Thursday, September 15, 2016

สยองอุดรฯฆ่าหั่นศพ! หนุ่มใหญ่คากระท่อมกลางนา แขน-ขายัดถังน้ำลำตัวซุกถุงปุ๋ย ตร.มุ่งปมมรดกเลือด

 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.ท. พิทักษ์ วาปีทะ สารวัตร สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุฆ่าหั่นศพที่กระท่อมไร่อ้อย ท้ายหมู่บ้านโนนสวรรค์ ถนนโนนสวรรค์ -โคกสะอาด ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สมโภชน์ ประจิตร รอง ผกก.สส.ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้า สภ.ห้วยหลวง นายวัชรินทร์ สุตลาวดี นายอำเภอเมืองอุดรธานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุ พบเป็นกระท่อมทำด้วยไม้ยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ห่างจากหมู่บ้าน 1 กิโลเมตร มีชาวบ้านประมาณ 100 คน มุงดูอยู่ ในครัวพบร่างของนายปัญญา ทองศรี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 4 บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เสียชีวิตแล้วร่างถูกหั่นแยกชิ้นส่วน ท่อนแขนที่ตัดจากหัวไหล่ และขาถูกตัดบริเวณหัวเข่า ใส่อยู่ในถังน้ำพลาสติก 20 ลิตร สีน้ำเงิน วางอยู่ที่เสาใต้ถุนกระท่อม ส่วนศีรษะและลำตัวสวมกางเกงขาสั้นอยู่ในถุงปุ๋ยข้างกัน


ในการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบถุงพลาสติกสีดำมีน้ำและเลือดบรรจุอยู่ วางอยู่ข้างท่อนไม้ในครัว ส่วนมีดพร้าวางอยู่ข้างถุงปุ๋ย และมีมีดทำครัวยาว 20 ซม. วางอยู่บนแคร่ ห่างไปเล็กน้อย บนกระท่อม พบที่นอนมุ้งยังกางอยู่ ในหวดนึ่งข้าวพบข้าวเหนียวยังอุ่นอยู่บนเตาไฟ พบร่างของผู้ตายถูกฆ่าแล้วหั่นเป็นชิ้นอย่างโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกหั่นมาวางต่อกัน นอกจากนี้ ยังพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อแอลเอ สีแดง จอดอยู่หน้ากระท่อม คาดว่าเป็นรถของคนร้าย ส่วนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิ๊ก สีแดงขาว ทะเบียน 1กข 7659 อุดรธานี ของผู้ตายหายไป


จากการสอบสวน นายธีระยุทธ พรมขาว อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 45 /1 หมู 7 บ้านหนองโอน ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อนผู้ตายและพบศพคนแรก ให้การว่า ทุกวันจะเข้ามาพูดคุยกับผู้ตาย พร้อมกับนำกระดูกไก่มาให้สุนัขของผู้ตายที่พึ่งคลอดลูก ซึ่งตนขอลูกสุนัขไว้ 2 ตัว เพื่อนำไปเลี้ยง ส่วนช่วงเย็นตนจะนั่งดื่มสุรากับผู้ตายในช่วงเย็นทุกวัน แต่ช่วงนี้ผู้ตายไม่ดื่มสุรา เพราะเป็นช่วงเข้าพรรษา จึงไม่ได้มาหาผู้ตาย ในช่วงเช้าวันนี้ตนมาหาผู้ตายตามปกติ และเห็นผ้าห่มผ้าจัดวางคล้ายคนนอนอยู่ในมุ้ง จึงร้องปลุกให้ผู้ตายตื่น แต่ไม่มีเสียงตอบ ตนจึงเดินเข้าไปในครัว ก็พบชิ้นส่วนแขนขาวางอยู่ในถังพลาสติก ตนถึงกับช็อกและขี่รถจักรยานยนต์ ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ

ส่วนนายทองปาน ทองศรี อายุ 45 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายมีครอบครัวแล้ว แต่ภรรยาไปทำงานที่เกาหลี 7 ปี ส่วนลูกชาย 2 คนไปทำงานที่ไต้หวัน 2 ปี เพื่อหาเงินใช้หนี้ ธกส. 6 แสนบาท ส่วนผู้ตายมานอนเฝ้าไร่อ้อย ที่พ่อตาแบ่งที่ดินให้ภรรยาผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก 50 ไร่ เพราะภรรยาและลูกผู้ตายส่งเงินเลี้ยงดูพ่อตา จึงได้รับมรดกมากกว่าลูกเขยคนอื่นอีก 4 คน แต่ช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ตายทะเลาะมีปากเสียงกับพ่อตา เพราะพ่อตาไม่พอใจที่ผู้ตายชอบพาเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าที่บ้าน และไม่ทำงานหรือประกอบอาชีพอย่างจริงจัง รอใช้เงินที่ภรรยาและลูกส่งมาให้ใช้เดือนละ 8,000 บาท ผู้ตายจึงแยกตัวออกมาอยู่ที่กระท่อมที่เกิดเหตุ ห่างจากบ้านพ่อตาประมาณ 5 กิโลเมตร และจะนำเงินที่ภรรยาฝากไปให้พ่อตาประจำ และผู้ตายเคยบ่นให้ฟังเรื่องญาติภรรยาไม่พอใจที่ครอบครัวตนได้มรดกเยอะกว่าญาติพี่น้อง

ด้าน นายสุวัฒน์ เหล่าเจริญ ผญบ.โนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จงอุดรธานี ให้การว่า ตั้งแต่ผู้ตายมาอยู่ที่กระท่อมไร่อ้อย ไม่เคยมีปัญหาหรือทะเลาะวิวาทกับคนในหมู่บ้าน เพราะผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ใจเย็น ไม่ทำตัวเป็นนักเลง และเมื่อเดือนมิถุนายน ตนพบผู้ตายนอนซมอยู่บนกระท่อมคนเดียว จึงสอบถามผู้ตายเล่าให้ฟังว่า ขณะที่นำเงินที่ภรรยาฝากไปให้พ่อตาที่บ้าน ถูกญาติภรรยาทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ แต่ผู้ตายไม่ได้บอกว่าใครทำร้าย และไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี จึงไม่ทราบว่าใครทำร้าย


พ.ต.อ.ชวิศ กล่าวว่า เหตุในครั้งนี้สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิด หรือญาติเข้ามาฆ่าผู้ตายในเวลาเช้ามืด ขณะที่ผู้ตายตื่นขึ้นมาหุงหาอาหาร โดยใช้มีดพร้าฟันศีรษะด้านหลังจนล้มลง แล้วฟันซ้ำหลายครั้ง จนกะโหลกเปิดสมองไหลออกมา แล้วหั่นศพผู้ตายเพื่อนำไปทิ้งอำพราง แต่คาดว่าจะมีชาวบ้านผ่านไปทำไร่ทำนา ทำให้คนร้ายทิ้งศพแล้วขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป

จากการสืบสวน ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ที่ขัดแย้งเรื่องมรดกของภรรยา เพราะภรรยาผู้ตายซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้อง ได้รับมรดกเป็นที่ดิน 50 ไร่ มากกว่าพี่สาวอีก 3 คน แต่ไม่ตัดเรื่องทะเลาะวิวาท ธุรกิจมืด ซึ่งมีน้ำหนักน้อยมาก จึงมุ่งไปที่ปมมรดกมากกว่า ซึ่งจะต้องผลตรวจดีเอ็นเอจากศพ และกล้องวงจรปิดที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ภาพ มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ที่มา ข่าวสด

0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets