น.ศ.หนุ่มฉุนน.ศ.สาว แอบนำทองไปขายช่วยประกันแฟนเก่า เลยบีบคอฆ่า-ลากศพฝังในป่า

 

 จากกรณีน.ส.พรธิดารัตน์ ศรีวิเชียร อายุ 23 ปี ชาวอ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง หายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายขณะไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่ค่ายทหารในต.กะปาง อ.ทุ่งสง จากนั้นได้ขี่รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว ทะเบียน กข-6717 พิจิตร ออกจากค่ายและได้โทรศัพท์หามารดาบอกว่ากำลังจะไปขึ้นรถตู้เพื่อกลับบ้านที่อ.ลานสกา แต่ไม่ถึงบ้านได้หายตัวไปนานกว่า 10 วัน ทำให้พ่อแม่ของน.ส.พรธิดารัตน์ ออกตามหา แต่ติดต่อไม่ได้ จึงเข้าแจ้งความที่สภ.กะปาง และสภ.ทุ่งสง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกตามหาตัว กระทั่งเจ้าหน้าที่พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือครั้งสุดท้ายอยู่ที่ ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จึงทำการสืบสวนสอบสวนและทราบว่าสถานที่จับสัญญาณได้นั้นเป็นระแวกบ้านแฟนหนุ่มของน.ส.พรธิดารัตน์ฯ นั้นเอง


 ต่อเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ก.ค. พ.ต.อ.คมสัน พฤศวานิช ผกก.สภ.ทุ่งสง พร้อมกับพ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รองผกก.ป. นำกำลังออกตรวจหอพักบริเวณมหาวิทยาลัยชื่อดัง พบวัยรุ่นกำลังเสพน้ำต้มใบพืชกระท่อมกันอยู่ จึงเข้าทำการจับกุมตัวได้ 1 คน คือนายทัตพงศ์ พรหมชัยศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/2 ม.7 ต.กะแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษาปี 4 ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ฝึกงานเตรียมจบการศึกษาอยู่ที่บริษัทรถยนต์แห่งหนึ่งในอ.ทุ่งสง และนำตัวมาสอบสวนพบว่าเป็นแฟนของน.ส.พรธิดารัตน์นั่นเอง

 ขณะที่ตำรวจทำการสอบปากคำ ปรากฏว่านายทัตพงศ์มีท่าทางพิรุธ จึงสอบเค้นตั้งแต่หัวค่ำช่วงเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน ปรากฏว่านายทัตพงศ์ยอมปริปากให้การว่าเป็นคนลงมือฆ่าน.ส.พรธิดารัตน์ แฟนสาว เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากไม่พอใจที่น.ส.พรธิดารัตน์ เอาสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ไปจำนำเพื่อเอาเงินไปประกันตัวแฟนเก่า ทำให้โกรธแค้นเป็นอย่างมาก กระทั่งวันที่ 3 ก.ค. รู้ว่าน.ส.พรธิดารัตน์ฯ ไปเยี่ยมแฟนคนที่โดนคดีที่ค่ายทหาร จึงได้ตามไปดักรอแล้วพาน.ส.พรธิดารัตน์ ไปบ้านที่อ.ทุ่งใหญ่ โดยพยายามพูดจาเคลียร์ปัญหากันเรื่องดังกล่าว แต่ตกลงกันไม่ได้และยังบอกเลิกคบกันอีกด้วย ทำให้เกิดความแค้นเป็นอย่างมาก จึงทำร้ายแล้วบีบคอจนน.ส.พรธิดารัตน์ แน่นิ่งไป โดยมีเลือดออกจากปากและจมูก จึงคิดว่าเสียชีวิตแน่แล้ว จากนั้นจึงลากศพที่ไร้วิญญาณไปขุดหลุมฝังไว้ในป่าไผ่ข้างบ้าน โดยไม่มีใครทราบ หลังจากนั้นก็ได้กลับไปฝึกงานตามปกติที่บริษัทรถยนต์ในตัวอำเภอทุ่งสง กระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับกุมขณะเสพน้ำต้มใบพืชกระท่อม

 ต่อมาเวลา 06.30 น.วันที่ 16 ก.ค. พ.ต.ท.โชคคดี ศรีเมือง รองผกก.สภ.ทุ่งสง พร้อมพ.ต.ต.ปฏิวัติ ขุนรัง สว.สส.สภ.ทุ่งสง ได้ประสานงานพ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ นำตัวผู้ต้องหาไปขุดหาศพน.ส.พรธิดารัตน์ ที่ ม.7 ต.กะแหระ อ.ทุ่งใหญ่ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่หลายสิบนายเข้าตรึงสถานการณ์อย่างแน่นหนา และเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุนายทัตพงศ์ได้ชี้จุดฝังศพ ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ้งมาทำการขุดศพจนเจอ ซึ่งพบว่าอยู่สภาพพองอืด ไม่สามารถจำสภาพเก่าได้ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก

 จากนั้นพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมสอบสวน ก่อนจะรีบนำตัวนายทัตพงศ์ ออกจากที่เกิดเหตุเพื่อสอบปากคำเพิ่ม เพราะเกรงว่ามีชาวบ้านมามุงดูกันเป็นจำนวนมาก เกรงว่าชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์ได้ ส่วนสาเหตุมาจากความหึงหวงที่ น.ส.พรธิดารัตน์ ยังคบกับแฟนเก่าอยู่ ทำให้นายทัตพงศ์ โกรธแค้นจึงก่อเหตุสยองดังกล่าว สำหรับนายทัตพงศ์ ผู้ต้องหารายนี้ยังมีคดีพยายามฆ่าถึง 2 คดี ในพื้นที่อ.ทุ่งสง ซึ่งตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับอยู่ แต่มาก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในครั้งนี้ขึ้น

ที่มา ข่าวสด