ.ต.ท.ชาญณรงค์กล่าวต่อว่า ส่วนนายทัตเทพ มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังได้รับแจ้งจากพยาบาลสาวโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขอให้ช่วยตรวจสอบชายที่แต่งกายเป็นตำรวจยศร.ต.ท. ที่กำลังจะแต่งงานกับเพื่อนพยาบาลในเดือนพ.ย.นี้ เพราะไม่เชื่อว่าเป็นตำรวจจริง ฝ่ายสืบสวนจึงไปตรวจสอบที่ลานจอดรถภายในโรงพยาบาล พบรถยนต์ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กพ 4469 อุดรธานี ภายในรถมีชายสวมเครื่องแบบตำรวจยศร.ต.ท.นั่งอยู่จึงเข้าสอบถาม โดยนายทัตเทพ อ้างว่าตัวเองชื่อหมวดโอม หรือ ร.ต.ท.ทัตเทพ ครองยุติ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 66 แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบในสารบบตำรวจ จึงนำตัวไปสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่า เครื่องแบบตำรวจเป็นของลุงที่เคยเป็นตำรวจในสังกัดบช.ภ.4 ซึ่งได้ขโมยเอามาสวมใส่เพื่อใช้หลอกหญิงสาว รายล่าสุดเป็นพยาบาลสาวที่คบหากันมานาน 3 ปีและมีกำหนดจะแต่งงานกันในเดือนพ.ย.นี้ โดยได้เตรียมงานและถ่ายรูปพรีเวดดิ้งชุดแต่งงานที่ตนสวมเครื่องแบบตำรวจเต็มยศกันไว้แล้วด้วย จนกระทั่งถูกจับในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายสันทัศน์ แต่งเครื่องแบบทหารที่ทหารยังคงใช้ในราชการอยู่ โดยไม่มีสิทธิจะแต่งได้โดยชอบด้วยกฎหมาย พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 18 ปี ฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ส่วนนายทัตเทพ แจ้งข้อหาแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ์ หากพบว่าเคยก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อจนสูญเสียทรัพย์สินอีกก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment