ภาพFBสาวเหยื่อฆ่าเผาโหดเชียงใหม่ โยงถึงตัวฆาตกร!! หลังรวบหนุ่มเคยฆ่าเหยื่อที่ระยอง
จากกรณีฆ่าเผาสาวจัดฟันหมกศพในป่า-พบเหรียญบาทโปรย!! หนุ่มหาปลาอึ้งเห็นศพ-สงสัยถูกข่มขืนฆ่า โดยเหตุเกิด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ส.ค.58 ที่ผ่านมา ท้องที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ในป่าละเมาะหมู่ 5 บ้านหนองแฝก ต.หนองแฝก อ.สารภี เชียงใหม่ ที่เกิดเหตุพบเป็นป่าละเมาะ ห่างจากถนนลูกรังเข้าไปจุดเกิดเหตุ ประมาณ 7 เมตร ในป่าไมยราบ เจ้าหน้าที่พบศพถูกไฟไหม้จนดำ แต่ยังคงเห็นเป็นรูปร่างมนุษย์ สภาพศพนอนหงาย มีหนอนไต่เกือบเต็มร่างศพ ที่ถูกไฟไหม้ไปเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ศพขึ้นอืดมีกลิ่นเหม็น พบยางรถยนต์ และกระป๋องพลาสติกใส่น้ำมัน ศพอายุประมาณ 20-25 ปี
โดยทางเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นหญิงสาว จัดฟันด้วยลวดสีเขียว สภาพศพไหม้เกรียมและขึ้นอืด โดยมีกล่องสี่เหลี่ยมคล้ายกระเป๋าหรือกล่องและราดน้ำมันเผา โดยมีรอยลากในเครือเถาวัลย์ยาวไปจนถึงศพ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่สงสัยอาจจะเป็นหญิงสาวถูกลวงมาฆ่าแล้วเผา โดยคนใกล้ชิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่าหญิงดังกล่าวเป็นใคร เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้
หากใครสงสัยมีญาติหายตัวไป ก็ขอให้มาตรวจสอบดูภาพถ่ายที่โรงพัก สภ.สารภีเชียงใหม่ ได้ทุกวัน และมาดูหลักฐานจากศพบางอย่าง เพื่อเป็นประโยชน์ของรูปคดี โดยคดีนี้ทาง พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภาค 5 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 ลงมาควบคุมคดีนี้อย่างใกล้ชิดและสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาให้จงได้ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ปชา เปิดเผยว่า คดีนี้คืบหน้าไปมาก ทางตำรวจภาค 5 ทราบชื่อผู้ตายในเบื้องต้นแล้ว รอขั้นตอนการพิสูจน์ดีเอ็นเอ จาก รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ในวันนี้ โดยมีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของผู้ตายที่สงสัยว่าเป็นลูกสาวของตน มาให้การกับตำรวจว่า ลูกสาวของตนใส่เหล็กจัดฟัน และแขนขวาหักใส่เหล็กดามอยู่ อายุประมาณ 20-25 ปี อยู่ นครนายก โดยทางตำรวจได้นำตัวบุคคลที่แจ้งว่าสงสัยจะเป็นพ่อของผู้ตายไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว ซึ่งค่อนข้างชัดเจน
วันนี้ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี โดยผกก.สภ.พัทยา ได้แจ้งมายังตนว่าได้รับทราบว่าได้จับกุมตัวผู้ชายคนหนึ่งได้ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ และเคยก่อคดีฆ่าหญิงสาวที่พัทยา แล้วนำใส่กระเป๋าเดินทางไปเผาที่ จ.ระยอง และรับสารภาพในคดีฆ่าดังกล่าวแล้ว เบื้องต้น ทางตำรวจที่พัทยา ไม่มีข้อมูลในส่วนของตำรวจภาค 5 ทางตำรวจภาค 5 จึงได้ขอข้อมูลไปยังตำรวจพัทยา เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ของเราไปทำการขยายผล และลักษณะการก่อเหตุการล่อลวงสาวของคนร้ายที่ฆ่าแล้วยัดกระเป๋าเผานั้น เหมือนกับคนร้ายที่มาก่อเหตุที่เชียงใหม่ ซึ่งเบื้องต้นค่อนข้างแน่นอน
สำหรับผู้ตายจากการตรวจสอบและสอบปากคำรวมทั้งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามขนส่งอาเขต เชียงใหม่ และกล้องตามปั๊มน้ำมันเส้นทางไปยังที่เกิดเหตุ ทำให้ตำรวจทราบว่า ผู้ตายน่าจะชื่อนางสาวลลิตา โชคชัชวาลย์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 6 ต.โพธิแทน อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก ผู้หญิงคนนี้ทำงานที่พัทยา เคยแต่งงานแล้วก็เลิกรากัน ก่อนไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟบริการในสถานบันเทิงที่พัทยา
จากภาพกล้องวงจรปิดที่ตรวจสอบนั้นพบว่า หญิงสาวดังกล่าว คือ นางสาวลลิตา ได้เดินทางมากับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเป็นผู้ต้องหาถูกตำรวจพัทยาจับกุมในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์และรับสารภาพเคยก่อคดีฆ่าแล้วเผาที่ระยองมาแล้วอีกคดี และถูกส่งตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพัทยาขณะนี้
โดยจากการตรวจสอบพบว่า นางสาวลลิตา เดินทางมากับนายราชวัตร แก้วกลมรัตน์ อายุ 30 ปี โดยรถบัสมาถึงขนส่งเชียงใหม่เมื่อวันที่ 5 ส.ค. และได้ขึ้นรถรับจ้างออกจากขนส่งไปพร้อมกับนายราชวัตร ที่ถูกจับกุมที่พัทยา จากนั้นก็หายไปไม่ปรากฏตัวอีกเลย กระทั่งต่อมาทาง ตำรวจ สภ.สารภี เชียงใหม่ มาพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกระเป๋านำมาเผา แล้วนำมาทิ้งในป่าละเมาะที่เขตอำเภอสารภีเชียงใหม่ ดังกล่าว
สำหรับพฤติกรรมของนายราชวัตร นั้น มีพฤติกรรมมักอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ และมักจะไปหลอกเหยื่อหญิงสาวตามบาร์เบียร์ ตามแหล่งบันเทิงในพัทยา อ้างว่าอยากหาคู่ใจมาช่วยดูแลตนเองและทรัพย์สมบัติของตนเอง โดยเคยล่อลวงสาวสถานบันเทิงจากพัทยา ไปทำการสังหารอำพรางคดีที่ จ.ระยอง ส่วนนางสาวลลิตา นั้นน่าจะโดนนายราชวัตร หลอกลวงมา ที่เชียงใหม่ แล้วทำการสังหาร ฆ่ายัดกระเป๋าเผาอำพรางคดี
จากนั้นก็ได้หลบหนีกลับไปยัง พัทยา จ.ชลบุรี กระทั่งมาถูกจับกุมข้อหาฉ้อโกงทรัพย์และมารับสารภาพว่า เคยก่อเหตุฆ่าเผาสาว ที่ จ.ระยอง มาแล้ว ส่วนคดีของตำรวจภาค 5 นั้นทางตำรวจภาค 5 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 เดินทางไปร่วมกับตำรวจ จ.ชลบุรี เพื่อทำการสอบปากคำขยายผลเพิ่มเติมในคดีของภาค 5 ต่อไปแล้ว
จากหลักฐานต่างๆ รวมทั้งกล้องวงจรปิด ในโครงการ "โปลิสอายส์ ของตำรวจภาค 5 นั้น ภาพปรากฏชัดเจนว่านางสาวลลิตา เดินทางมาเชียงใหม่กับนายราชวัตร และได้หายตัวไป ประกอบกับคำให้การของพ่อของนางสาวลลิตาว่าลูกสาวของตนจัดฟัน และแขนขวาหักใช้เหล็กดาม อายุ 20-25 ปี ซึ่งข้อมูลหลักฐานชัดเจน และการตรวจสอบทางเฟซบุ๊กของนางสาวลลิตา ก็พบว่ามีภาพคู่กับนายราชวัตรด้วย และเดินทางมาเชียงใหม่ด้วยกัน
โดยนางสาวลลิตา ได้โพสต์ภาพตนเองกับนายราชวัรตร ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้ตำรวจมีข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น และรอผลตรวจดีเอ็นเอ จาก รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ว่า ใช่นางสาวลลิตา หรือไม่ หากใช่ คนร้าย คือ นายราชวัตร อย่างแน่นอน ตอนนี้คนร้าย นอกจากจะโดนข้อหาฉ้อโกงในท้องที่ สภ.พัทยาแล้ว ยังถูกตำรวจ จาก จ.ระยอง ทำเรื่องอายัดตัว คดีฆ่ายัดกระเป๋าเผา
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment