หนุ่มขับ18ล้ออ่วมแน่!! พุ่งชนเสาไฟฟ้าล้มเกลื่อนกว่า 40 ต้น - ทับรถ 22 คันเละ พบคนบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ส.ค. ร.ต.ท.วัฒนกิจ ยอดอาจ ร้อยเวร สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีรถเทรลเลอร์เฉี่ยวเสาไฟฟ้า บริเวณจุดกลับรถหน้าปั๊ม ปตท.เทพารักษ์ กม.18 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าล้มเป็นระยะทาง 1.5 กม. และมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์เสียหายหลายคัน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.บางพลี ทราบพร้อมรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ รถเทรลเลอร์ พ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-7134 เพชรบุรี หางพ่วง 70-7135 เพชรบุรี จอดอยู่บริเวณกลางถนนตรงจุดกลับรถ ด้านหน้ารถมุ่งหน้า อ.บางพลี ส่วนท้ายรถชนเสาไฟฟ้าแรงสูง ล้มเป็นทางยาว บางต้นพาดกลางถนนกินเลนข้ามมาอีกฝั่ง ตรวจสอบพบว่ามีเสาไฟฟ้าสูง 22 เมตร ล้ม และเสาต้นเล็กที่เป็นเสาโทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมด 47 ต้น ตำรวจต้องปิดถนน
เนื่องจากไม่สามารถสัญจรได้ทั้ง 2 ฝั่ง ขาเข้าและขาออก กม.19 ถนนเทพารักษ์ ตั้งแต่หน้า ไทยวัสดุถึง บริษัทไทยแอโรว์ โดยประสาน การไฟฟ้าฯ ทำการตัดกระแสไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายจากการถูกเสาไฟฟ้าล้มทับและสายไฟฟ้าแรงสูงหล่นลงมาทับอีก 22 คัน มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน นำส่งรพ.จุฬารัตน์ 3

สอบสวนนายสุเทพ เอี่ยมสำอางค์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถเทรลเลอร์ พ่วง 18 ล้อ ให้การอ้างว่า เลี้ยวรถออกมาจากบริษัทเพื่อจะทำการกลับรถแต่หักไม่พ้น พอจังหวะถอยรถเพื่อตั้งลำจะเลี้ยวใหม่กลับพลาด ทำให้ถอยชนเสาไฟฟ้าที่อยู่ริมถนนล้มเป็นทางยาว
ด้าน ร.ต.ท.วัฒนกิจ ยอดอาจ ร้อยเวร สภ.บางพลี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานกำลังตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ จากหลายเขตพื้นที่ระดมกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อเร่งเปิดการจราจร โดยเร็ว คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง จึงจะสามารถเปิดการจราจรบางส่วนได้
ส่วนเสาไฟฟ้าที่ล้มทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ จะทำการเปลี่ยนเสาต้นใหม่โดยใช้เวลาประมาณ 1 วัน จึงจะสามารถจ่ายไฟฟ้าได้บ้างส่วน ส่วนผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถเทรลเลอร์นั้น เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ทรัพย์สินทางราชการและทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย รวมถึงขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดทางการไฟฟ้าฯ ได้จ่ายกระแสไฟให้เป็นบางส่วนแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งเร่งเคลียร์สายไฟออกจากพื้นผิวการจราจรไปวางไว้บนทางเท้า และสามารถเปิดการจราจร บนถนนเทพารักษ์ทั้ง 2 ฝั่งได้เป็นปกติแล้ว ส่วนค่าเสียเบื้องต้นประเมินไว้ประมาณ 30 ล้านบาท
ที่มา ข่าวสด
ก็ต้องยอมล้มละลายไป
ReplyDelete