ตร.ค้นคลินิกทำฟัน เจอหมอเถื่อน-เป็นน.ศ.สาวทันตแพทย์เรียนปี 8 กำลังทำฟัน-จัดฟัน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ต.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วยพ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รองผกก.สส.สน.บางเขน พ.ต.ท.ธิติ พันธ์สวัสดิ์ สวป.สน.บางเขน นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นคลินิกทันตกรรม เด็นทัลวันคลินิก เลขที่ 76/52 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงอนุเสวรีย์ เขตบางเขน กทม. ภายหลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้เข้ามาใช้บริการว่าภายในสถานที่ดังกล่าวมีการใช้บุคลากรที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ และไม่มีใบประกอบโรคศิลปะมาให้บริการ อีกทั้งผู้รักษาไม่ตรงกับรูปทันตแพทย์ที่ติดแสดงไว้ที่ด้านหน้าห้องตรวจ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น โดยชั้นล่างเปิดเป็นคลินิกทันตกรรม มีห้องตรวจ 2 ห้อง ส่วนบริเวณชั้นที่ 2 เป็นออฟฟิต เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นเลขที่ ค.53/2559 จากศาลแขวงพระนครเหนือ ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ก่อนร่วมกันเข้าตรวจค้นพบแพทย์ไม่มีใบอนุญาต 1 ราย และพนักงานจำนวน 4 ราย โดยไม่พบผู้แสดงตนเป็นเจ้าของคลินิกแม้แต่อย่างใด
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าว มีแพทย์หญิงกฤษณีย์ พรธิติเนศ เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาล โดยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 49 ซึ่งขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และดำเนินการสถานพยาบาลถูกต้องตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาลพ.ศ.2541 แต่กลับนำทันตแพทย์เถื่อนทราบชื่อต่อมาคือน.ส.ภัคธีมา เสนคำสอน อายุ 28 ปี เป็นนักศึกษาคณะทันตแพทย์ปีที่ 8 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มาให้บริการทำฟันที่คลินิกในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งออกใบรับรองแพทย์ให้ประชาชนในนามของทันตแพทย์หญิงกฤษณีย์ ส่วนในวันจันทร์-ศุกร์ จะไปเรียนที่คณะทันตแพทย์ตามปกติ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติจากคณบดีพบอีกว่า มีพฤติการณ์รับงานนอกอยู่เป็นประจำประกอบด้วยทำฟัน จัดฟัน ขูดหินปูนตามคลินิกทันตกรรมอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ด้านนายแพทย์ภัทรพล กล่าวว่า ขอเน้นย้ำให้ทางแพทย์ทันตแพทย์ และสถานพยาบาลทุกแห่งควรปฏิบัติตามกฎหมายสถานพยาบาลพ.ศ.2541 เรื่องสถานที่ เครื่องมือ และเวชภัณฑ์ต้องได้มาตรฐานปลอดภัย หากผู้ใดฝ่าฝืนกรมสบส. จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที โดยประชาชนสามารถสังเกตสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานได้จากหลักฐาน 5 ประการ ประกอบด้วยป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต 13 หลักติดอยู่ที่หน้าสถานพยาบาล, มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และดำเนินการสถานพยาบาลที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุข, มีป้ายชื่อ สกุล รูปถ่ายของแพทย์ ทันตแพทย์ ที่ตรวจรักษา พร้อมกับใบอนุญาตการประกอบโรคศิลปะของแพทย์รายนั้นติดหน้าห้องตรวจ โดยรูปต้องตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น, มีหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปีปัจจุบัน และแสดงอัตราค่ารักษา สอบถามราคาได้ หากมีหลักฐานไม่ครบถ้วนตามที่กล่าวมาเบื้องต้นแสดงว่าไม่ได้มาตรฐานและขอให้แจ้งที่เฟซบุ๊กมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือเฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ หรือสายด่วน 02-193-7999 ปัจจุบันกรมสบส.ขึ้นทะเบียนคลินิกทันตกรรมทั่วประเทศจำนวน 4,276 แห่ง อยู่ในพื้นที่กทม. จำนวน 1468 แห่ง ต่างจังหวัด จำนวน 2808 แห่ง มีด้วยกัน 3 ประเภทแบ่งเป็นคลินิกทันตกรรมทั่วไป 4171 แห่ง คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง 73 แห่ง และคลินิกทันตกรรมชั้นสอง 32 แห่ง
ส่วนพ.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานงานมาจากทางกรมสบส. ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบเพียงน.ส.ภัคธีมา ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม แต่อ้างตนเป็นหมอทันตกรรม และพนักงาน โดยไม่พบทันตแพทย์หญิงผู้เป็นเจ้าของสถานที่ หลังจากนี้จะนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ปคบ. และจะให้เจ้าของสถานที่เข้ามาพบ พร้อมทั้งนำหลักฐานต่างๆเข้ามาแสดงต่อทางเจ้าพนักงาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาน.ส.ภัคธีมา
ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาตตามพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรมพ.ศ.2537 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะดำเนินคดีกับทางแพทย์หญิงกฤษณีย์ ในข้อหาปล่อยผู้อื่นที่ไม่ใช่ทันตแพทย์มาดำเนินการแทน ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment