เจออีก 8 ศพ!ถูกเผานั่งยางในสุสานป่าบ้านผือ เก็บกระดูกส่งนิติเวช-ตรวจดีเอ็นเอเทียบ

จากกรณี ผบช.ภ.4 นำทีมนักสืบลงพื้นที่อุดรธานี ตรวจที่เกิดเหตุป่าเชิงเขาบ้านคำบอนเวียงชัยอ.บ้านผือ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่าถูกแก๊งคนมีสีอุ้มรีดเงิน และน่าจะเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าแล้วเผานั่งยาง ในจุดเดียวกับที่มีการพบศพเศรษฐินีเงินกู้ วัย 52 ปี ถูกอุ้มฆ่าแล้วเผานั่งยางเมื่อเดือนมิ.ย.57 แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ จากการตรวจสอบ พบหลักฐานรอยยางรถถูกเผารวมกับซากเศษกระดูก และโทรศัพท์มือถือ รวม 15 จุด ในบริเวณชายป่าเดียวกัน แต่เป็นรอยเก่านานมาแล้ว รอยใหม่สุดน่าจะเป็นจุดเผาเมื่อมิ.ย.57 จน ผบก.สส.ภ.4 สั่งทีมสืบสวนเริ่มรื้อคดีใหม่ ตั้งจุดรับแจ้งคนหายย้อนหลังไปในคดีที่ยังไม่หมดอายุความ เพื่อเปรียบเทียบกับจุดฆ่าเผาที่ต้องสงสัย ใครมีหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับคนหายและคนต้องสงสัยในทีมอุ้มฆ่า ให้เข้าให้ข้อมูล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เม.ย. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พรชัย บุญรอด ผกก.สภ.บ้านผือ นำกำลัง ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวน สภ.บ้านผือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวม 50 คนออกไปตรวจสอบบริเวณฆ่าเผานั่งยาง ณ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) บ้านคำบอนเวียงชัย หมู่ 3 ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จากเดิมที่ตรวจสอบไปแล้ว 2 ไร่ วันนี้ตรวจเพิ่มอีก 3 ไร่ รวมเป็น 5 ไร่ โดยมีนี้ นายสมร วงศ์เวียน 65 ปี นายกอบต.หนองแวง อ.บ้านผือ และนายสุจริต อาณารักษ์ อายุ 38 ปี กำนันตำบลหนองแวง อ.บ้านผือ พร้อมชาวบ้านในพื้นที่นำน้ำดื่มมาให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่

เมื่อไปถึง พล.ต.ต.พีระพงศ์ ได้เรียกระดมกำลังพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัคร กระจายกำลังกันออกไปโดยรอบพื้นที่ ขยายบริเวณกว้างออกไปเพื่อหาจุดที่จะพบเพิ่มเติม จากที่ได้พบก่อนหน้านี้
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายกำลังกันออกไปโดยรอบบริเวณนี้ ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางพ.ต.อ.พรชัย ผกก.บ้านผือ ก็นำกำลังออกมาตรวจดูโดยรอบแล้ว ก็พบว่ามีเพิ่มอีก 5 จุด ซึ่งก็ได้บอกกับชาวบ้านที่ออกมาหาเห็ดหาของป่า ว่าถ้าพบตรงไหนก็ให้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบด้วย ส่วนชิ้นส่วนของกระดูกที่ได้แล้วก็จะนำไปที่นิติเวช กทม.ในวันพรุ่งนี้ เพราะเครื่องมือเขาพร้อมกว่าของเราก็ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะกระดูกมันก็เนิ่นนานแล้ว
พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการแจ้งคนหายมีเพิ่มมาอีก หลังจากที่เมื่อวานนี้มี 2 รายแล้วต่อมาก็มีเพิ่มอีกราย รวมเป็น 3 รายแล้ว ก็ให้รายละเอียดมาเยอะ มีที่ไกลสุดอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุถึง 200 กม.และอีกส่วนหนึ่งตำรวจเราควานหาเอง รื้อคดีเก่าๆ ที่ญาติแจ้งไว้ว่าคนหายตัวไปอย่างไร ในการรื้อในที่นี้คือรื้อเรื่องเก่าๆ ที่เป็นทั้งคดีและไม่เป็นคดี รื้อเรื่องเก่าๆ ที่คนหายไปทั้งที่เป็นคดีและไม่เป็นคดีที่ญาติมาแจ้งไว้ เหตุที่คนร้ายใช้จุดนี้เป็นที่เผานั่งยางนั้น ก็ด้วยตรงนี้เป็นจุดที่อยู่ห่างไกลชาวบ้าน เดิมถนนก็เป็นทางลูกรัง นี่ก็พึ่งจะลาดยางมาไม่นานนี้ คนร้ายจึงใช้ช่องว่างตรงนี้เป็นที่กระทำ
ส่วนที่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะให้ปากคำก็เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลหรือไม่นั้น ซึ่งส่วนนั้นอาจจะมีส่วนหนึ่ง แต่อารมณ์ร่วมสังคมไทย ตนก็คิดว่าคนที่ทำมีหลักจิตวิทยาบางอย่าง ประการแรกคือไกลผู้คน ประการที่ 2 มายิงทิ้งกันก็อาจจะหักหลังกันเองก็ได้ จะเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเราก็ไม่รู้ส่วนคดีนายดาบตำรวจที่ต้องคดีในเรือนจำกลางอุดรธานี ในคดีฆ่า จนท.คลัง อบต.แห่งหนึ่งนั้น จนท.ยังไม่เข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานพยานยืนยันเชื่อมโยง เราต้องหาพยานว่ามีจริงหรือไม่ ก็ตอบได้ว่ายังไม่มี เพราะว่าการฆ่าเผานั่งยางนี้ เราต้องมีข้อมูลตรงนี้ก่อน เราต้องเดินไปก่อน การสืบสวนต้องเดินคู่ไปกับนิติวิทยาศาสตร์ก่อนต้องได้ก่อนว่ามีจริงหรือไม่ เป็นศพใคร ถ้าไม่รู้ว่าใครแล้วเราจะทำอย่างไร ซึ่งมันต้องไปดูที่สาเหตุของการโกรธเคือง ต้องรู้ที่มาที่ไปก่อน เรื่องอย่างนี้เราจะไปใส่ความเขาไม่ได้ อย่างเขาทำในเคสหนึ่งแล้วจะไปเหมาว่า เขาจะไปทำเคสอื่นด้วยนั้นไม่ได้ ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องว่ากันที่พยานหลักฐาน
“ส่วนเคสของนางกุหลาบ นั้นเห็นมีคนบอกว่าลูกสาวที่เป็นแอร์โฮเตส จะมาพบแต่ทราบว่าตอนนี้อยู่ต่างประเทศจะกลับมาเร็วๆ นี้ ขณะนี้ข้อมูลเรามีเพียงนิดเดียว กระดูกก็ยังไม่ยืนยันว่าเป็นกระดูกของมนุษย์หรือไม่ทางวิทยาศาสตร์ แค่ผ่านตาว่าน่าจะเป็นมนุษย์ สำหรับที่เดินทางมาตรวจสอบที่มาตรวจสอบในวันนี้อีก ก็เพื่อทำให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้หายข้อสงสัยว่า มันยังมีอีกหรือไม่ บวกกับการตรวจสอบว่าแต่ละจุด ถ้ามันเกิดฆาตรกรรมตรงนี้มันอาจจะมีหัวกระสุนหรือปลอกกระสุนอีกหรือไม่ ส่วนที่ว่าผู้ต้องสงสัยนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ก็ตอบได้ว่ามีทั้งใช่ และไม่ใช่” พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าว
พ.ต.อ.พรชัย บุญรอด ผกก.สภ.บ้านผือ กล่าวว่า มีพนักงานสอบสวนคดีนี้ลงพื้นที่มา 3 ชุดๆ ละ 3 คน แบ่งกันดูแลชุดละ 5 จุด ถ้าพบเพิ่มเติมก็ให้แต่ชุดแบ่งกันไป ส่วนผู้ที่มาแจ้งคนหายว่า ในขณะนี้มีคนมาแจ้งแล้ว 3 รายแล้ว รายล่าสุดคือเมื่อวานนี้ได้มีนายประเสริฐ เหล่าโสภาพรรณ จาก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้โทรศัพท์แจ้งมาว่านายกมล เหล่าโสภาพรรณ อายุ 49 ปี ที่เป็นญาติได้สูญหายไปเมื่อปี 2551 หลังจากที่ไปร้องเรียนเรื่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วก็ถูกอุ้มหายไป ซึ่งเขาได้แจ้งเรื่องนี้ไปทางดีเอสไอแล้ว เนื่องจากคดียังไม่คืบและไม่พบศพ สำหรับในเรื่องนี้เราก็จะได้ขอตรวจสอบดีเอ็นเอก่อน ซึ่งในคืนวันนี้ตนก็จะนำชิ้นส่วนของกระดูกที่พบเพิ่มเติมในวันนี้ไปรวมกับของเก่านำไปตรวจสอบที่นิติเวช กทม.ต่อไป
ในขณะที่ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังตรวจสอบพื้นที่อยู่ก็ได้มี น.ส.สุภัทรศร ชินพัฒน์กุล อายุ 35 ปี กับนายบุญมี ถิ่นแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.8 ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู 2 พ่อลูกนำรูปถ่ายของนายคำปุ่น ถิ่นแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.8 ต.นาด่าน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เดินทางเข้ามาพบพร้อมกันนี้ น.ส.สุภัทรศร แจ้งว่า นายคำปุ่น ซึ่งเป็นอาของตนนั้น มีอาชีพรับจ้างติดตั้งไฟฟ้าตามบ้านเรือน เนื่องจากได้จบระดับ ปวส.จากวิทยาลัยเทคนิคหนองคายมาและเมื่อปี 2552 ได้มีชายคนหนึ่งได้มาติดต่อให้ไปซ่อมไฟฟ้าที่บ้านแล้วได้นำอาของตนขึ้นรถกระบะไป
จากนั้นอาของตนก็หายไปเลย และเมื่อมาทราบข่าวเรื่องการฆ่าเผานั่งยางที่นี้จึงได้นำพ่อและญาติๆ เดินทางมาตรวจสอบเพื่อดูว่ามีกระดูกของอาหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะนำไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ เชื่อว่าอาคงเสียชีวิตแล้ว ซึ่งในตอนวัยเด็กตนกับญาติเคยได้มาทำสวนในบริเวณใกล้ๆ กับป่าแห่งนี้ ในตอนกลางคืนก็ได้ยินเสียงปืน แล้วในตอนเช้าก็จะได้กลิ่นยางไหม้ไฟ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีของชาวบ้านรู้ดีว่าเป็นป่าช้าคนเก่ง
พ.ต.อ.วิธ กล่าวว่า ก็ได้แจ้งให้ น.ส.สุภัทรศรให้ทราบว่า ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามขั้นตอนก่อนว่า ในวันนี้ก็ทำการเก็บกระดูกแต่ละกองแล้วนำส่งทางนิติเวช กทม.แล้วอีก 2 สัปดาห์ จึงจะรู้ผลว่ากองไหนเป็นกระดูกของมนุษย์ แล้วจะได้ทำตรวจดีเอ็นเอไว้ ส่วนญาติๆ ก็ให้ตรวจดีเอ็นเอเตรียมไว้แล้วจึงนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของแต่กองว่า ตรงกันหรือไม่ต่อไป ส่วนการตรวจพื้นที่ในวันนี้เราได้พบจุดร่องรอยการเผาเพิ่มอีก 8 จุด ซึ่งมีเพียง 2 จุดที่มีกระดูกอยู่เล็กน้อย ส่วนอีก 6 จุดพบรอยไหม้ของลวดล้อรถ
นายสำลี กะโจม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 บ้านหนองแวง ต.หนองแวง อ.บ้านผือ ซึ่งมีบ้านใกล้บริเวณแห่งนี้กล่าวว่า สำหรับสถานที่แห่งนี้ในตอนกลางคืนไม่มีใครที่จะกล้าเข้ามา เพราะว่าเพียงเดินมาใกล้มันจะรู้สึกเย็นยะเยือก จนชาวบ้านทุกคนว่าเป็นที่ฆ่าพวกนักเลงแล้วนำมาเผานั่งยาง ซึ่งจะมีการเผาในตอนกลางคืน เช้ามาจะได้กลิ่นยางไหม้ และพึ่งมาเห็น และที่แปลกตามาประมาณ 1-2 ปี นี้คือการตั้งศาลเพียงตาที่บริเวณปากทางเข้าที่บริเวณนี้ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่เห็นมีมาก่อนเลย ก็เป็นที่แปลกตาของชาวบ้าน
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment