รวบแก๊งแปดเซียนตระเวนใช้ไขควงงัดรถฉกทรัพย์

  เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 ส.ค. พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผบช.น. พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.ธนาวุฒิ เปียผ่อง รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน พ.ต.ท.สิริพงษ์ วรผลึก สว.สส.สน.คลองตัน พ.ต.ท.พลวรรธน์ พุ่มสวัสดิ์ สว.สส.สน.คลองตัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งแปดเซียน จำนวน 5 ราย ประกอบด้วยนายเสรี หรือเส มาลีเมาะ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่จ.528/2558 ลงวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2558 นายปริญญา หรือเจ จันทร์ทับ อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่จ.529/2558 ลงวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 นายโกศล หรือเต้ จักสาน อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 362/2558 ลงวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 นายวีรยุทธ หรือตัส สุขสังขาร อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1452/2558 ลงวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558 และนายณัฐวุฒิ หรือณัฐ ศรีสุยงค์ อายุ 23 ปี


 พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีเทา-เขียว หมายเลขทะเบียน ขวฉ 32 ชลบุรี รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นสปาร์คนาโน สีเทา หมายเลขทะเบียน ฬษย 608 กรุงเทพมหานคร ไขควงปากแบน จำนวน 3 ด้าม อาวุธปืนลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก ตั๋วรับจำนำ จำนวน 5 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 11 เครื่อง ชุดในวันก่อเหตุ และทรัพย์สินของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือรับของโจร และทำให้เสียทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” โดยสามารถควบคุมตัวได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ย่านซอยรามคำแหง 53 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ต่อเนื่องชุมชนนาคภาษิต แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา

  พ.ต.อ.ชัยพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คลองตัน ได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนว่า ถูกคนร้ายงัดแงะรถยนต์ขโมยทรัพย์สิน เหตุเกิดบริเวณโรงแรมฉิมพลี ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนพบรูปพรรณสัญฐานของคนร้ายได้อย่างชัดเจนทราบต่อมาคือนายเสและนายเต้ ซึ่งภาพบันทึกขณะนายเต้ เป็นคนขับโดยมีนายเส เป็นผู้ซ้อนท้าย ขับรถวนมาดูหลายครั้งเมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุงัดกระจกรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ของผู้เสียหาย โดยในครั้งนั้นได้อาวุธปืน และทรัพย์สินอีกหลายรายการ ก่อนพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างหนักกระทั่งบิดาของนายเส รีบพาเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนขยายผลจับกุมนายเต้ได้ที่ชุมชนนาคภาษิต เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้น จึงสอบสวนเพื่อขยายผลกระทั่งสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการคือนายเจ ซึ่งเคยร่วมกับนายเส ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวที่บริเวณหน้า วีไอพีแมนชั่น ซอยปรีดีพนมยงค์ 21 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.00-16.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา

 ด้านพล.ต.อ.เรืองศักดิ์ เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาที่เคยอยู่ใน “แก๊งแปดเซียน” โดยมีนายสรศักดิ์ หรือบังวุฒิ หมั่นงาม เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ จากกรณีทุบกระจกรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ ในพื้นที่สน.ห้วยขวาง ก่อนพยายามขับรถหลบหนีและไล่ชนผู้เสียหาย โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนั้นคือนายเจและนายตัส ซึ่งทั้งสองสามารถหลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อเดือน มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมไว้ได้ในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย ยังคงหลบหนีอยู่คือนายสุรพัฒน์ หรือปอ คำมา ซึ่งเคยร่วมกับนายเส ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.ทองหล่อ

 พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้ง ในพื้นที่ บก.น.1 บก.น.4 และบก.น.5 โดยจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนตระเวนไปเรื่อยๆ ตามสถานที่ที่ประชาชนชอบนำรถยนต์มาจอดที่เปลี่ยวใช้บริการพื้นที่สาธารณะ ร้านค้า หรือลานจอดรถที่ลับตา เมื่อสบโอกาสจะลงมือใช้ไขควงปากแบนงัดกระจกหลังเพื่อขโมยเอาทรัพย์สินภายในก่อนรีบพากันหลบหนี โดยส่วนใหญ่นายณัฐ จะเป็นผู้นำทรัพย์สินที่ได้มาไปจำนำตามโรงรับจำนำต่างๆ ก่อนนำเงินมาแบ่งกันเพื่อใช้เที่ยวเตร่ ซึ่งเคยได้ทรัพย์สินเป็นทองคำมูลค่าสูงสุดถึง 60,000 บาท และรวมมูลค่าความเสียหายที่เคยก่อเหตุทั้งหมดมากกว่าแสนบาท

 “อยากฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนที่นำรถยนต์ของท่านไปจอดที่เปลี่ยว ให้ช่วยกันนำทรัพย์สินของมีค่าทั้งหมดเก็บไว้อย่างมิดชิด อย่าทิ้งไว้เพื่อล่อตาล่อใจพวกกลุ่มมิจฉาชีพ เพราะพวกนี้ก่อนลงมือก่อเหตุจะใช้ไฟฉายส่องดูก่อนหากพบของมีค่าก็จะลงมือก่อเหตุทันที หรือหากหลีกเลี่ยงที่จะนำทรัพย์สินติดตัวมาด้วยไม่ได้ ให้เก็บเอาไว้ในช่องเก็บสัมภาระด้านฝากระโปรงท้าย เพราะจะไม่สามารถงัดแงะและมองเห็นได้” พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าว

ที่มา ข่าวสด