Saturday, August 22, 2015

ที่แท้ “ดาบตร.” ผู้ต้องหาฆ่าทุบหัว-เชือกรัดคอหนุ่มสักลายเสือเผ่นหมกศพอำพรางคดี


 เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 ส.ค. พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.ภาคภูมิ พิสมัย รอง ผกก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น ได้ควบคุม ด.ต.สมพล ไฮวัง อายุ 49 ปี อยู่ ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สวาย จ.สุรินทร์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 366/2558 วันที่ 21 ส.ค. 2558 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาร่วมกันซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย หรือ เหตุแห่งการตาย นำมาส่งให้กับ พ.ต.อ.ปรีชา พาเมืองพล พงส.ผทค.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.ถวัลย์ สุทธาวรัตน์  สวส.สภ.ย่อยท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่เป็นเจ้าของคดี


 สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้ง พบศพชายไทยโดนฆ่าทิ้งคลองส่งน้ำชลประทาน บ้านสว่างมรรคา หมู่ 8 ต.ดอนหัน สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ใส่เข็มขัดหนังสีดำ มีรอยสักยันต์รูปเสือเผ่นตัวใหญ่กลางหลัง มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ ที่คอถูกเชือกไนล่อนรัดแน่นจนลิ้นจุกปาก สถานที่พบศพ พบเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนสกรีนเป็นภาษาอังกฤษว่า “ซุปเปอร์เดย์ 1987” กับผ้าขนหนูสีบานเย็นอีก 1 ผืน นอกจากนี้ที่ริมตลิ่งพบรอยล้อรถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง


 หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยท่าพระ ได้สอบสวนเบื้องต้นกับ ด.ต.สมพล ไฮวัง ซึ่งได้ให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม แต่จะไปให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว ด.ต.สมพลไปฝากขังศาลจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1 แต่วันนี้เป็นวันเสาร์ศาลทำงานครึ่งวัน จนถึงเวลา 12.00 น.

 พ.ต.อ.ปรีชา พาเมืองพล  พงส.ผทค.สภ.เมืองขอนแก่น ทำหน้าที่ หน.พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยท่าพระ เปิดเผยว่า หลังจากที่พบศพคนตายในบริเวณคลองส่งน้ำชลประทานบ้านสว่างมรรคา ซึ่งเป็นศพที่ถูกฆ่าตายแบบโหดเหี้ยม ทิ้งร่องรอยเพียงเสื้อผ้าเท่านั้น จึงได้นำลายพิมพ์นิ้วมือผู้ตายไปสแกนจนทราบว่าผู้ตายชื่อ นายวสันต์ ยิ่งสุข อายุ 31 ปี อยู่ ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป

 ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งชุดเฉพาะกิจสืบสวนสอบสวนภาค 4 โดยมีกำลังตำรวจสืบสวน บก.สส.ภ.4 , ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.เมืองขอนแก่น ได้สืบสวนจากจุดเกิดเหตุ และไปที่บ้านของนายวสันต์ ได้พบกับภรรยาของนายวสันต์ ก็ทราบว่านายวสันต์ทำธุรกิจค้าไม้พะยูงกับ ด.ต.สมพล ในช่วงวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา นายวสันต์ได้ขับรถยนต์โตโยต้าวีโก้ สี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ – 937 สุรินทร์ พร้อมกับพกเงินสดไปประมาณ 10,000 บาท ออกไปรับ ด.ต.สมพล และลูกน้องของ ด.ต.สมพลไปด้วย (ทราบชื่อภายหลังว่า นายเลิศ เป็นคนลาว)

 นายวสันต์ บอกภรรยาว่า ตนเองกับ ด.ต.สมพล จะไปสำรวจเส้นทางขนไม้พะยูงจาก อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ผ่าน จ.บุรีรัมย์ และมาที่ จ.สุรินทร์ เมื่อมาถึง จ.ขอนแก่นประมาณ 02.00 น. วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ดึกมาก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านอยู่หลายจุดไม่สะดวกในการลำเลียงไม้พะยูง จึงได้เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น และทั้งสองคนได้ไปหาเบียร์มาดื่มกิน โดยลูกน้อง ด.ต.สมพลไปพักผ่อน

 เมื่อทั้ง ด.ต.สมพล กับ นายวสันต์ คุยกันไม่นาน ก็เกิดทะเลาะกันขึ้นมา โดย ด.ต.สมพล กล่าวหาว่านายวสันต์ได้โกงเงินค่าไม้พะยูงจากตนไปหลายหมื่นบาท เงินค่ามัดจำที่มีคนสั่งให้ไปเอาไม้พะยูงมาให้นายวสันต์ก็ไม่ยอมให้ ด.ต.สมพลแม้แต่ครั้งเดียว จึงเป็นเหตุให้ทะเลาะกันรุนแรง และ ด.ต.สมพลได้ใช้เหล็กแป๊บที่ยาวประมาณ 1.5 เมตร ที่พบในรีสอร์ทตีกระหน่ำนายวสันต์ จนบาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่ตาย

 โดยลูกน้อง ด.ต.สมพลก็มาช่วยด้วยการใช้เชือกไนล่อนรัดคอนายวสันต์ และคิดว่านายวสันต์ตายแน่แล้ว ด.ต.สมพลกับลูกน้องได้ใช้ผ้าปูที่นอน และผ้าเช็ดตัวของรีสอร์ทแห่งนั้นมัดผู้ตาย นำศพขึ้นรถยนต์ของนายวสันต์ขับรถมายังสถานที่พบศพ ซึ่งอยู่ในเขตหมู่บ้านสว่างมรรคา จากนั้น ด.ต.สมพลกับลูกน้องก็ขโมยเงินในตัวผู้ตาย รวมทั้งรถยนต์ผู้ตายหลบหนีไป ทำเหมือนว่าคดีนี้เป็นการลักทรัพย์ผู้ตาย

 พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เมื่อสืบสวนทราบว่า ด.ต.สมพลเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายวสันต์ตาย และทำเป็นอำพรางว่าเหตุฆ่าชิงทรัพย์ จึงได้ขอหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น และจับกุมตัวได้ ส่วนลูกน้องอีกคนทราบว่าหลบหนีไปได้ พร้อมกับรถยนต์ปิกอัพ โดย ด.ต.สมพลได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แม้ว่าพนักงานในรีสอร์ท ที่ ด.ต.กับลูกน้อง ที่ก่อคดีฆ่านายวสันต์ ระบุว่าได้เข้ามาพักที่รีสอร์ทดังกล่าวจริงก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องควบคุมตัว พร้อมกับฝากขังศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา ข่าวสด


0 comments:

Post a Comment

กด Like เพื่อร่วมติดตามข่าวใหม่ๆก่อนใคร

Advertisement

ข่าวที่มีผู้อ่านมากที่สุด

Flag Counter

Powered by Blogger.

กด Like = 1 กำลังใจ
กดพื้นที่ว่างหรือกากบาทด้านล่างเพื่ออ่านข่าว

Powered By | Blog Gadgets