ตร.เตรียมแจ้งข้อหาหนักเพิ่ม 6 โจ๋ ฆ่าชายขาพิการ ฝากขังศาลฯ แฟนสาว9 พ.ค.นี้
ความคืบหน้าจากกรณีวัยรุ่นชายจำนวน 6 คน ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายร่างกาย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ อายุ 36 ปี ชายขาพิการอาชีพส่งขนมปัง จนเสียชีวิต หน้ารัานขายขนมปัง ซอยโชคชัย 4 แยก 69 โดยมีมูลเหตุมาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเมาสุราแล้วแซวหาเรื่องแต่ถูกผู้ตายตามกลับไปด่าที่หน้าบ้านเลยยกพวกย้อนกลับมาลงมือก่อเหตุจนเสียชีวิตดังกล่าว กระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โชคชัย ได้นำตัวน.ส.กระแต (นามสมมติ) อายุ 18 ปีแฟนสาวของนายมนต์มนัส หรือเต้ย แสงโพธิ์ อายุ 21 ปี 1ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มาสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น เช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ถูกจับกุม
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 พ.ค. พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตน์ ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานและหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คนหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักฐานต่างๆ ของคณะกรรมการสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญที่อยู่ในสำนวนคดี ในส่วนของ น.ส.กระแต (นามสมมติ) อายุ 18 ปีแฟนสาวของ 1 ใน 6 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุมตัวของ สน.โชคชัย และจะมีการนำตัวไปส่งศาลอาญารัชดาเพื่อขออำนาจศาลฝากขังไว้ ในวันที่ 9 พ.ค.ต่อไป
ด้านนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติของผู้ตายยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ไม่อยากออกมาเคลื่อนไหวทางคดีมากนักเพราะเกรงว่าจะเป็นการกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากเกินไป อย่างไรก็ตามหากว่าในช่วง 1-2 วันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" เพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน หลังพบหลักฐานเพิ่มเติมจากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการเตรียมอาวุธและรวมตัวกันมาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ทางญาติของผู้ตายก็จะพากันเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ในวันจันทร์ที่ 9 พ.ค.นี้อีกครั้งเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวเพิ่มเติมเพราะข้อหาดังกล่าวมีบทลงโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตซึ่งเป็นบทลงโทษที่หนักกว่าข้อหาเดิมที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งดำเนินคดีไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ที่มา ข่าวสด
0 comments:
Post a Comment