ไม่ใช่ตำรวจ! หนุ่มขับเก๋งไหลชนท้ายรถตู้ขอโทษ เผยป่วยทางประสาท (ชมคลิป)
เกิดเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล กรณีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อว่า Chalisa Chairrmwongngam ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับรถตู้และรถเก๋ง หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกัน ซึ่งในเหตุการณ์ ต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนขับรถชน และคนขับรถเก๋ง ได้อ้างว่าตนเองเป็นตำรวจด้วย ซึ่งผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "ช่วยแชร์กันต่อด้วยค่ะ เพิ่งเกิดเมื่อกี้เลยค่ะ” หลังจากที่คลิปได้เผยแพร่ออกไปชาวเน็ตแห่ชมคลิปนี้กว่า 6 แสนครั้งแล้ว และแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
ขณะที่ คนขับรถตู้ได้เปิดเผยกับสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่าน ตนได้ขับรถตู้รับส่งนักเรียนไปจอดรอรับนักเรียน ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ จังหวัดนครปฐม ตามปกติ แต่จู่ๆ ก็มีรถเก๋งที่มาจอดต่อท้ายไหลมาชน และอ้างว่าเป็นตำรวจ ก่อนที่คนขับรถเก๋งจะขับรถหนีไป ซึ่งรถของตนไม่ได้เสียหายอะไรมาก จึงไม่ได้ติดใจเอาความอะไร
ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค. เฟซบุ๊กของตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม หน่วยงานราชการ ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชายในคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ไม่ใช่ตำรวจจริง ใจความส่วนหนึ่งระบุว่า
"ชายคนดังกล่าวที่อ้างตนว่าเป็นตำรวจนั้น ชื่อ นายสามารถ แก้วบุบผา อายุ 50 ปี เป็นลูกจ้างประจำตำแหน่งพนักงานพิมพ์ดีด ประจำสำนักงานสรรพากรภาค 6 (นครปฐม) จึงเชิญตัวนายสามารถมาให้การ สารภาพว่า รถยนต์ของตนได้ไหลไปชนท้ายรถตู้คู่กรณีจริง ประกอบกับญาติของนายสามารถให้การว่า นายสามารถมีอาการป่วยทางประสาท และกำลังรักษาอยู่ที่สถาบันประสาทวิทยาอย่างต่อเนื่อง หากนายสามารถโมโหจะควบคุมตนเองไม่ได้ จะมีอารมณ์รุนแรงและใช้ถ้อยคำรุนแรงด่าทอผู้อื่น หากไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรือโมโห ก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม จึงสอบปากคำ ตรวจสอบประวัติ และทำการเปรียบเทียบปรับนายสามารถในข้อหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ และทำการว่ากล่าวตักเตือนนายสามารถ และแจ้งให้ญาติควบคุมดูแลนายสามารถไม่ให้ออกมาขับรถอีก อีกทั้งคู่กรณีอีกฝ่ายไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เนื่องจารถยนต์ที่ชนกันทั้งสองคันมิได้เกิดความเสียหาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอชี้แจงให้ประชาชนทุกท่านทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ และขอความเห็นใจให้แก่นายสามารถ ซึ่งมีอาการป่วยทางประสาท และกำลังรักษาอยู่ที่สถาบันประสาทวิทยาอย่างต่อเนื่อง และนายสามารถ ได้กล่าวขอโทษถึงคู่กรณีอีกฝ่ายที่ตนได้ใช้ถ้อยคำรุนแรง ไม่สุภาพ และขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ได้แอบอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกต่อไป"
ขอบคุณภาพจาก ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม หน่วยงานราชการ
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
0 comments:
Post a Comment