รวบขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด ยาบ้า 1.6 แสนเม็ด ยาไอซ์ มูลค่ารวม 68 ล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พร้อมด้วยนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดรวม 2 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย พร้อมของกลางยาบ้า รวม 82 มัดเศษ จำนวน 165,400 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 10 กิโลกรัม และอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 68,080,000 ล้านบาท
โดยคดีแรกผู้ต้องหาคือนายอานุภาพ หรือโหน่ง ปั้นคุ้ม อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.2 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 82 มัดเศษ รวม 165,400 เม็ด รถยนต์ จำนวน 1 คัน กระเป๋าสะพายสีดำ และกระเป๋าเดินทางแบบหิ้ว รวม 2 ใบ ตะกร้าหวาย แบบมีหูร้อยเชือก 1 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ปั้มน้ำมันปตท. ต.ม่วงหมู อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,400 เม็ด ก่อนขยายผลไปตรวจค้นเพิ่มเติมภายในบ้านพักเลขที่ 17 หมู่ 12 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พบยาบ้าอีก 164,000 เม็ด เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ศรภ.ชุด (ข่าว) ปส. และกก.ตชด.13 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายโหน่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายของผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในเรือนจำเขาบิน ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัวออกมาจากเรือนจำลพบุรี ยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ให้กับกลุ่มผู้ค้าในเขตพื้นที่จ.ลพบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง จึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่อำพรางติดต่อล่อซื้อจนกระทั่งในวันเกิดเหตุ นายโหน่ง นำยาบ้า จำนวน 1,400 เม็ด มาส่งมอบให้ตามจุดที่นัดหมายกันไว้จึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักหลังดังกล่าวได้ยาบ้าอีกเพิ่มเติมอีก จำนวน 58 มัด ประมาณ 164,000 เม็ด โดยซุกซ่อนอยู่ในบ่อเกรอะข้างบ้านพักของผู้ต้องหาจึงตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า คดีสุดท้ายผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ประกอบด้วยนายนภัสกร หรือภูมิ เพียงแร่ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.1 ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นายวิชัย หรือเค เว่ยซือกู่ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 ม.1 ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย นายสนั่น หรือหนั่น ปรีดีประเสริฐศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/7 ม.1 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายสมพันธ์ ลองใจคำ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 ม.1 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นางผอง ลองใจคำ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 ม.1 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และนางลอน ใจวรรณ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 ม.1 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 10 กิโลกรัม บัตรเอทีเอ็ม สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 7 เล่ม เอกสารการเปิดห้องพักของโรงแรม รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวนายนภัสกร ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมชื่อดังย่านห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. ก่อนขยายผลจับกุมนายวิชัยและนายสนั่น ได้ที่ภายในห้องพักเลขที่ 740 ของโรงแรมย่านห้วยขวาง ซอยเนียมอุทิศ ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. และผู้ต้องหาที่เหลือได้บริเวณบ้านเลขที่ 371 หมู่ที่ 3 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่กก.1บก.ปส.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ศรภ.ชุด (ข่าว) ปส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดนำมาพักไว้ในเขตพื้นที่ กทม. เพื่อจะนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้แฝงตัวเป็นไกด์นำเที่ยว ก่อนมาทราบภายหลังว่าทนายนภัสกร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวเขารายใหญ่ ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ยังคงมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาไอซ์ จึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่อำพรางเข้าติดต่อล่อซื้อจำนวน 10 กิโลกรัม จนกระทั่งในวันเกิดเหตุนายนภัสกร ได้นำของกลางมาส่งมอบให้ตามสถานที่ที่นัดหมายดังกล่าว จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัว ก่อนขยายผลจับกุมนายวิชัย และนายสนั่น ซึ่งรอรับเงินค่ายาเสพติดภายในห้องพักของโรงแรมดังกล่าว จากนั้นนายสนั่น ให้การซัดทอดขยายผลจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดซึ่งเป็นเจ้าของยาไอซ์ ได้ขณะรอรับเงินค่ายาเสพติดได้บริเวณบ้านพัก หมู่ที่ 3 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ก่อนตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
ด้านพล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสั่งการให้ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงต่างๆที่ดูแลรับผิดชอบ เรื่องหามาตราการนำผู้เสพมาบำบัด ทั้งนี้ ทั่วโลกจำนวน 193 ประเทศร่วมเข้าประชุมกันที่ประเทศอเมริกาโดยมีข้อสรุปว่า ให้ล้มเลิกการทำสงครามกับยาเสพติดและหันมาดูแลผู้เสพแทนรวมทั้งหาแนวทางการแก้ไขที่ยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้มีแนวโน้มความคิดให้นำผู้เสพในประเทศไทยเข้ากระบวนการบำบัดซึ่งมีแนวทางให้กระทรวงสาธารณะสุขและอย. ผลิตตัวยาลดอาการอยากยาเสพติดแต่ต้องอยู่ในความควบคุมหากไม่มีผู้เสพก็ไม่มีผู้ค้าอย่างแน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบก.ปส.3 บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทั้งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment