หนุ่มรักคุดเครียดถูกเมียขอเลิกตัดสินใจอุ้มลูกสาววัยขวบเศษปีนเสาประชดชีวิต

พ่อกับพี่ชายอ้อนวอนแต่ไม่สน ขอให้เมียมาหาคนเดียวเท่านั้น จึงจะยอมลง สุดท้ายฝ่ายหญิงต้องรับปากว่าจะกลับมาอยู่ด้วย จึงยอมลงจากเสาส่งสัญญาณ


เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 ก.ค. เกิดเหตุระทึกเมื่อนายมานัส (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี หนุ่มรักคุดเกิดอาการน้อยใจที่ถูก น.ส.บี (นามสมมติ) เมียสาวที่บอกเลิกราหลังเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำเมื่อเกือบสองเดือนที่ผ่านมา จู่ๆเกิดอาการน้อยอกน้อยใจ นำสาวลูกวัย 1 ขวบ 8 เดือน ที่เกิดจากน.ส.บี ใส่กระเป๋าสะพายหลังปีนขึ้นไปบนเสาส่งสัญญาณของ บริษัท CAT ปราจีนบุรี ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ไปที่ความสูงกว่า 60 เมตร จนกระทั่งมีคนมาพบจึงแจ้งอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบพร้อมประสานไปยัง พ.ต.ต.จิระพงษ์ รอดเงิน สวป.สภ.เมืองปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบอีกทางหนึ่ง

ก่อนที่จะพยานยามใช้เครื่องขยายเสียง พูดคุยสอบถามกับนายมานัส ถึงสาเหตุที่ต้องปีนเสาส่งสัญญาณ ทั้งเตือนสติถึงอันตรายหากเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา ซึ่งภายหลังทั้งตำรวจและ อาสาสมัครกู้ภัยพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายมานัสเห็นแก่ลูกที่นำขึ้นไปด้วยจะได้รับอันตรายโดยขอให้ลงมาเจรจาด้านล่าง

แต่ก็ไร้ผล นายมานัส ยืนกรานที่จะขอพูดคุยกับ ภรรยาที่พึ่งเลิกรากันไปเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครกู้ภัยรับปากว่าจะตามตัวมาพบ ทำให้นายมานัสมีอาการสงบลงบ้าง ต่อมา พ่อและพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ทราบข่าวได้เดินทางมาพูดคุยสอบถามถึงปัญหาและขอให้ลงมาเนื่องจากอาจเป็นอันตรายทั้งตัวนายมานัสและลูกสาว แต่ก็ไม่เป็นผล ทางนายมานัส ยังคงยืนกรานที่จะพูดคุยตกลงกับน.ส.บี เพียงคนเดียว ทุกคนจึงทำได้เพียงให้นายมานัส ใจเย็นๆอย่าด่วนสรุปหรือตัดสินใจในทางที่ผิดเพื่อเห็นแก่ลูก

จากการสอบถามญาติๆ ทราบว่า นายมานัส กับเมียซึ่งยังเป็นวัยรุ่นด้วยกันทั้งคู่มักจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำตามประสาเด็กจนครั้งหนึ่งถึงกับเคยแยกทางกันอยู่ แต่ต่อมาทั้งสองก็ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง จนกระทั่งเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาเกิดทะเลาะรุนแรงจนแยกกันอยู่เป็นครั้งที่สอง จนมาวันนี้ วันเข้าพรรษา ที่จู่ๆ นายมานัสก็มาปีนเสาเรียกร้องขอพบเมียสาวอีกครั้ง

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณห้าโมงเย็น นายมานัส ได้ยอมลงมาจากเสาสัญญาณ โทรคมนาคม พร้อมลูกสาวแล้ว หลังน.ส.บี เดินทางมาถึงและรับปากว่ายอมที่จะกลับไปอยู่ด้วยเหมือนเดิม

ที่มา ข่าวสด