Wednesday, July 13, 2016

บุกจับยาลดอ้วน BASCHI ปลอมยกร้านกลางเมืองอุดรฯ ชี้คนกินเสี่ยงอันตรายถึงเสียชีวิต

 

วันที่ 14 ก.ค.59 นายชัยพิบูล ตระกูลบุญ ผู้รับมอบอำนาจ จาก บริษัท คามิซาม่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BASCHI ที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้เข้าร้องเรียนกับ พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี กรณีมีผู้ลอกเลียนแบบสินค้าของทางบริษัทฯ และนำสินค้าปลอมแปลงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพปลอมปนเข้าไปขายในนามของสินค้าบริษัท ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย หลังลูกค้าร้องเรียนไปยังทางบริษัทว่า ซื้อสินค้าไปใช้แล้วไม่ได้ผล แถมยังมีผลข้างเคียง ไม่มีตรา อย. เมื่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท ได้ตรวจสอบกล่องผลิตภัณฑ์สินค้า ก็พบว่าเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะสินค้าสมุนไพรแคปซูล ลดน้ำหนัก ซึ่งมีวางจำหน่ายตามร้านจำหน่ายเครื่องสำอางและยาลดความอ้วนในตลาดเมืองอุดรฯหลายแห่ง


จากนั้น พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ จึงได้พร้อมด้วย พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ ,ร.ต.ท.ทรงเกียรติ ขันธ์เขต ,ร.ต.ท.ไกรวัลย์ พิทักษ์วาปี ,ร.ต.ต.สุนทร ชุดชนบท และกำลังชุดสืบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคามิซาม่า (ประเทศไทย) จำกัด รุดไปร่วมตรวจสอบสินค้าดังกล่าวในตลาดกลางเมืองอุดรฯ แต่พบว่ามีหลายร้านที่ปิดร้าน หลังทราบข่าวก่อนว่า จะมีการมาตรวจจับลิขสิทธิ์สินค้าลอกเลียนแบบ ต่อมาเข้าตรวจสอบที่ร้าน เมนี่เมกอัพ ภายในศูนย์การค้าตลาดผ้าโบ๊เบ๊ ถ.รอบเมือง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี พบว่ามีการวางจำหน่ายอาหารเสริมลดน้ำหนัก กล่องเหล็กสีชมพูยี่ห้อ BASCHI(บาชิ) จำนวน 42 กล่อง และกล่องสีส้ม จำนวน 41 กล่อง รวม 83 กล่อง จึงคุมตัว น.ส.สุภารัตน์ กงบุราณ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/6 ม.5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของร้านไปดำเนินคดี

ถัดมาเข้าตรวจสอบที่ร้าน นานา บิวตี้ ในศูนย์การค้าเดียวกัน พบครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อ BASCHI (บาชิ) จำนวน 17 กล่อง จึงคุมตัว น.ส.ณัฎฐภรณ์ วงศ์จันทร์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 ม.20 ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พนักงานดูแลร้านไปสอบสวนดำเนินคดี โดยเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า มีคนนำสินค้าลอกเลียนแบบมาส่งให้ขายได้กำไรดีกว่าสินค้าตัวจริง จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีในข้อหา “ขาย เสนอขาย มีไว้เพื่อขาย สินค้าที่นำชื่อรูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า หีบห่อ วัตถุที่ใช้หุ้มห่อ เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของผู้อื่น” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets